วันที่ 4 พ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขเขตหนานไห่ ในมณฑลกวางตุ้งของจีน แถลงเปิดการสอบสวนคณะแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลกาชาดหนานไห่ ในเมืองฝอชานอย่างเร่งด่วน จากกรณีวินิจฉัยผิดพลาด นำทารกแรกเกิดใส่ถุงทิ้งขยะเพราะเข้าใจว่าเสียชีวิตแล้ว ทั้งที่ทารกยังมีชีวิตอยู่
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ต.ค. แถลงการณ์ระบุว่า นางหลิว ตงเม่ย วัย 23 ปี ซึ่งตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน รีบมายังโรงพยาบาลหลังจากตกเลือดและปวดช่องท้อง จากนั้นเข้าห้องคลอดฉุกเฉิน แต่ทารกที่เกิดมาไม่หายใจและไม่ร้องไห้ ผิวเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ ดูเหมือนเสียชีวิตแล้ว ทีมแพทย์จึงจัดการกับร่างทารก แต่ไม่ได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องของโรงพยาบาล
ต่อมาน้องสะใภ้ของนางหลิวมาขอดูศพหลานหลังคลอดได้ 30 นาที และพยาบาลยื่นถุงใส่ทารกให้เป็นถุงพลาสติกสีเหลือง เมื่อดูภายในพบทารกดิ้นได้ ขยับมือและขา ท้องกระเพื่อมและมีฟองอากาศที่ปาก นอกจากนั้นยังตกใจมากที่เห็นว่าทารกเป็นเพศชาย ไม่ได้เป็นเพศหญิงอย่างที่หมอบอกทางครอบครัวก่อนหน้านี้ ซึ่งเมื่อรู้ว่าเด็กไม่ตายพยาบาลจึงรีบนำเด็กเข้าห้องไอซียู เด็กมีอาการทรงตัว
ด้านนางหลิวและสามีเตรียมจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโรงพยาบาล 300,000 หยวน หรือราว 1.5 ล้านบาท ขณะที่ผลการสอบสวนทำให้หัวหน้าแผนกสูตินรีเวช นายแพทย์ 1 คน และนางพยาบาล 2 คนถูกสั่งพักงาน
ฝอชานนิวส์ สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า เหตุที่พยาบาลแจ้งกับครอบครัวว่าทารกเป็นผู้หญิง หวังว่าครอบครัวนี้จะได้ไม่ต้องใส่ใจ เนื่องจากนโยบายลูกคนเดียวที่รัฐบาลจีนบังคับใช้ทำให้ครอบครัวชาวจีนอยากได้ลูกชายมากกว่าลูกสาวเพื่อไว้สืบสกุล