ไม่ใช่ว่าจะมีแต่มนุษย์อย่างเรา ๆ เท่านั้นที่กำลังประสบภัย เหล่าบรรดาสิงสาราสัตว์
ก็เกือบที่จะเอาตัวไม่รอดด้วยเหมือนกันล่าสุดกับเจ้าโลมาตัวน้อยที่มีอายุเพียงไม่กี่
วันเท่านั้น ก็เกือบเอาชีวิตกลางทะเลไม่รอด เนื่องจากสายสะดือของมันดันพันกัน
แน่น โชคดีที่มีอาสาสมัครใจกล้า โดดลงทะเลไปช่วยเหลือไว้ได้ทันเสียก่อน
เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ชายหาดพันต้า โคโลราด้า (Punta Colorada) ในประเทศอุ
รุกวัย โดยเจ้าโลมาตัวน้อยซึ่งเป็นโลมาสายพันธุ์ ”ลา พลาต้า” (La Plata) ซึ่งมีอายุเพียง
แค่ 7 วันเท่านั้น มีสายสะดือจากท้องแม่ที่พันกันแน่น จนทำให้เกือบจะเอาชีวิตกลางทะเล
ไม่รอด โชคดีที่นายริชาร์ด ทีซอร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วย “SOS Rescate de Fauna
Marina” หน่วยงานที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์ทะเลและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ไป
เห็นเข้าและเข้าไปช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลา
หลังจากที่ทีซอร์ ได้ช่วยเหลือและนำตัวเจ้าโลมาตัวน้อยกลับมารักษาบนชายฝั่งได้แล้ว
เขาก็ได้ยืนยันด้วยตัวของเขาเองเลยว่า “เมื่อครั้งที่เข้าไปช่วยเหลือแรก ๆ เจ้าโลมามี
อาการที่ดูอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด แต่ ณ ขณะนี้เจ้าโลมานั้นปลอดภัยดีแล้ว และจะอยู่ใน
ความดูแลของหน่วยสักพัก ก่อนที่จะนำกลับไปปล่อยสู่ท้องทะเลต่อไป”
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่การช่วยเหลือลูกโลมาครั้งแรกของเขาและหน่วยงานแต่อย่างใด เพราะ
เมื่อย้อนไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เขาและทีมได้เคยช่วยเหลือลูกโลมาที่มีอายุ
เพียงแค่ 10 วันมาแล้ว โดยเจ้าลูกโลมาตัวนั้นได้รับบาดเจ็บอยู่กลางทะเล แต่ทว่า มัน
กลับลาจากโลกนี้ไปแล้ว เนื่องจากทนพิษของบาดแผลไม่ไหว ประกอบกับภาวะอุณหภูมิ
ในร่างกายของมันที่สูงเกินผิดปกติ จึงทำให้มันหยุดหายใจไปในที่สุด หลังจากที่ได้รับการ
ช่วยเหลือเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
สำหรับโลมา ”ลา พลาต้า”แล้ว ถือเป็นโลมาที่มักจะถูกพบบ่อย ๆ ตามแนวชายฝั่ง
แอตแลนติกในแถบอเมริกาใต้ จะอาศัยอยู่ตามมหาสมุทรและตามปากแม่น้ำที่มีน้ำเค็มไหล
ผ่าน ที่สำคัญไปกว่านั้น พวกมันยังถูกยกขึ้นบัญชีแดงให้เป็นสัตว์ที่อยู่ในข่ายที่เสี่ยงต่อ
การถูกคุกคาม ทั้งการการถูกจับ การล่า และอื่น ๆ อีกสารพัด ซึ่งจากรายงานได้ระบุไว้ว่า
ในแต่ละปีจะมีโลมา ลา พลาต้า ตายไปถึง 2,000 – 4,000 ตัวเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็เป็นผล
มาจากการถูกคุกคามโดยมนุษย์และผลกระทบจากภาวะโลกร้อนนั่นเอง
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.facebook.com/kapookdotcom