ลองมาฟัง 10 เหตุผล ของนักข่าวสาวต่างประเทศรายหนึ่ง ที่ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไปใช้เครื่อง tablet ของ Samsung Galaxy Tab และเลิกใช้เครื่องApple’s iPad
นักข่าวสาวต่างประเทศรายนี้ บอกว่า เธอซื้อเครื่อง iPad มาใช้ เพราะว่าต้องการเครื่อง tablet ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวกและง่ายในการใช้งานทุกที่ ไม่ว่าบนรถไฟ รถเมล์ บนนอนเตียง นั่งที่โซฟา ที่โต๊ะทานข้าว ซึ่งเครื่องที่มีขนาดใหญ่ หนัก และใช้งานไม่ค่อยสะดวก อย่าง notebook หรือแม้แต่ netbook ไม่สามารถทำได้ และในช่วงที่ผ่านมา มีแค่เครื่อง iPad เท่านั้นที่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ ในราคาไม่เกิน 1,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 3หมื่นบาท
แต่ความรู้สึกแรกของเธอตอนที่ซื้อ iPad มาใช้งานใหม่ๆ ปนทั้งความรู้สึกดี และไม่ดี .. เธอรู้สึกดีและชอบกับขนาดของตัวเครื่อง เมื่อเทียบกับ notebook, การอ่านอีเมล์, การอ่านหนังสือ หรือการท่องเว็บไซด์ รวมถึงการใช้งานอินเตอร์เน๊ตทั่วไป .. ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกไม่ดี ที่ไม่สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้, การเปิดดูหรือใช้งาน Flash ไม่ได้ โดยเฉพาะเว็บไซด์จำนวนมาก, การพิมพ์งานต่างๆ รวมไปถึงการที่ยังรู้สึกถึงขนาดที่ใหญ่ และความหนักของตัวเครื่องบ้าง นอกจากนี้ ยังรู้สึกไม่ดี ว่าทำไมต้องควบคุมโปรแกรม หรือ apps ที่เธออยากจะติดตั้งในเครื่องของเธอด้วย
นักข่าวสาวคนนี้ เฝ้าคอยทางเลือกอื่นๆ เธอเป็นแฟน Windows คุ้นเคยและอยู่กับ Windows มานาน และใช้มือถือที่ใช้ Windows Mobile มาตั้งแต่แรก จนสุดท้ายได้มาลองใช้งานมือถือ Samsung Galaxy S ก็รู้สึกชอบ และอยากได้อะไรที่เหมือนเดิมแต่มีขนาดใหญ่ขึ้น และนั่นเป็นเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจ เลิกใช้เครื่อง iPad และหันไปใช้เครื่อง Samsung Galaxy Tab แทน
:: ลองมาดู 10 เหตุผล ที่เปลี่ยนไปใช้ Galaxy Tab และเลิกใช้ iPad ของนักข่าวสาวคนนี้กัน ::
เหตุผลที่ 1 – ขนาดของตัวเครื่อง (Size)
เธอบอกว่า ความจริงแล้วเธอชอบขนาดของตัวเครื่อง iPad ตอนที่ซื้อมาครั้งแรก เพราะว่าในเวลานั้น มันเป็น tablet ที่มีขนาดเล็กกว่า และเบากว่า เมื่อเทียบกับ tablet ที่เคยมีมาในอดีต
แม้ว่าจะเล็กกว่า และเบากว่า notebook หรือ netbook แต่ขนาดของตัวเครื่อง iPad ก็ยังมีขนาดใหญ่เกินกว่า กระเป๋าพกพาปกติทั่วๆ ไป (โดยเฉพาะกระเป๋าของสุภาพสตรีส่วนใหญ่) และลืมไปได้เลย หากต้องการจะพก iPad ไว้ในกระเป๋าเสื้อสูท, หรือ กระเป๋ากางเกง หรือการถือเครื่อง iPad ไว้ใช้งานด้วยมือข้างเดียว เว้นแต่คุณจะตัวโตใหญ่มาก
Steve Jobs เคยประกาศว่า “เครื่อง tablet ขนาด 7 นิ้ว จะตายตั้งแต่ออก (dead on arrival)” เขาอาจจะคิดว่า เครื่องใหญ่กว่า จะดีกว่า แต่นักข่าวสาวคนนี้ไม่เห็นด้วย
เครื่อง Galaxy Tab มีขนาด 7.48 x 4.74 นิ้ว (เกือบจะครึ่งหนึ่งของเครื่อง iPad ที่ขนาด 9.56 x 7.47 นิ้ว) มีขนาดที่เหมาะพอดีที่จะถือทำงานด้วยมือข้างเดียว หรือการพกไว้ในกระเป๋าถือที่ไม่ใหญ่นัก หรือกระเป๋าเสื้อสูท หรือกระเป๋ากางเกงที่ใหญ่อีกนิด
เหตุผลที่ 2 – น้ำหนักของตัวเครื่อง (Weight)
เครื่อง iPad มีน้ำหนักประมาณ 730 กรัม (7ขีดกว่าๆ) ดูเบาไปเลย เมื่อเทียบกับเครื่อง tablet ในอดีตที่ใหญ่ และหนักกว่ามาก .. แต่หากคุณถือเครื่อง iPad ไว้ใช้งานสักพักหนึ่ง คุณจะพบว่า คุณเมื่อยมาก เช่นเวลาที่คุณอ่านหนังสือ หรืออ่านบทความยาวๆ หรือเวลาที่พกไปไหนมาไหน ก็ทำให้กระเป๋าคุณหนักขึ้นอีกพอสมควร
หากเทียบกับเครื่อง Galaxy Tab ซึ่งมีน้ำหนักแค่ประมาณ 380 กรัมเท่านั้น (เกือบครึ่งของ iPad) ทำให้เครื่อง iPad ดูหนักไปถนัดตาทีเดียว .. ทำให้มีบางกระแสข่าวบอกว่า เครื่อง iPad ขนาด 7 นิ้ว น่าจะหนักประมาณ 500 กรัมเท่านั้น
แต่บางคนอาจจะคิดว่า ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร แต่สำหรับผู้หญิงแล้ว ความใหญ่ และความหนัก ก็เป็นประเด็นที่สำคัญอยู่พอสมควร
เหตุผลที่ 3 – ขยายพื้นที่เก็บข้อมูลได้ (Expandable storage)
สิ่งหนึ่งที่ iPad ถูกบ่นกันมาก ก็คือ ไม่สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้ เพราะไม่มีช่องสำหรับเสียบการ์ดเพิ่มเติมใดๆ
เธอไม่ชอบวิธีที่ Apple ทำ คือ Apple ไม่ต้องการที่จะให้เราไปซื้อการ์ด SD หรือ microSD เพื่อจะขยายพื้นที่เก็บข้อมูล แต่ Apple ต้องการให้เราซื้อเครื่อง iPad ใหม่ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น
เครื่อง Galaxy Tab มีช่องเสียบการ์ด microSD ซึ่งรองรับการ์ดได้ถึงความจุ 32 GB และช่องใส่การ์ด ก็สะดวกมาก เพราะว่าอยู่ด้านข้างตัวเครื่อง
เหตุผลที่ 4 – เครือข่ายที่รองรับ (choice of 3G carriers)
สำหรับที่อเมริกานั้น เครื่อง iPad ใช้งานได้กับบางเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ซึ่งยังไม่รองรับเครือข่าย CDMA/EVDO ของ Verizon และ Sprint
แต่สำหรับเครื่อง Galaxy Tab นั้น สามารถใช้ได้กับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือหลักๆ ได้ทั้งหมด
เหตุผลที่ 5 – ระบบ Bluetooth ที่ดีกว่า (Better Bluetooth)
เครื่อง iPad มาพร้อมการรองรับ Bluetooth 2.1 ในขณะที่ Galaxy Tab มาพร้อมกับการรองรับ Bluetooth 3.0 ซึ่งทำงานได้เร็วกว่า รองรับถึง 24 MB ต่อวินาที
(หาก Bluetooth 2.1 + EDR support จะรองรับได้แค่ประมาณ 3 MB ต่อวินาทีเท่านั้น)
เหตุผลที่ 6 – กล้องถ่ายรูป 2 กล้อง (Two cameras)
เครื่อง iPad ไม่มีกล้องถ่ายรูปใดๆ ซึ่งความจริงแล้วเธอก็ไม่ค่อยสนใจอะไรนักกับกล้องด้านหลังสำหรับถ่ายรูป เพราะว่าการถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือ ก็สะดวกกว่ามากนัก เทียบกับการยกเครื่อง iPad ขนาด 10 นิ้วขึ้นมา เพื่อจะถ่ายรูป
แต่จากขนาดและรูปร่างของเครื่อง iPad แล้ว น่าจะเหมาะกับการคุยกันแบบภาพเคลื่อนไหว (video conference) ซึ่งจะต้องมีกล้องด้านหน้า
เครื่อง Galaxy Tab มีกล้องถ่ายรูป 2 กล้อง กล้องด้านหลังความละเอียด 3.2 MP และกล้องด้านหน้าความละเอียด 1.3 MP ซึ่งเครื่อง Galaxy Tab มีขนาดเล็กกว่า iPad เกือบครึ่งหนึ่ง ทำให้การยกเครื่องขึ้นมา เพื่อใช้กล้องด้านหลังถ่ายรูป ก็ดูไม่แปลกอะไรมากนัก เมื่อเทียบกับยก iPad ขนาด 10 นิ้วขึ้นมาถ่ายรูป
เหตุผลที่ 7 – การใช้งาน Flash (Adobe’s Flash)
Steve Jobs พูดอย่างชัดเจนว่า เขาเกลียด Adobe Flash และจะไม่ใส่มันลงไปใน iPhone หรือ iPad
นักข่าวสาวคนนี้บอกว่า เธอไม่ใช่แฟนคลับอะไรมากมายนักกับ Adobe แต่เธอก็พบว่า มีเว็บไซด์ และโปรแกรมใช้งานมากมายในโลกนี้ ที่ใช้งาน Flash อยู่ และการใช้งานอินเตอร์เน๊ต บนเครื่อง iPad ที่ไม่มี Flash ดูช่างเป็นประสบการณ์ที่แย่เอาเสียจริงๆ
เครื่อง Galaxy Tab มาพร้อมการรองรับ Flash Player 10.1 ซึ่งทำให้เราดูเว็บไซด์ หรือใช้งานอินเตอร์เน๊ต ที่มี Flash ได้ แม้ว่าอาจจะช้าไปบ้าง (หากใช้งานผ่านมือถือ) แต่ก็ยังดีกว่า เปิดดู หรือเรียกใช้งาน Flash ไม่ได้เลย
เหตุผลที่ 8 – การพิมพ์ข้อความแบบ Swype (Swype)
เครื่อง iPad นั้นใหญ่เกินไปที่จะถือด้วยมือข้างเดียว แล้วใช้นิ้วโป้ว พิมพ์ข้อความต่างๆ (thumb typing) โดยใช้งานได้แค่ใช้นิ้วจิ้มทีละตัวอักษร (touch typing) ซึ่งจะทำให้เกิดความผิดพลาด และช้าด้วย
เครื่อง Galaxy Tab (หรือ Galaxy S หรือมือถือ Android ส่วนใหญ่) มาพร้อมกับการพิมพ์ข้อความแบบ Swype
การพิมพ์ข้อความแบบ Swype ก็คือ การพิมพ์คำใดๆ โดยไม่ต้องยกนิ้วขึ้นจิ้มทีละตัว แค่ลากไปตามคีย์บอร์ด และไม่ต้องกดปุ่มเว้นวรรคด้วย
ถ้าเราไม่เคยใช้ เราอาจจะคิดว่า ยาก และเป็นไปได้อย่างไร แต่เธอบอกว่า ภายในสัปดาห์แรกที่เรียนรู้วิธีใช้ เธอสามารถพิมพ์ได้เร็วมากกว่า 50 คำต่อนาที บนมือถือ!
นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า Apple จะจับ การพิมพ์ข้อความแบบ Swype นี้ลงไว้ในเครื่อง iPhone/iPad แต่เราก็ยังไม่เห็น
หรือถ้าเราชอบการพิมพ์แบบจิ้ม ความจริงเครื่อง Galaxy Tab ก็ทำได้ดีกว่าเครื่อง iPad อย่างเช่น บน iPad หากเราต้องการพิมพ์ตัวอักษรที่ต้องยกแคร่ เราก็ต้องกดปุ่ม Shift แล้วก็ปุ่มตัวอักษร แต่สำหรับบน Galaxy Tab เราแค่จิ้มลงไปบนตัวอักษรนั้น แล้วค้างเอาไว้ ก็จะเป็นอีกตัวอักษรหนึ่ง, หรือจะพิมพ์ตัวเลข บน iPad ก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบคีย์บอร์ดไปเรื่อยๆ แต่บน Galaxy Tab ก็แค่จิ้มค้างไว้
การที่ต้องเปลี่ยนคีย์บอร์ดไปๆ มาๆ บนเครื่อง iPad หลายครั้งก็สร้างความมึนได้เหมือนกัน
เหตุผลที่ 9 – แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาว ไม่เลวร้ายนัก (Comparable battery life)
สิ่งหนึ่งที่เธอ และทุกคนชอบเครื่อง iPad ก็คือ แบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานมาก ประมาณ 10 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับอุปกรณ์อิเลคทรอนิคพกพาอื่นๆ ก็ถือว่า iPad ทำได้ดีมากทีเดียว
เวลาที่เราฟังการสาธิตเครื่อง tablet หลายยี่ห้อ ก็รู้สึกว่า ดีมากจริงๆ จนมารู้สึกแย่ เมื่อมาถึงประโยคที่ว่า “เครื่องเราใช้งานได้ 4 ชั่วโมง”
เธอต้องการเครื่อง tablet ที่พอจะใช้งานได้ใกล้เคียงกับเครื่อง iPad หรืออย่างน้อยสามารถรองรับการใช้งานทั่วๆ ไปได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์ตไฟ
แม้ว่าแบตเตอรี่เครื่อง Galaxy Tab จะใช้งานได้สั้นกว่าเครื่อง iPad แต่ก็ไม่ต่างกัน แบบเลวร้ายอะไรมากนัก เครื่อง Galaxy Tab เปิดดูวิดีโอได้ประมาณ 7 ชั่วโมง หรือหากใช้งานไม่หนักมาก ก็ใช้ได้ยาวนานกว่านั้น (เทียบกับการเปิดดูวิดีโอบนเครื่อง iPad อย่างต่อเนื่องได้ประมาณ 8 ชั่วโมง)
เครื่อง Galaxy Tab สามารถชาร์ตไฟได้ผ่านทางพอร์ต USB แต่จุดอ่อนก็ยังเหมือนเครื่อง iPad ก็คือ สายเชื่อมต่อ ต้องเป็นสายเฉพาะเท่านั้น ไม่เหมือนมือถือ Galaxy S ที่มาพร้อมพอร์ต mini USB
เหตุผลที่ 10 – อิสรภาพ (Freedom)
สิ่งที่เธอชอบมาก สำหรับเครื่อง Galaxy Tab ก็คือ เธอรู้สึกมีอิสรภาพในการติดตั้งโปรแกรมใดๆ ก็ได้ โดยไม่ต้องผ่านการ “อนุมัติ” จากผู้ผลิตตัวเครื่อง
หลายคนที่อึดอัด กับ “การอยู่ภายใต้ นิ้วโป้งของ Apple” ที่กดลงมาบนเรา คงจะรู้สึกดีกับเครื่อง Galaxy Tab ที่ให้อิสรภาพกับเรา ในการเลือกใช้งานโปรแกรม หรือ apps ใดๆ ก็ตาม
รู้สึกมีเสรีภาพ มีอิสรภาพ กับการลงโปรแกรมใดๆ บนเครื่องของเรา ที่ไม่ต้องผ่านการ “อนุมัติ” จากผู้ผลิตมือถือ
แม้ว่าเราจะสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้จาก Android Market แต่นั่นไม่ใช่วิธีเดียวที่เราถูกจำกัดให้ทำได้
และถึงแม้จะมีผู้จำหน่าย Galaxy Tab บางราย อาจจะล๊อกตัวเครื่องไว้ หรือใส่ซอฟต์แวร์อะไรบางอย่าง เพื่อจะควบคุมเราไว้ แต่โปรแกรมง่ายๆ อย่าง “z4root” ก็ทำให้เราเข้าถึง root บน Galaxy Tab ได้ง่ายนิดเดียว
โดยสรุป
เครื่อง iPad นั้น ออกแบบ และทำมาได้ดีมากแล้ว แต่ก็ยังขาดอีกหลายสิ่งที่ควรจะมีอยู่ อย่างเช่น การขยายพื้นที่เก็บข้อมูล, การรองรับการพิมพ์ที่เร็วขึ้น, ขนาดที่หนักและพกพาไม่ค่อยสะดวก, การถือใช้งานด้วยมือข้างเดียวนานๆ เป็นไปไม่ได้, การใช้งาน Flash ไม่ได้, การใช้งาน video conference ไม่ได้ และอื่นๆ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา เครื่อง Galaxy Tab ทำได้
แน่นอน เครื่อง iPad รุ่นถัดไป อาจจะเพิ่มความสามารถหลายอย่างเข้าไป แต่แน่ใจได้เลยว่า จะมีอีกหลายอย่างที่ไม่มีทางที่เครื่อง iPad จะมี อย่างเช่น การรองรับการ์ด เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล, อิสรภาพในการติดตั้งโปรแกรมใดๆ, หรือแม้กระทั่ง Flash
สิ่งที่พูดมา เธอบอกว่า อาจจะไม่สำคัญสำหรับบางคน แต่ก็สำคัญและมีน้ำหนักพอที่เธอจะเลิกใช้ iPad และเปลี่ยนไปใช้ Galaxy Tab แทน