ขับรถตะลุยน้ำท่วม ...เคล็ดไม่ลับเมื่อต้องผจญภัยพิบัติ

 

กลายเป็นเหตุการณ์ใหญ่ระดับประเทศไปแล้วสำหรับเรื่องราวของน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้น

ในหลายๆจังหวัดของประเทศไทย แต่มันก็ทำให้เห็นว่าคนไทยเราไม่เคยทิ้งกันในยามยาก

ไม่แบ่งสี ไม่แบ่งพรรคพวก เพราะเราคือคนไทยเลือดเดียวกันที่ความสามัคคีครั้งนี้จะช่วย

ให้เราทุกคนสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้

ก่อนหน้านี้เราเคยได้กล่าวถึงเรื่องราวการดูแลรถในภาวะน้ำท่วม ทั้งการเตรียม พร้อม ก่อน

และ หลัง จากเหตุการณ์ไปบ้างไม่มากก็น้อย แต่ก็ยังมีหลายคนถามมาว่า แล้วกับการ

ขับรถในพื้นที่น้ำท่วมนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง และวันนี้ เราก็จะให้เพื่อนๆได้รู้กันว่าการ

ขับรถในสภาวะน้ำท่วมไม่ยากอย่างที่คิด

1.ประเมินสถานการณ์ ข้อสำคัญข้อแรกก่อนลุยน้ำท่วมคือประเมินสถานการณ์ที่ถูกต้องกับ

ระยะทางที่น้ำท่วม ระดับความลึก ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้จากรถคันที่สวนมาหรือคันข้าง

หน้า ตลอดจนความเชี่ยวของน้ำ ก็ล้วนเป็นปัจจุบันสำคัญที่คนขับนั้นจำเป็นต้องรู้ ตาม

ปกติแล้วเรามักจะให้คำแนะนำว่ารถแต่ละประเภทนั้นสามารถลุยน้ำได้ในระดับประมาณ

ครึ่งล้อของรถคันนั้นๆ ถือว่าเป็นระดับที่ยังปลอดภัยอยู่ แต่ถ้าเกินกว่านั้น ก็เป็นเรื่องราว

ของการมีความเสียงต่อการเดินทาง อาจจะตายกลางทางท่ามกลางกระแสน้ำ แต่ก็ไม่ใช่

ว่าจะไปไม่ได้เสียเลย

2.เตรียมตัวเปียกกันได้ เมื่อเราประเมินสถานการณ์เรียบร้อย คำนวนอย่างว่องไว และเรา

ตัดสินใจว่า เราจะมุ่งหน้าต่อไปยังทางที่น้ำท่วมข้างหน้า ก็ได้เวลาที่เราจะเตรียมพร้อมใน

การลงน้ำ โดยปกติแล้วที่เราเห็นเรามักจะขับรถลงไปเฉยๆ แต่นั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เพราะ

น้ำมีมวลและความหนาแน่นมากกว่าอากาศ ดังนั้น เมื่อเราขับรถลุยน่ำเราจำเป็นต้องลง

เกียร์ต่ำโดยใช้เกียร์ 1 สำหรับรถเกียร์ธรรมดา และ เกียร์ L สำหรับเกียร์อัตโนมัติ และที่

สำคัญห้ามลืมคือปิดระบบปรับอากาศ เพราะการทำงานของระบบปรับอากาศนั้น ในรถบาง

รุ่นที่เป็นพัดลมแยก ทำให้มันตีน้ำไปสู่ชิ้นส่วนต่างๆ วึ่งหากแจ๊คพอทไปโดนพวกระบบจุด

ระเบิดก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณได้ลอยคอกลางน้ำท่วมแน่ๆ

 

3. Walking Speed เรื่องสำคัญ ในการลุยอุปสรรคต่างๆนั้น โดยเฉพาะเมื่อน้ำท่วมนั้น การ

ใช้ความเร็วต่ำเป็นเรื่องสำคัญ และเจ้าความเร็วรถยนต์ในรอบเดินเบาะ หรือที่ทางเทคนิค

นั้นเรียกว่า Walking Speed ก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับรถลุยน้ำท่วม การใช้ความ

เร้วรอบเดินเบานั้นมีข้อดีที่ความเร็วสม่ำเสมอคงที่ ทำให้แรงดันในท่อไอเสียมีความคงที

ซึ่งเมื่อมีแรงดันคงที่น้ำก็จะไม่สามารถไหลย้อนเข้าไปได้ ทำให้เครื่องยนต์นั้นไม่ดับกลางทาง

บางครั้งในกรณีที่การจราจรหนาแน่นและรถเคลื่อนตัวช้ามาก พยายามใช้การเว้นระยะห่าง

ประมาณ 1-2 ช่วงคันรถ เพื่อให้เราสามารถเคลื่อนตัวไปได้อย่างช้าๆ แต่สม่ำเสมอ ช่วย

ลดความเสี่ยงในการตายกลางทาง


 

4.คลื่นน้ำ ตัวอันตราย.. ปัญหาสำคัญของการขับรถลุยน้ำนั้นไม่ได้เกิดจากตัวน้ำ แต่โดย

ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากเพื่อนร่วมทางทั้งคันหน้า หรือรถที่สวนมานั่นเอง คลื่นเป็นสิ่งที่เลี่ยง

ไม่ได้เมื่อเราต้องขับรถลุยน้ำ แต่เราต้องพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะคลื่น ซึ่งสามารถเกิด

ระดับน้ำที่สูงผิดปกติสามารถทำอันตรายต่อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ โดยเฉพาะการเข้ากรอง

อากาศ ซึ่งอาจทำให้น้ำถูกดูดเข้าไปยังเครื่องยนต์นั้น นับว่าเป็นเรื่องสำคัญ อีกประการคง

ไม่พ้น การทำอันตรายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า โดยเฉพาะ กล่องประมาลผลหลัก ที่หากเกิดการ

ช๊อตก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าได้ตายกลางทางแถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกบานตามมาแน่นอน

 

5.เร่งเครื่องสูง..เรื่องนี้ไม่จำเป็น หลายคนมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการขับรถลุยน้ำว่า ต้อง

เร่งเครื่องสูง เพื่อทำให้น้ำไม่สามารถเข้าท่อไอเสียได้แต่ความจริงแล้วนั่นเป็นเรื่องไม่ถูก

ต้อง ทุกครั้งที่คุณขับรถโดยมีการเร่งเครื่องสูงนั้น เมื่อรอบเครื่องต่ำลงจะทำให้เกิดแรงดัน

ที่น้อยลงในท่อเสีย ผลคือเกิดแรงต้านน้ำลงทำให้น้ำทะลักเข้าท่อไอเสียและสามารถ

ทำให้เครื่องยนต์ดับได้

 

อีกข้อสำคัญนั้นก็คือการเร่งเครื่องทำให้เกิดความร้อนสะสมในเครื่องสูง แต่ด้วยเราวิ่งอยู่

ในน้ำทำให้เครื่องยนต์ที่ร้อนถูกระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เครื่องยนต์บาง

ประเภทอาจจะปรับตัวไม่ทันแบละสุดท้ายลากลับบ้านเก่า ที่ยังไม่นับระบบระบายความ

ร้อนหม้อน้ำที่จะทำงานเมื่อความร้อนในหม้อที่ถ่ายเทจากเครื่องยนต์สูงด้วย

 

6.ลดการใช้เบรกในพื้นที่น้ำท่วม เราไม่ปฏิเสธว่าเบรคคือสิ่งเดียวที่ทำให้รถหยุด แต่ใน

การขับในพื้นที่น้ำท่วมนั้นการใช้เบรกอาจะทให้อันตรายในภายหลังได้ โดยเฉพาะอาการ

เบรกลื่นซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเบรกมีความชื้นสูงหรือเปียกน้ำ ดังนั้น พยายามลดการใช้เบรกใน

บริเวณน้ำท่วม โดยอาจจะใช้การชะลอความดร็วแทนเมื่อประกอบกับแรงต้านจากน้ำ รถ

ของคุณจะมีเฉื่อยลงอย่างรวดร็ว แต่หากเลี่ยงไม่ได้ในภาวะการจราจรคับคั่งในพื้นที่น้ำ

ท่วมก้ให้ใช้เบรกได้ แต่เมื่อพ้นพื้นที่น้ำท่วมให้ย้ำเบรคบ่อยๆ เพื่อไล่ความชื้น และหลีก

เลี่ยงการใช้เบรกหนักๆ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ทั้ง6 ข้อนี้เป็นทริคในการขับขี่ผ่านพื้นที่น้ำท่วมในสภาวะการณ์ต่างๆ ทว่า ข้อสำคัญสุด

นั้นคงไม่พ้นการประเมินสถานการณ์ที่ต้องรู้จักรถเราว่า ขนาดไหนที่จะไปได้ และประมาณ

ไหนที่เราจะไม่สามารถไปได้

 

แต่ ตอน นี้ คิด ว่า ทุก พื้น ที่ น่า จะ ใช้ เรือ กัน หมด แล้ว เน้อ

Credit: http://auto.sanook.com/item/2950-ขับรถตะลุยน้ำท่วม-
10 ต.ค. 54 เวลา 18:24 5,474 4 120
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...