ระวังเวียดนามตีท้ายครัว

หากไม่เกิดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่คราวนี้ก็ไม่รู้เลยว่าประเทศไทยเป็น "มหาอำนาจทางอุตสาหกรรม" ตัวจริงเสียงจริง เฉพาะอย่างยิ่ง "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย" เพราะหลังจากน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งที่อยุธยาและปทุมธานีจมมิดก็เริ่มแผลงฤทธิ์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ได้รับผลกระทบทั่วโลก

ล่าสุด บริษัทโตโยต้า แม้ไม่มีโรงงานอยู่ในนิคม 7 แห่งนี้ ก็โดนหางเลขไปเต็มๆ เพราะโรงงานชิ้นส่วนที่เป็นซับพลายเชนต้องปิดโรงงานป้อนให้ไม่ได้ กระทบชิ่งไปยังโรงงานโตโยต้าที่ญี่ปุ่นต้องลดกำลังการผลิตวันละ 6 พันคัน ลดโอที คนงานเหลือเวลาทำงานวันละ 8 ชั่วโมง

ยิ่งน่าตกใจที่วิกฤตนี้ลามไปไกลถึงโรงงานโตโยต้าในสหรัฐ และแคนาดา ตั้งแต่อินเดียนา เคนตักกี้ เวอร์จิเนีย รวมถึงโรงงาน ที่เมืองออนตาริโอ แคนาดา หยุดผลิตทั้งหมด เพราะโรงงานชิ้นส่วน บ้านเราเป็นฐานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ถึง 100 รายการที่ป้อนให้โตโยต้าทั่วโลก

สำหรับแคนนอนกรุ๊ปที่จมน้ำตัดสินใจย้ายฐานการผลิตหมึกพิมพ์ไปเวียดนามเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับกระแสข่าวว่าบริษัทผลิตไมโครชิพรายใหญ่ของโลกจากสหรัฐที่มีฐานผลิตในเมืองไทย รวมถึงบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่รายหนึ่งของญี่ปุ่นที่หงุดหงิดกับการแก้ปัญหาของไทยเปิดเผยสื่อมวลชนว่ากำลังจะตัดสินใจ ย้ายฐานผลิตไปอยู่เวียดนามแล้วเหมือนกัน

ขณะที่ "คริสโตเฟอร์ คีฟ" ของนิสสันก็บอกว่า บทเรียนจากวิกฤตสึนามิถึงวิกฤตน้ำท่วมในประเทศไทยทำให้รู้ว่าต้องกระจายซับพลายเชนชิ้นส่วนยานยนต์ไปในหลายๆ พื้นที่

เป็นเรื่องเข้าใจได้หากนักลงทุนญี่ปุ่นจะย้ายฐานการผลิตบางส่วนกระจายไปลงทุนในเวียดนาม หรือในอาเซียนเป็นการกระจายความเสี่ยง และคู่แข่งอย่างเวียดนามก็คงจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะหาทางดึงนักลงทุนจากประเทศไทยกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในเวียดนามแทน

ต้องยอมรับว่าเวียดนามก็มีข้อดีกว่าเราหลายอย่าง แรงงานที่ขยัน การตัดสินใจของรัฐบาลเด็ดขาด รวดเร็ว และยอมประเคนสิทธิประโยชน์ให้เต็มที่

แม้จะมีคำปลอบใจจากนักลงทุนญี่ปุ่นจะไม่ทิ้งไทยเพราะซาบซึ้งน้ำใจที่ช่วยเหลือญี่ปุ่นในคราวเกิดสึนามิก็ตาม แต่ก็เข้าใจได้ว่าความอยู่รอดธุรกิจต้องมาก่อนไม่มีใครเอาธุรกิจมาเสี่ยงตราบใดที่ยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในอนาคต

แค่น้ำตา คำขอโทษ หรือไปโรดโชว์ชักชวนอย่างไร คงไม่เพียงพอทำให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความเชื่อมั่น อาจจะต้องคิดถึงขั้นย้ายนิคมในอยุธยา ปทุมธานีที่ขวางทางน้ำไปอยู่ในพื้นที่ดอน ขุดลอกคลองบึง จัดระเบียบผังเมืองใหม่ รวมถึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด

หากปล่อยให้กลับไปเหมือนเดิม นักลงทุนคงหนีหมดแน่ๆ
 

3 พ.ย. 54 เวลา 01:01 9,183 15 140
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...