วันที่ 25 ต.ค. เดลี่เมล์รายงานว่า เกิดเหตุการณ์สะท้อนภาวะจิตใจหยาบกระด้างที่ช็อกสังคมจีนขึ้นอีกครั้ง เมื่อชายคนขับรถบรรทุก 6 ล้อในเมืองหลูโจว มณฑลเสฉวน ฝั่งตะวันตกของจีน ขับรถชนเด็กชายฉง เหมาเคอ วัย 5 ขวบ แล้วถอยหลังเพื่อเดินหน้าไปทับซ้ำจนเสียชีวิต คาดว่าเกิดจากความคิดชั่ววูบว่า ถ้าต้องจ่ายเงินชดใช้ให้กับครอบครัวเด็ก เลือกจ่ายค่าทำศพจะถูกกว่าค่ารักษาพยาบาล
เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านหยุนฟง ขณะเด็กชายเคราะห์ร้ายเดินไปโรงเรียน จาง ฉือเฟิน ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นรถบรรทุกถอยกลับมาเล็กน้อย ก่อนจะขับเดินหน้าอีกครั้ง เด็กชายฉงถูกล้อบดขยี้และลากไปไกล 9 เมตร แม่ของเด็กรู้ข่าวรีบมาที่เกิดเหตุแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับศพลูกที่ติดอยู่ใต้ล้อรถ จึงได้แต่นั่งร้องไห้เฝ้าอยู่ด้านหลังรถ เป็นภาพที่สะเทือนใจชาวบ้านผู้พบเห็น
ตำรวจในท้องที่เปิดเผยว่า คนขับรถบรรทุกมีชื่อว่า นายเอ๋า ย้ง อายุ 35 ปี มาจากเมืองหลูเซี่ยน หลังเกิดเหตุนายย้งเป็นคนแรกที่โทรศัพท์แจ้งความกับตำรวจ และเมื่อตำรวจไปถึงจึงกระโดดลงมาจากเก้าอี้คนขับและถามว่าจะต้องจ่ายเท่าไร จากนั้นโต้เถียงกับครอบครัวของเด็กนานร่วม 7 ชั่วโมงเรื่องค่าเสียหาย และปฏิเสธว่าไม่ได้ถอยรถเพื่อขับไปทับเด็กซ้ำ ระหว่างนั้นศพเด็กยังอยู่ที่เดิม ไม่ได้เคลื่อนย้ายออกไป เนื่องจากชาวบ้านโกรธแค้นและเรียกร้องให้คนขับรถบรรทุกรับผิดชอบด้วยการจ่ายเงินชดใช้ทันที
คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สองที่เกิดขึ้นห่างจากกรณีของเด็กหญิงเยว่ เยว่ วัย 2 ขวบในเมืองฝอซาน มณฑลกวางตุ้งที่ถูกรถชนถึงสองครั้ง นอนกลิ้งบนถนนและไม่มีใครช่วยเหลือที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ซึ่งจุดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงการขาดสามัญสำนึกและความแล้งน้ำใจของคนจีนท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวรวดเร็วเกินไป