ผู้สื่อ ข่าวข่าวสดรายงานบรรยากาศงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคที่
จ.หนองคาย นักท่องเที่ยวเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอโพนพิสัย และอำเภอรัตนวาปี
พื้นที่ที่เคยเกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเป็นประจำทุกปี โดยเข้าจับจองพื้นที่ริมฝั่ง
แม่น้ำโขง ริมฝั่งแม่น้ำโขง วัดไทย ต.จุมพล อ.โพนพิสัย
ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่เน้นกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
ทำบุญไหว้พระ เพื่อรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคในช่วงพลบค่ำ
ในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ยังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่อำเภอโพนพิสัย
อากาศอบอ้าว และท้องฟ้ามืดครึ้ม ทำให้นักท่องเที่ยวแตกฮือออกจากริมฝั่งแม่น้ำโขง
ฝนตกหนักประมาณ 20 นาที นักท่องเที่ยวได้เฮ เมื่อบั้งไฟพญานาคลูกแรกเกิดขึ้นเมื่อ
เวลา 18.10 น. ที่บ้านหนองแก้ว ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จำนวน 2 ลูก และทยอยเกิดขึ้นอีก
หลังจากนั้นมีลูกไฟเกิดขึ้นต่อเนื่องที่บ้านน้ำเป ต.รัตนวาปี บ้านหนองแก้ว บ้านตาลชุม
ต.รัตนวาปี อย่างไรก็ตามพบว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวไม่ค่อยมากเหมือนทุกปีที่ผ่านมา
เนื่องจากเกิดปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัด และวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ยัง
เป็นวันพุธ กลางสัปดาห์ ไม่ใช่วันหยุดราชการ
ด้านนายประเสริฐ วิทยาภัทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า ทุกปีที่ผ่าน
มา จะมีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ก่อนงานวันออกพรรษา 1-2 วัน
มีการท่องเที่ยวในจังหวัดและข้ามไปเที่ยวประเทศลาว ก่อนจะชมบั้งไฟพญานาค แล้ว
เดินทางกลับภูมิลำเนา จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 300,000-400,000 คน
ขณะที่ปีนี้ ได้แยกจังหวัดบึงกาฬออกไปแล้ว ประกอบกับน้ำท่วมหลายพื้นที่ และวันออก
พรรษาไม่ใช่วันหยุดราชการ น่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไม่เกิน 100,000 คน
และคาดว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวในภาคอีสานที่ไม่ประสบอุทกภัย รวมถึงภาคใต้บางส่วน
โดยเฉลี่ยแล้วนักท่องเที่ยวจะใช้จ่ายในการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลออกพรรษา
2,000–3,000 บาทต่อคนต่อวัน เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวลดน้อยลงย่อมทำให้รายได้จาก
การท่องเที่ยวลดลงตามไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงเวลา 20.00 น. มีบั้งไฟพญานาค ทั้งหมด 93 ลูก เกิดขึ้นมาก
ที่สุด ที่บ้านน้ำเป และบ้านท่าม่วง ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย
ที่มา: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeE9EUXlOekkzTmc9PQ==§ionid=