เกมนี้เริ่มได้ 22 นาที แมนฯ ซิตี้ออกนำก่อน เจมส์ มิลเนอร์ จ่ายบอลเข้ากลางมาให้มาริโอ บาโลเตลลี่ ยิงเล่นทางจากบริเวณเส้นเขตโทษบอลพุ่งหนีมือเดอ เกีย เข้าเสียบข้างตาข่ายให้ทีมเยือนขึ้นนำก่อน 1-0
หลังเสียประตูแมนฯ ยูเปิดเกมรุกเข้าใส่หวังทวงประตูคืน แอชลีย์ ยัง ได้โอกาสยิงนอกกรอบเขตโทษแต่บอลผ่านหน้าประตูออกไป นาที 33 แอนเดอร์สัน ได้บอลจากการสกัดของกองหลังแมนฯ ซิตี้ ยิงไกลนอกกรอบแต่บอลยังไปตรงตัวโจ ฮาร์ท
ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที แมนฯ ยูได้ลุ้นอีกครั้ง จอห์นนี่ อีแวนส์ ได้โอกาสที่หน้าปากประตูแต่ยิงวืด พลาดได้ประตูตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบครึ่งแรกทีมเยือนนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังนาที 46 เซอร์จิโอ อเกวโร่ จ่ายบอลทะลุช่องให้บาโลเตลลี่ กำลังวิ่งเข้าไปดวลกับนายทวารแต่ถูก อีแวนส์ ดึงล้มที่หน้าเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเลควักใบแดงไล่อีแวนส์ ออกจากสนามทำให้แมนฯ ยูเหลือ 10 คน
ทีมเยือนอาศัยความได้เปรียบตัวผู้เล่น และมาได้ประตูหนีห่าง 2-0 ในนาที 60 จากจังหวะที่ดาบิด ซิลบา ครองบอลหลอกกองหลังแมนฯ ซิตี้ ก่อนจ่ายให้มิลเนอร์ ที่วิ่งขึ้นมาเติมทางขวาแทงบอลเข้ากลางให้บาโลเตลลี่ วิ่งเข้าชาร์จโล่งๆหน้าประตู อีก 5 นาทีถัดมาเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แก้เกมด้วยการส่งชิชาริโต้ ลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจและมาได้ประตูที่ 3 จากการลูกยิงเผาขนของเซอร์จิโอ อเกโร่ ในนาที 69 แมนฯ ยูยังไม่ละความพยายาม และมาได้ประตูตีไข่แตกจากการทำชิ่งของดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กับชิชาริโต้ และเป็นเฟล็ทเชอร์ ที่ปั่นโค้งนอกกรอบบอลเข้าเสียบสามเหลี่ยมเข้าไป นาที 89 เอดิน เซโก้ พังประตูที่ 4 ให้ทีมเยือนหนีห่างออกไปอีก
แมนฯ ซิตี้ ยังไม่ผ่อนเกม ซิลบา มายิงให้ทีมเยือนหนีห่างเป็น 5-1 แค่นั้นยังไม่พอ เซโก้ ได้บอลหลุดเดี่ยวตั้งแต่ครึ่งสนาม กระชากบอลมายิงผ่านมือเดอ เกีย ให้แมนฯ ซิตี้ บุกมาถล่มแมนฯ ยู 6-1 รั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป