ฉะนั้นแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจึงขอสรุปและรวบรวมผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีการเปิดตัวและเผยโฉมกันไปในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้คุณ ๆ ได้รับทราบกันแบบทั่วถึงและเข้าใจในแบบง่าย ๆ ว่าแต่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ว่าจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย...
1. iPhone 4s
แม้ว่าการเปิดตัวไอโฟนตัวล่าสุดของแอปเปิ้ล จะทำให้เหล่าบรรดาสาวกทั้งหลายผิดหวังกันไปเป็นทิวแถว เพราะไม่ใช่ iPhone 5 อย่างที่คาดการณ์ แต่ด้วยลูกเล่นต่าง ๆ รวมถึงประสิทธิภาพของเครื่องตัวใหม่นี้ ก็ทำให้ iPhone 4s เป็นที่น่าจับตามองอยู่พอสมควร สำหรับ iPhone 4s แล้ว มีหน้าตาเหมือนกับ iPhone 4 แต่กลับมาพร้อมกับราคาที่เบาลง ขณะที่สเปกได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นเท่าตัว
...ไม่ว่าจะเป็น การทำงานของแบตเตอร์รี่ที่ยาวนานมากขึ้น กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด FullHD 1080p หน่วยประมวลผล Apple A5 Dual Core ที่เร็วกว่าตัวเดิม 2 เท่า พร้อมกับระบบ Siri ที่เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ไอโฟนสามารถสนทนากับผู้ใช้ผ่านการประมวลผลจาก AI แต่ภาษาที่รองรับกับ Siri ตอนนี้มีเพียง 3 ภาษา คือ อังกฤษ เยอรมัน และฝรั่งเศส
ราคาของ iPhone 4s รอบนี้เปิดตัวออกมา 3 รุ่น คือรุ่น 16GB ราคา 199 ดอลล่าร์สหรัฐ, รุ่น 32GB ราคา 299 ดอลล่าร์สหรัฐ และรุ่น 64GB ราคา 399 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยจะทยอยวางจำหน่ายที่สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่น ในวันที่ 14 ตุลาคม 2554 ก่อนที่จะขยายไปจำหน่ายอีก 22 ประเทศ (ไม่รวมประเทศไทย) ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ต่อไป ทั้งนี้ ราคาที่ว่ามาทั้งหมดนั้น จะผูกขาดกับสัญญาเครื่องอีก 2 ปี
2. Kindle Fire
มาดูผลิตภัณฑ์ที่เป็นแท็บเล็ตกันบ้าง สำหรับ "Kindle Fire" ตัวนี้เป็นแท็ตเล็ตของค่าย "Amazon" ที่มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีน LCD ที่ให้สีสวยสด ขนาด 7 นิ้ว มีพื้นที่เก็บข้อมูล 8GB เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi (แต่ไม่ใช่ 3G) ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ บริการสารพัดชนิดของ Amazon ไม่ว่าจะเป็น Amazon Appstore, Kindle e-book และมีสมาชิก Amazon Prime ให้ทดลองใช้อีก 30 วัน
ทั้งนี้ Kindle Fire มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 199 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,000 บาทเท่านั้น และมีการเปิดให้จองล่วงหน้ากันแล้ว ก่อนจะเริ่มส่งสินค้าตามยอดที่จองในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ต่อไป
3. Kindle e-reader
อีกหนึ่งแท็ตเล็ตของค่าย Amazon ที่น่าสนใจอยู่เหมือนกันนั่นก็คือ "Kindle e-reader" ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ความเบา ขนาดที่เล็ก ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่รวดเร็ว Kindle e-reader มาพร้อมหน้าจอขนาด 6 นิ้ว มีความเบากว่ารุ่นอื่น ๆ ถึง 30 % แถมยังมีหน้าจอแสดงผลแบบหมึกหนังสือพิมพ์ เพื่อให้การอ่าน E-Book ของคุณดูเหมือนการอ่านหนังสือพิมพ์ได้ยังไงอย่างงั้น นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ได้รวดเร็วอีกด้วย โดย Kindle e-reader มีราคาอยู่ที่เครื่องละ 79 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,400 บาท
4. Kindle Touch
ยัง...ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น Amazon ยังคงจัดเต็มและเปิดตัวเพิ่มอีกหนึ่งรุ่นนั่นก็คือ Kindle Touch ซึ่งถือเป็น e-Reader แบบทัชสกรีนตัวแรกของ Amazon ที่เป็นทัชสกรีนแบบเพียว ๆ ไม่มีคีย์บอร์ดเหมือนรุ่นอื่น ๆ มีการทำงานของแบตเตอร์รี่ที่ยาวนานมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังมีให้เลือกถึง 2 รุ่น ทั้งแบบที่มีระบบ 3G Wi-Fi และแบบ Wi-Fi ธรรมดา ๆ โดยรุ่นที่เป็น 3G นั้นจะมีราคาอยู่ที่ 149 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,500 บาท และมีการเปิดให้จองล่วงหน้ากันแล้ว ก่อนจะเริ่มส่งสินค้าตามยอดที่จองในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ต่อไป
5. JVC GC-PX10
เปลี่ยนมาดูเรื่องราวของโลกหลังเลนส์กันบ้าง ด้วยกล้องถ่ายภาพของค่าย "JVC" อย่าง "GC-PX10" ที่เป็นกล้องดิจิตอลไฮบริดที่ให้ความละเอียดในการถ่ายภาพสูง ด้วยความบะเอียดกว่า 12 ล้านพิกเซล และบันทึกวิดีโอระดับ FullHD พร้อมหน่วยความจำภายในที่มีพื้นที่สูงถึง 32 GB และยังเพิ่มการ์ดแบบ SDXC / SDHC / SD ได้อีกด้วย แถมยังมีความเร็วในการบันทึกภาพวิดีโอสูงสุดที่ 300 เฟรมต่อวินาทีอีกต่างหาก ทั้งนี้ GC-PX10 มีราคาอยู่ที่ 899.95 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว ๆ 27,000 บาท
6. Nikon J1 และ V1
เปิดตัวทีเดียว 2 รุ่นรวด สำหรับกล้องคุณภาพดีของค่าย "Nikon" โดยสองรุ่นใหม่ ๆ ทั้ง "J1" และ " V1" มีจุดเด่นตรงที่สามารถสับเปลี่ยนเลนส์กล้องกันได้อย่างง่ายดาย โดยทั้งสองรุ่นนี้จะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยในเรื่องของรายละเอียด ต่าง ๆ แต่ที่เหมือนกันก็คือ เลนส์ขนาด 10 - 30 มิลลิเมตร พร้อมกับความละเอียด 10 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอแบบ full HD 1080p และถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 60 ภาพต่อวินาที
ในส่วนของราคาจะมีความแตกต่างกันไป โดย J1 จะอยู่ที่ 649.95 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 19,500 บาท ขณะที่ V1 มีราคาที่ 899.95 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 27,000 บาท
7. Toshiba REGZA 55X3
ปิดท้ายกันที่โทรทัศน์มากคุณภาพของ "Toshiba" ที่ได้ออกรุ่นใหม่อย่าง "REGZA 55X3" ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่เป็นโทรทัศน์ที่มีความละเอียดของหน้าจอ 3,840 x 2,160 พิกเซล ปรับระดับความคมชัดได้ถึง 4 ระดับ แถมด้วยแว่นแบบ 3 มิติได้ไว้ชมภาพยนตร์ 3 มิติแบบฟรี ๆ ทั้งนี้ REGZA 55X3 จะเริ่มออกวางจำหน่ายในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ขณะที่ในส่วนของราคา ทางโฆษกของโตชิบ้ากล่าวว่าจะมีการยืนยันราคาอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเร็ว วันนี้
และทั้งหมดนี้ก็คือ 7 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีการเปิดตัวให้ฮือฮากันไป ส่วนข่าวล่ามาไวหลังจากนี้และจะมีผลติภัณฑ์อะไรใหม่ ๆ ออกมาอีกบ้างนั้น เกาะขอบจอคอมพ์ติดตามกันได้ในคราวหน้านะจ๊ะ