ใคร กันแน่คือแจ็คเดอะริปเปอร์? คนไข้โรคจิต ศัลยแพทย์มือฉมัง คนขายเนื้อ ชายซึ่งวางยาพิษฆ่าเมียตัวเอง หรือแม้แต่หลานชายของควีนวิคตอเรียแห่งอังกฤษ ก็ล้วนแล้วแต่พัวพันกับสมญานามของฆาตกรสุดโหดแห่งไวต์แชปเพิลผู้นี้
แจ็คเดอะริปเปอร์ เป็นสมญานามของฆาตกรต่อเนื่องซึ่งก่อคดีสะเทือนขวัญในกรุงลอนดอน ช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน ปี 1888 เหยื่อของแจ็คเดอะริปเปอร์ล้วนเป็นหญิงโสเภณีในย่านไวต์แชปเพิล แหล่งสลัมเสื่อมโทรมในเขตอีสต์เอนด์ สมญานามนี้ได้มาจากชื่อในท้ายจดหมายซึ่งโผล่ออกมาระหว่างที่เกิดการฆาตกรรม ขึ้น
เหยื่อของแจ็คจะเป็นผู้หญิงหากิน ซึ่งล้วนถูกของมีคมเชือดคอและโดนคว้านเอาอวัยวะออกไป ปัจจุบันผู้ที่หลงใหลในการศึกษาเกี่ยวกับคดีฆาตกรสุดโหดนี้จำนวนมาก จนมีกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักริปเปอร์วิทยาเลยที เดียว(ripperologist)
ตำนานสยองขวัญเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เมื่อมีคนพบร่างของ แมรีแอน นิโคลส์ (พอลลี)วัย 43 ปี การฆาตกรรมโสเภณีคนหนึ่งดูจะไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญเท่าใดนัก แม้ว่าตำรวจลอนดอนต่างช็อกกับสภาพศพที่เห็นก็ตาม หลังจากเกิดเหตุตำรวจได้ตัวผู้ต้องสงสัยหลายคนแต่ก็จับใครไม่ได้ ชื่อพอลลีดูเหมือนจะเลือนหายไปแล้วกระทั่งผู้หญิงหากินอีกรายถูกพบกลายเป็น ศพเมื่อวันที่ 8 กันยายนในปีเดียวกัน แอนนี แชปแมนถูกฆ่าปาดคอ และอวัยวะบางส่วนรวมทั้งมดลูกถูกคว้านออกและหายไปจากที่เกิดเหตุ เหตุการณ์นี้สร้างความสะพรึงกลัวไปทั่วลอนดอน และสื่อมวลชนก็เริ่มเข้ามามีบทบาท
ขณะที่ตำรวจก็ไม่มีเบาะแส เพราะคนร้ายไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดๆ ให้ตามจับได้ ข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับการฆาตกรรมก็สะพัดไปทั่วเมือง ตอนนี้ฆาตกรได้ฉายาจากสื่อว่า "ผ้ากันเปื้อนหนัง" มีการตั้งข้อสงสัยว่ามือสังหารคือแพทย์ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับชิ้นส่วนต่างๆ ของมนุษย์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
สามสัปดาห์หลังจากนั้นสิ่งที่น่าสยดสยองมากกว่านี้เกิดขึ้นอีกในค่ำคืนของวันที่ 30 กันยายน อลิซาเบธ สไตรด์ หรือ ลอง ลิซ วัย 45 ปี ออกจากผับแห่งหนึ่งและเดินกลับบ้าน แต่เธอกลับไม่ถึงบ้าน ศพของเธอถูกพบในวันถัดมา บริเวณลำคอมีบาดแผลเป็นทางยาว แต่ยังสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยดี คาดว่าฆาตกรคงถูกขัดจังหวะในขณะกำลังจะจัดการชำแหละเหยื่ออย่างเคย
แคทเทอรีน เอดโดวส์ หรือเคท วัย 46 ปี เป็นเหยื่อของแจ็คอีกรายที่สภาพศพน่ากลัวที่สุด โดนควักลูกตา เฉือนจมูก ลำคอถูกเชือด ช่องท้องถูกกรีดเป็นบาดแผลเหวอะ ไตถูกควักออกไป โดยมีข้อความเขียนไว้บนกำแพงในละแวกที่พบศพว่า "The Juwes are the men that Will not be Blamed for nothing." แปลความได้ว่า "ชาวยิวเป็นกลุ่มคนที่จะไม่ถูกกล่าวโทษ ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตาม"
ข้อ ความบนกำแพงนี้อาจจะมีอยู่ก่อนแล้วและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม กระนั้นข้อความนี้ทำให้การสืบสวนพุ่งเป้าไปยังชาวยิว มีการวิพากษ์วิจารย์กันไปต่างๆ นานา จนเซอร์ชาร์ลส์ วอร์เรน ผู้บัญชาการตำรวจนครลอนดอนสมัยนั้นสั่งให้ลบข้อความดังกล่าวเพื่อลดกระแสต่อ ต้านยิว และก็มีการจับตัวชาวยิวหลายคน รวมทั้งจอห์น ไพเซอร์ ซึ่งต่อมาก็พบว่าเขาไม่ได้มีเอี่ยวใดๆ
ตำรวจรู้สึกกดดันอย่างหนัก เมื่อยังหาตัวฆาตกรไม่ได้ ผู้ชายโชคร้ายหลายคนโดนควบคุมตัวแต่ก็ไม่มีข้อพิสูจน์อะไรบ่งบอกว่าพวกเขา เป็นคือฆาตกรที่แท้จริง ชาวอีสต์เอนด์ก็คิดว่าเคทคงเป็นเหยื่อรายสุดท้ายแล้ว แต่ขณะที่เจ้าของที่ดินผู้มั่งคั่งไปเก็บค่าเช่าบ้านกับแมรี จีน เคลลี สาวไอริชหน้าตาดีคนหนึ่ง หลังจากเคาะประตูแล้วไม่มีเสียงตอบเขาจึงไปดูทางหน้าต่าง และก็ต้องตกตะลึงกับภาพหญิงวัย 25 ปีอยู่ในสภาพนอนกางขาบนเตียงนอน ผิวหนังโดนถลก มีมดลูกกองอยู่ปลายเท้า มือข้างหนึ่งถูกจับล้วงเข้าไปในท้องที่โดนควักตับไตไส้พุงออก หัวใจถูกปลิดออกจากขั้วหายไป เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วห้อง ทั้งนี้เป็นที่รับรู้กันว่าตอนนั้นเคลลีกำลังตั้งครรภ์
เคล ลีอาจจะใช่หรือไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้ายของแจ็ค ในช่วงเวลาเดียวกันยังมีผู้หญิงข้างถนนอีกหลายคนถูกฆาตกรรม บางรายอาจจะเป็นฝีมือของแจ็คก็ได้เนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงกับเหยื่อราย ก่อนๆ อย่างไรก็ตามเป็นที่ยอมรับในหมู่สาวกของแจ็คว่าเหยื่อของแจ็คนั้นมี 5 รายดังกล่าว ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ฆาตกรโหดรายนี้ต้องมีความรู้ในการในการผ่าตัดหรือทางการแพทย์อยู่พอสมควร
ใครกันแน่
เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด อัลเบิร์ต วิคเตอร์ หรือเจ้าชายเอดดี ดยุคแห่งแคลเรนซ์ หนังสือหลายเล่มอ้างว่าพระองค์เคยเสด็จไปเที่ยวซ่องในย่านอีสต์เอนด์ และสันนิษฐานว่าพระองค์เรียนรู้เทคนิคในการชำแหละมาจากการล่าสัตว์ และทรงติดเชื้อซิฟิลิส ขณะที่สาเหตุอย่างเป็นทางการระบุว่าพระองค์สิ้นพระชนม์จากอาการปอดอักเสบ หนังสือหลายเล่มชี้ว่าพระองค์เป็นผู้ลงมือเองหรือไม่ก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง กับการฆาตกรรมเพื่อปิดปังพฤติกรรมอันเหลวแหลก ทฤษฎีนี้แพร่หลายมากเพราะนักประวัติศาสตร์มีชื่อ อย่างไรก็ตามสาวกของแจ็คส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากบันทึกเกี่ยวกับพระกรณียกิจของเจ้าชายยืนยันว่าในขณะที่การฆาตกรรม เกิดขึ้นพระองค์ไม่ได้ประทับอยู่ในลอนดอนเลย อย่างไรก็ตามกลุ่มที่เชื่อทฤษฎีนี้โต้ว่าเจ้าชายเอดดีอาจจะแอบมาลอนดอน หรือมิเช่นนั้นบันทึกของทางการอาจจะเป็นสิ่งที่ "แต่ง" ขึ้นมาก็ได้
มอนเทกิว จอห์น ดริตต์ เขา เป็นครูและศึกษาด้านการแพทย์ขณะที่สอบได้เนติบัณทิตแล้ว ดริตต์มาจากครอบครัวที่ดีและมีการศึกษาแต่กลับมีอาการวิกลจริต สองวันหลังจากที่เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนแบล็กเฮลท์เขาก็ฆ่าตัวตายด้วยการ ถ่วงตัวเองให้จมน้ำด้วยหินที่ซุกไว้ตามกระเป๋า และทิ้งข้อความลาตายไว้ว่า "ตั้งแต่วันศุกร์แล้วผมรู้สึกว่ากำลังจะเป็น (บ้า)เหมือนแม่ และการตายคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมในตอนนี้" ตำรวจพบกระดาษโน้ตจากศพของเขาที่ลอยมาตามแม่น้ำเทมส์เมื่อ 31 ธันวาคม ปี 1888 ทั้งนี้ เขาหายตัวไปหลังจากที่พบศพเหยื่อรายที่ 5 ได้ไม่นาน การสอบสวนของตำรวจระบุว่าเขาฆ่าตัวตายเนื่องจากอาการซึมเศร้า และสรุปว่าเขาคือแจ็คเดอะริปเปอร์ ตำรวจปิดคดีได้สำเร็จโดยที่เขาตกเป็นแพะรับบาป มีคนตั้งข้อสงสัยว่าเขาฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรมเสียเองกันแน่ ขณะที่การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ซึ่งแสดงต่อศาลระบุว่าการตายของเคลลีและการตายของดริตต์มีความเกี่ยวโยง กัน บ้างระบุว่าดริตต์มีอาการป่วยทางจิตหลังจากการสังหารเหยื่อรายที่ 5 ของเขา
อย่าง ไรก็ตาม มีผู้ต้องสงสัยว่าเป็นแจ็คอีกนับไม่ถ้วน ทั้งผู้ต้องหาที่มีประวัติวางยาพิษภรรยา แพทย์ ข้ารับใช้ราชสำนัก รวมถึงศิลปินที่ผลงานของเขาแสดงถึงความเกลียดชังผู้หญิง
ล่าสุด เทรเวอร์ แมริออต อดีตนักสืบหัวเห็ดสังกัดเบดฟอร์ดเชียร์ซึ่งหันมาศึกษาเรื่องแจ็คด้วยเทคนิค สืบสวนสมัยใหม่ออกมาตั้งข้อสันนิษฐานว่า แจ็คเดอะริปเปอร์นั้นอาจจะไม่ใช่ชาวลอนดอน แต่เป็นกะลาสีชาวนิการากัวหรือเยอรมันซึ่งเดินทางมาค้าขายในอังกฤษและติดโรค ร้ายจากการเที่ยวผู้หญิงและต้องการแก้แค้น
หนังสือ ของเทรเวอร์ "Jack the Ripper: The 21st Century Investigation" บอกว่าตำรวจสันนิษฐานอย่างผิดๆ ว่าฆาตกรนั้นอาศัยและทำงานในอีสต์เอนด์ และตำรวจยังไม่รู้วันเวลาของการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นจริงๆ โดยถูกทำให้เขวและเลือกที่จะไม่มองถึงความเป็นไปได้ที่ผู้ลงมือนั้นอาจจะ เป็นกะลาสีเรือ
เท รเวอร์เชื่อว่าช่วงที่เกิดเหตุสยองขวัญนั้นฆาตกรเดินทางมากับเรือจำนวนไม่ มากที่มาทอดสมอในท่าเรือของอีสต์เอนด์หรือใกล้เคียง อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าชื่อของลูกเรือก็ถูกทำลายหรือไม่ก็สูญหายทำให้เป็นไป ไม่ได้ที่จะชี้ชัดลงไปว่าเป็นลูกเรือคนใด
เทรเวอร์อ้างข้อมูลที่พบ ว่ามีผู้หญิงขายตัว 6 คนถูกชำแหละในสไตล์ของแจ็คในนิการากัว ในช่วง 10 วันของเดือนมกราคม ปี 1989 หรือเพียงสองเดือนที่เชื่อว่าการฆาตรรมได้สิ้นสุดลง แต่การฆ่าชำแหละศพในนิการากัวตามมาด้วยการฆาตกรรมแบบเดียวกันอีกครั้งใน ลอนดอนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และอีกหนึ่งคดีที่ท่าเรือเฟลนเบิร์กในเยอรมนีในตุลาคม และอีกหนึ่งคดีในลอนดอนเมื่อเดือนกรกกฎาคม ปี 1891
นอก จากนี้ เทรเวอร์ยังเชื่อว่าแจ็คไม่ได้มีความรู้ด้านการแพทย์ ซึ่งตรงข้ามกับที่หลายฝ่ายเชื่อ โดยเขาบอกว่าหากแจ็คเคยฝึกผ่าตัดอยู่บ้างเขาก็คงจะลำบากที่จะจัดการเฉือน อวัยวะออกจากร่างเหยื่อตามตรอกซอยที่มืดสลัว ส่วนอวัยวะที่ถูกคว้านออกมานั้นก็เพื่อเอาไปขายในตลาดค้าอวัยวะมนุษย์ซึ่ง ผิดกฎหมายแต่เฟื่องฟูในยุคนั้น
ทฤษฎีของอดีตนักสืบรายนี้ทำให้เกิด เสียงวิจารณ์อย่างมาก ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการบอกว่าเทรเวอร์เอาเรื่องเก่านำมาเล่าใหม่เท่านั้น ขณะที่อีกกลุ่มยังสำทับว่าประด็นกะลาสีเรือนี้ถูกตั้งขึ้นมาตั้งแต่มีการ ฆาตกรรมแล้ว
ดูเหมือนว่าแจ็คเดอะริปเปอร์ยังคงเป็นปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้อีกต่อไป
จดหมายลงชื่อแจ็คเดอะริปเปอร์ ลงวันที่ 25 กันยายน 1888 ถูกส่งมาถึงตำรวจลอนดอน