ชี ยงใหม่ ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของไทย เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรล้านนาในสมัยโบราณ ถึงแม้จะเป็นเมืองเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี แต่ที่นี่ยังคงมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมแบบล้านนา และการแต่งกายสไตล์โบฮีเมียนสุดเก๋ (ชุดผ้าฝ้ายแบบพื้นเมืองทั้งของชาวล้านนาและชาวเขา)ให้เห็นเหมือนเช่นเคย
ทุก วันนี้ นักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในกรุงเทพฯ แต่ยังคงต้องการความสะดวกสบายสไตล์เมืองใหญ่ มักเลือกเดินทางไปเยือนเชียงใหม่ แล้วนั่งทอดอารมณ์ชื่นชมธรรมชาติตามร้านกาแฟ ท่ามกลางบรรยากาศแบบอาร์ตๆ ของเมืองเชียงใหม่ ที่นี่ผู้คนเป็นมิตรสุดๆ แถมยังเดินทางสะดวก ปลอดภัย ทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมรอให้สำรวจมากมาย
เชียงใหม่ มีวัดโบราณหลายแห่งที่ได้รับการ ทำนุบำรุงอย่างดี และยังมีทริปท่องเที่ยวใหม่ๆ ทั้งแบบอีโคทัวร์และผจญภัยผุดขึ้นมากมาย นี่ยังไม่นับรวมกิจกรรมสุดฮอตต่างๆ ทั้งการล่องแพในแม่น้ำ ขี่ช้าง เดินป่า และ ขี่จักรยานวิบาก เป็นต้น
อันดับ 9. นิวคาสเซิล ประเทศออสเตรเลีย
เมื่อ พูดถึง “นิวคาสเซิล” หลายท่านอาจนึกถึงเมืองและสโมสรฟุตบอลของประเทศอังกฤษ แต่ที่เราจะกล่าวถึงในที่นี้ คือ “เมืองนิวคาสเซิล” ที่อยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย
ที่ ผ่านมา “นิวคาสเซิล” เป็นเมืองที่อยู่นอกสายตาของนักท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นชาวออสซี่เองและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะถูกเมืองที่ใหญ่กว่า เป็นที่รู้จักมากกว่า และยังเป็นเมืองของหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์อย่างเมือง “ซิดนีย์” ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 162 ก.ม. บดบังรัศมีจนหมดสิ้น
อันดับ8. เดลี ประเทศอินเดีย
ดลี เป็นมหานครที่มีขนาดใหญ่สุดและเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอินเดีย ประกอบด้วย เดลีเก่า ซึ่งเป็นเขตวัฒนธรรมในสมัยโบราณ และเดลีใหม่ (นิวเดลี) ซึ่งเป็นเมืองหลวงในปัจจุบันและเป็นศูนย์กลางการปกครองของอินเดีย
หลาย ศตวรรษที่ผ่านมา “เดลี” ไม่ได้เปล่งประกายโดดเด่นอยู่บนแผนที่โลกเหมือนอย่างเช่นทุกวันนี้ แต่หลังจากเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่าน มา โฉมหน้าของกรุงเดลีก็เปลี่ยนไป เพราะอินเดียได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาน ใหญ่ในกรุงเดลี ทำให้ถนนหนทางกว้างขวางแลดูสะอาดตามากขึ้น ทั้งยังเพิ่มจำนวนห้องพักในโรงแรมอีกมากกว่า 2 หมื่นห้องเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวด้วย
อันดับ7. เกนต์ ประเทศเบลเยียม
อันที่จริง “เกนต์” เป็นอีกหนึ่งเมืองดีที่สุดในยุโรป แต่กลับมีนักท่องเที่ยวน้อยคนที่ตั้งใจเดินทางไปเยือนเมืองนี้
“เกนต์” เป็นเมืองที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 3 เมืองใหญ่ของเบลเยียม คือ บรัสเซลส์ บรูจส์ และแอนต์เวิร์ป แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเห็นเกนต์เป็นแค่ทางผ่านจึงเดินทางไปเยือนเฉพาะ 3 เมืองนี้ ทำให้ไม่เห็นอะไรมากไปกว่าสถานีรถไฟเซ็นต์ พีเตอร์ (St Pieter) ในเมืองเกนต์ แต่ถ้าใครกระโดดลงจากรถไฟแล้วเดินทอดน่องเลียบแม่น้ำเลเยอร์ (Leie) มุ่งหน้าไปยังใจกลางเมืองเก่า (ราว 30 น.) ก็จะได้เห็นภาพสวยตะลึงของสายน้ำและอาคารบ้านเรือนเก่าแก่อายุหลายร้อยปีใน แบบพาโนรามา
อันดับ 6. อีกีโตส ประเทศเปรู
อี กีโตส” เป็นเมืองใหญ่สุดในแถบลุ่มน้ำอะเมซอนของประเทศเปรู และยังเป็นเมืองหลวงของแคว้นโลเรโตอีกด้วย แต่เชื่อหรือไม่ว่าการเดินทางไปเยือนเมืองนี้ จะต้องเดินทางโดยเครื่องบินหรือไม่ก็ล่องเรือผ่านป่าดิบชื้นตามลุ่มน้ำอะเม ซอนเท่านั้น (ยกเว้นการเดินทาง จาก “เนาตา” ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของ “อีกีโตส” ที่สามารถเข้าถึงได้ทางรถยนต์)
ปัจจุบัน ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในเมืองอีกีโตสกำลังเฟื่องฟู ซึ่งก็มีทั้งทริปสำรวจป่าดิบชื้นตามลุ่มน้ำอะเมซอนและทริปท่องเที่ยวภายใน ตัวเมือง ซึ่งเป็นแหล่งรวมผู้คนหลากเชื้อชาติในแถบลุ่มน้ำอะเมซอนอย่าง บราซิล โคลัมเบีย และชาวพื้นเมือง นอกจากนี้ ยังมีชาวต่างชาติอีกด้วย
บัลแกเรีย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของคาบสมุทรบอลข่าน ทิศเหนือติดโรมาเนีย ทิศตะวันออกติดทะเลดำ ทิศตะวันตกติดเซอร์เบีย มอนเตเนโก และมาซิโดเนีย ทิศใต้ติดกรีซและตุรกี มีเมืองหลวงชื่อ กรุงโซเฟีย
ประเทศ บัลแกเรีย มีจุดขายหลายอย่างที่โดนใจนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดในประเทศอย่าง “โซเฟีย”, ยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ, สุดยอดลานสกีที่คุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ, หาดทรายสีทอง และเมืองท่าโบราณริมทะเลดำ
ปานามา ตั้งอยู่ในส่วนที่แคบที่สุดของอเมริกากลาง ทิศเหนือติดมหาสมุทรแปซิฟิก ทิศใต้ติดทะเลแคริบเบียน ทิศตะวันตกติดคอสตาริกา ส่วนทิศตะวันออกติดโคลอมเบีย มีเมืองหลวงชื่อ ปานามาซิตี้
ปานามา เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วสุดในแถบลาตินอเมริกา ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของปานามาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลประกาศลดราคาและภาษีให้ผู้มาเยือน ตลอดจนผู้เกษียณอายุชาวต่างชาติ
นอก จากนี้ ปานามายังมีจุดขายหลายอย่างโดนใจนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลต่างๆ กิจกรรมเดินป่า อีโคทัวร์ โบราณสถาน กระท่อมพื้นทรายที่กูนายาลา และเนื่องจากพื้นที่หลายแห่งในปานามายังคงเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ไม่ได้รับ การพัฒนา บางเส้นทางจึงต้องเดินทางท่องเที่ยวทางเรือ หรือไม่ก็รถบัสเป็นระยะทางไกลๆ
และ ในปีหน้าเมืองใหญ่อย่าง “ปานามาซิตี้” จะได้ชื่อว่าเป็นเมืองสีเขียว เพราะเป็นที่ตั้งของ “ไบโอ มิวเซียม” ที่แสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพของปานามา ทั้งยังมีสวนและสนามหญ้าริมถนนเลียบชายฝั่ง “ซินตา คอสเตรา” ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวไปจนถึง “กัสโกเวียโฮ” อีกด้วย
ปานามา ยังเป็นที่ตั้งของป่าดิบชื้น (นอกป่า่ลุ่มน้ำอะเมซอน) ขนาดใหญ่สุดในซีกโลกตะวันตกซึ่ง มีพืชพรรณ สัตว์ป่า และนกอุดมสมบุรณ์ แถมพืชและสัตว์บางชนิดยังหาดูที่อื่นไม่ได้ เพราะมีถิ่นอาศัยอยู่ในปานามาเท่านั้น
อันดับที่ 3 สาธารณรัฐเคปเวิร์ด
เคป เวิร์ด เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก (นอกชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา) อยู่ห่างจากสาธารณรัฐเซเนกัลทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 500 กิโลเมตร ประกอบด้วย เกาะใหญ่ 10 เกาะ และเกาะเล็ก 5 เกาะ เมืองหลวงชื่อ “กรุงไปรอา”
ที่ ผ่านมา เคปเวิร์ดไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือคุ้นหูในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก แต่ระยะหลังๆ ประเทศหมู่เกาะแห่งนี้เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรปมากขึ้น จนชาวเคปเวิร์ดเองก็ยังนึกแปลกใจว่าประเทศของตนมีดีอะไร นักท่องเที่ยวจึงพากันดั้นด้นเดินทางไปเยือนมากขึ้นเรื่อยๆ
อันดับที่ 2 สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล
บราซิล ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ โดยมีอาณาเขตติดกับทุกประเทศในทวีปอเมริกาใต้ยกเว้นชิลีและเอกวาดอร์ มีขนาดใหญ่สุดในลาตินอเมริกาและใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก เมืองหลวงชื่อ “กรุงบราซิเลีย”
บราซิล มีชื่อเสียงในเรื่อง การเต้นแซมบ้า สโมสรฟุตบอล โลเกชั่นถ่ายทำภาพยนตร์ เทศกาลคาร์นิวาล และงานปาร์ตี้ฉลองปีใหม่สุดยิ่งใหญ่ แต่ชาวบราซิลยังมีเรื่องน่าดีใจให้เฉลิมฉลองเพิ่มมากขึ้น หลังได้รับเลือกให้เป็นทั้งเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟีฟ่าเวิลด์คัพในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) และกีฬา โอลิมปิกฤดูร้อน ในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)
อันดับที่ 1. สาธารณรัฐแอลเบเนีย
แอลเบเนีย ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ทางทิศตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่าน ทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดเซอร์เบียและมอนเตเนโกร ทิศตะวันออกติดมาซิโดเนีย ทิศใต้และทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกรีซ ทิศตะวันตกติดทะเลเอเดรียติกและทะเลไอโอเนียน มีเมืองหลวงชื่อ “กรุงติรานา”
เมื่อ ประมาณ 20 ปีก่อน ดินแดนที่ตั้งอยู่ในแถบคาบสมุทรบอลข่านถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่อง เที่ยวสำหรับคนใจกล้า และมีเพียงสุดยอดผู้กล้าเท่านั้นที่อาจหาญเดินทางไปเยือนประเทศแอลเบเนีย