ไฟใต้ยังร้อนระอุ สรุปเหตุวางบึ้มป่วนยะลามีมากถึง 33 จุด ทั้งระเบิดแสวงเครื่อง ยิงเอ็ม 79 ถล่มฐาน เสียชีวิตทั้งสิ้น 3 ศพ บาดเจ็บอีกกว่าครึ่งร้อย พุ่งเป้า "ริษวาน แลหะ" แกนนำโจรใต้เป็นคนบงการ ลงมือในวันครบรอบ 7 ปีเหตุการณ์ตากใบ กอ.รมน.สงขลา สั่งคุมเข้มย่านการค้า 3 แห่ง กลางเมืองหาดใหญ่ ป้องกันเหตุลอบวางระเบิดในช่วง 10 วันอันตราย หลังมีข่าวแจ้งเตือนหาดใหญ่ตกเป็นเป้าวางระเบิด

"ปู"ห่วงสถานการณ์ไฟใต้

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุวินาศกรรมวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่จังหวัดยะลา เมื่อกลางดึกวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 7 ปี เหตุสลายการชุมนุมประท้วงหน้าสภ.ตากใบ จ.นราธิวาส ว่า สั่งการให้พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประ ภา รมว.กลาโหม ลงไปดูในพื้นที่ ยอมรับว่าเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องระมัด ระวัง เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์แทรกซ้อนขึ้นมาได้ในช่วงที่เรากำลังแก้ไขปัญหาอุทกภัย แต่ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับทางกองทัพในการตัดสินใจให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะค่อยๆ ทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

เปิดวงจรปิดล่ามือระเบิด

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า รับทราบข้อมูลแล้ว มอบหมายให้พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสธ.ทบ. ลงพื้นที่ไปดูแล การก่อเหตุเป็นการทำเชิงสัญลักษณ์ ทำให้เห็นว่าเราป้องกันการก่อเหตุลอบวางระเบิดได้ยาก เพราะเป็นพื้นที่ชุมชน แต่ในเรื่องอื่นๆ เราสามารถระมัดระวังได้ดี การลอบยิงจะลดลง แต่ระเบิดจะมีมากขึ้น เราไม่สามารถใช้ความรุนแรงได้ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ทำอะไรเลย อย่าไปคิดว่าเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ทำงาน จึงเกิดเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานเต็มที่แล้ว แต่เรายังต้องสู้กันอยู่และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับตัวผู้กระทำผิดได้

ส่วนความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดป่วนเมืองยะลา เวลา 11.30 น. วันเดียวกัน ตำรวจสภ.เมืองยะลา นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพของกลุ่มคนร้ายในขณะที่ก่อเหตุมาตรวจหาพยานหลักฐาน โดยกล้องสามารถจับภาพคนร้ายได้ที่บริเวณหน้าคิวทองสนุกเกอร์ โรงแรมยะลาปาร์ควิว หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นชิบุยะ หน้าร้านขายเสื้อผ้าตรงข้ามมายคอฟฟี่ และหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ซึ่งกล้องสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ชัดเจน พบคนร้ายนำรถจักรยาน ยนต์ซุกวัตถุระเบิดมาจอดไว้ ก่อนเกิดระเบิดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สเกตช์ภาพคนร้ายตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

ผู้ว่าฯ ยะลาสั่งเยียวยาเหยื่อ

ต่อมาเวลา 08.15 น. นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าฯ ยะลา พร้อมด้วยนายเสรี พานิชพงศ์ นายอำเภอเมืองยะลา เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าร้านชิบุยะ ถนนรวมมิตร พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนั้น ศูนย์ปฏิบัติการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบจังหวัดยะลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองยะลา ได้มาตั้งโต๊ะเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด แจ้งความเสียหาย เพื่อรับการช่วยเหลือจากจังหวัดต่อไป

นายกฤษฎา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 25 ต.ค. มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 3 ราย โดยสองคนแรกเป็นราษฎรในพื้นที่อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งเชื่อว่าเป็นคนร้ายที่นำระเบิดเตรียมไปวางในจุดใดจุดหนึ่ง แต่ในขณะที่ขี่จยย.ถึงจุดเกิดเหตุใน ซอยศรีปุตรา ย่านตลาดเก่า รถได้ขับผ่านลูกระนาดกลางถนน ซึ่งเชื่อว่าทำให้ระเบิดกระแทก แล้วเกิดระเบิดขึ้นทำให้ตัวเองเสียชีวิต ส่วนอีกรายเป็นเด็กอายุ 17 ปี ซึ่งทานข้าวต้มอยู่ แล้วเดินออกมาดูเหตุการณ์ ถูกระเบิดที่คนร้ายนำมาซุกในรถจักรยานยนต์ที่นำมาจอดอยู่หน้าร้าน เสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาลยะลา 54 ราย อาการสาหัส 3 ราย ส่วนที่เหลือคาดว่าจะสามารถทยอยกลับบ้านได้ ตนห่วงผู้บาดเจ็บสาหัสทั้ง 3 ราย เนื่องจากอาจจะต้องเสียอวัยวะบางส่วน

"ส่วนทรัพย์สินที่เสียหายนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่มารับแจ้งความ อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งความเสียหายชีวิตกับร่างกายนั้นทางจังหวัดสามารถช่วยเหลือได้ภายใน 72 ชั่วโมง ส่วนเรื่องทรัพย์สินนั้น ทางจังหวัดจะมีคณะกรรมการตรวจสอบ และจะชดใช้ให้ตามความเป็นจริง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับหลักฐาน แต่ยืนยันว่าจะดูแลให้อย่างเต็มที่" ผวจ.ยะลา กล่าว

มีทั้งจยย.บอมบ์-ยิงเอ็ม 79

นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา มีกว่า 20 จุด แต่ที่ทำให้มีพี่น้องประชาชนได้รับบาดเจ็บนั้นมี 8 จุด ที่เหลือเป็นระเบิดที่ซุกซ่อนในกระป๋องเครื่องดื่ม กระป๋องยาฉีดยุง นำมาซุกซ่อนตามจุดต่างๆ และในช่วงใกล้เที่ยงคืน มีคนร้ายยิงเอ็ม 79 มาตกใกล้จุดตรวจขุนไวย์ ย่านตลาดเก่า อีก 2 ลูก แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็จะมีการปรับเปลี่ยนการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีแนวคิดที่จะไปพูดคุยกับท่านแม่ทัพภาค 4 ในการขยายเซฟตี้โซนให้มากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าการทำเซฟตี้โซน สามารถดูแลความปลอดภัยได้

มีรายงานจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ระบุว่า สำหรับผู้เสียชีวิตในซอยศรีปุตรา ย่านตลาดเก่าเขตเทศบาลนครยะลา ทั้งสองราย ทราบชื่อ คือ นายฮัมดี มอซู และนายซาการียา สะนอยานยา เป็นราษฎรจาก อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีขาว หมายเลขทะเบียน กลร 146 ปัตตานี นำวัตถุระเบิดเตรียมไปวางในจุดต่างๆ แต่เกิดเหตุระเบิดขึ้นก่อน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ ใช้กำลังทั้งหมด 60 คน จุดละ 2 คน โดยมีนายริษวาน แลหะ แกนนำเป็นผู้สั่งการ โดยนายริษวาน มีบ้านพักอยู่ในซอยจะปะกียา ย่านตลาดเก่า

แฉป่วนบึ้มทั้งหมด 33 จุด

รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมีทั้งสิ้น 33 เหตุ ประกอบด้วย จุดที่ 1 บริเวณ ซ.ศรีปุตรา (ตลาดเก่า) ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 2 บริเวณหน้าร้านแซบอีสาน 2 ถ.ผังเมือง 4 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 3 บริเวณร้านข้าวต้มคนจน ถ.รวมมิตร ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 4 บริเวณปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถ.เทศบาล 1 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา (เก็บกู้ไว้ได้) จุดที่ 5 บริเวณหน้าร้านมายคอฟฟี่ ถ.รวมมิตร ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 6 บริเวณหน้าบริษัทอริยะมอเตอร์ ถ.เทศบาล 1 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 7 บริเวณหน้าคิวทองสนุกเกอร์ โรงแรมปาร์ควิว ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 8 บริเวณหน้าร้านอาหารชิบุยะ ถ.รวมมิตร ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 9 บริเวณหน้าปากซอย 11 ถ.ผังเมือง 4 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 10 บริเวณร้านเก่งเครื่องเขียน ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา

หน้าโรงเรียนยังไม่เว้น

จุดที่ 11 บริเวณสำนักงานเขตตรวจราชการที่ 12 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 12 บริเวณหน้าร้านคุรุมาร์ท ถ.อาคารสงเคราะห์ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 13 บริเวณตู้โทรศัพท์ตลาดเมืองใหม่ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 14 บริเวณหน้าร้านฟู้ดเซ็นเตอร์ ถ.รัฐคำนึง ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 15 บริเวณโชว์รูมรถยนต์ อีซูซุ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา (เก็บกู้ไว้ได้) จุดที่ 16 บริเวณหน้าโรงเรียนพัฒนาวิทยา ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 17 บริเวณหน้าร้านชมพูมาร์ท ตลาดสดผังเมือง 4 ถ.ผังเมือง 4 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 18 บริเวณบ้านปรามะ ม.13 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 19 บริเวณหน้าร้านเฟอร์นิเจอร์เคเฮ้าส์ ถ.ภูมาชีพ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 20 บริเวณสี่แยกเมอร์รี่ ถ.พุทธภูมิวิถี ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา

ยิงเอ็ม 79 ถล่มซ้ำอีก 2 ลูก

จุดที่ 21 บริเวณสามแยกบ้านท่าสาป (ทางไปอบต.ท่าสาป) ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา จุดที่ 22 บริเวณสามแยกบ้านท่าสาป (ทางไปร.ร.บ้านท่าสาป) ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 23 บริเวณร้านคาราโอเกะมิวสิคเคอเซอร์ ถ.ผังเมือง 4 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 24 บริเวณหน้าร้าน 35 มาลอน ถ.ปิติอุทิศ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 25 บริเวณหน้าโรงแรมยะลารามา ถ.ศรีบำรุง ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 26 บริเวณเชิงสะพานท่าสาป (เส้นทางสาย 418) ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 27 บริเวณบริษัทเฉลียวศักดิ์ยานยนต์ ถ.สิโรรส ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 28 บริเวณหน้าร้านแฮนเมดเฟอร์นิเจอร์ ถ.สิโรรส ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา จุดที่ 29.บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ ม.2 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 30 บริเวณหน้าร้านจงกลนีการไฟฟ้า ถ.พิพิธภักดี ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 31 บริเวณหน้าบริษัทโรงไม้ทุเรียน ถ.สิโรรส ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จุดที่ 32 บริเวณเสาไฟฟ้าบ้านพงยือไร ต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา และจุดที่ 33 ซุ่มโจมตีจุดตรวจขุนไวย์ ถ.หลวงหมายเลข 410 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา คนร้ายยิงด้วยอาวุธปืน เอ็ม 79 จำนวน 2 นัด ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วย นายเสฎวุฒิ ทองจีน อายุ 17 ปี ถูกระเบิดหน้าร้านข้าวต้มบาดเจ็บสาหัส มาเสียชีวิตที่ร.พ.ศูนย์ยะลา นายฮัมดี มอซู และนายซาการียา สะนอยานยา เป็นราษฎรจาก อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทั้งสองเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีประมาณ 60 ราย

กอ.รมน.สั่งเฝ้าระวัง"หาดใหญ่"

วันเดียวกัน กองอำนวยการรักษาความมั่น คงภายใน จ.สงขลา ออกมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ย่านเศรษฐกิจการค้า อ.หาดใหญ่อย่างเข้มงวด หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดทั่วเมืองยะลา โดยแจ้งระวังเป็นกรณีพิเศษในเขตเศรษฐ กิจและสถานที่ท่องเที่ยวในหาดใหญ่ เพราะตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการก่อเหตุร้าย โดยจุดสำคัญ 3 แห่งที่ต้องเฝ้าจับตาเป็นพิเศษ ได้แก่ ย่านการค้าถนนเสน่หานุสรณ์ ถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 ตลาดพลาซ่า และย่านตลาดกิมหยง มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนประจำจุดและเดินลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยย่านการค้าทั้ง 3 แห่ง ตลอด 24 ชั่วโมง

นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.สงขลา เปิดเผยว่า สั่งการให้เน้นการตรวจรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ต้องสงสัย ที่นำมาจอดไว้ในบริเวณย่านการค้า 3 แห่ง และวัตถุต้องสงสัยต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุจักรยานยนต์บอมบ์ และคาร์บอมบ์ในวันที่ 29 ต.ค.- 5 พ.ย. และจะยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด คือ รถจักร ยานยนต์ทุกคันที่จอดไว้จะต้องเปิดเบาะ ส่วนรถยนต์ที่ไม่มีเจ้าของนั่งในรถ จะถูกตรวจอย่างละเอียดและเคลื่อนย้ายออก ยังมีการวางกำลังด่านตรวจ 3 ชั้น ทั้งในพื้นที่รอบนอกและตัวเมืองหาดใหญ่ตลอด 10 วันอันตราย