จากกรณีช้างสีดอพะเฮโพ อายุ 20 ปี เหยียบกับระเบิดฝั่งประเทศพม่า เข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลช้าง ล้มตัวลงนอน และไม่สามารถลุกขึ้นได้ เนื่องจากช้างมีอาการอ่อนเพลียมาก สัตวแพทย์พยายามรักษาทุกทางแล้ว แต่ช้างแสดงอาการเจ็บปวดอย่างมาก สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จึงร่วมหารือกับเจ้าของช้าง กระทั่งใช้วิธีฉีดยาให้ช้างพ้นทุกข์หรือเมตตาฆาต

 น.ส.โซไรดา ซาลวาลา ผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 ต.ค. สีดอพะเฮโพมีอาการอ่อนเพลียล้มตัวลงนอน แสดงอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงและมีเลือดไหลออกจากแผลที่เหยียบระเบิด และไม่ตอบโต้ มีเพียงสายตาที่บ่งบอกถึงความพยายามจะมีชีวิตอยู่ ดังนั้นจึงประชุมกันโดยให้เจ้าของช้างรับทราบด้วย จนได่ข้อสรุปว่า เพื่อไม่ให้ช้างทรมานต่อไปอีก จำต้องใช้วิธีเมตตาฆาต หรือฉีดยาให้ช้างพ้นทุกข์

ช้างเชือกนี้เป็นเชือกที่ 10 กว่าแล้วที่ต้องจากไปด้วยวิธีนี้ ถึงแม้จะสร้างความเสียใจแก่แพทย์ ควาญช้างและเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลมา 40 วัน แต่ก็ต้องทำเพราะไม่เช่นนั้นช้างจะทรมานไปอีกหลายวันกว่าจะล้มเอง

ด้านควาญช้างที่ใช้ชีวิตร่วมกันมากว่า 20 ปี ยังทำใจไม่ได้ จ้องมองร่างที่ไร้วิญญาณและเอาแต่ร้องไห้ตลอดเวลาเพราะความผูกพันต่อกัน ซึ่งเพื่อนควาญช้างด้วยกันและเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อนช้างต้องเฝ้าปลอบใจอยู่ตลอดเวลา

หลังจากที่ช้างหมดลมหายใจแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ทำพิธีปัดพราย ลดน้ำขอมาช้าง และพิธีทางความเชื่อของคนเลี้ยงช้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้นำร่างของช้างฝังที่มูลนิธิเพื่อนช้างต่อไป