10 เมืองที่น่าท่องเทียวที่สุดในโลกประจำปี 2011

อันดับ10 เชียงใหม่ ประเทศไทย

 

ชี ยงใหม่ ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของไทย เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรล้านนาในสมัยโบราณ ถึงแม้จะเป็นเมืองเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี แต่ที่นี่ยังคงมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมแบบล้านนา และการแต่งกายสไตล์โบฮีเมียนสุดเก๋ (ชุดผ้าฝ้ายแบบพื้นเมืองทั้งของชาวล้านนาและชาวเขา)ให้เห็นเหมือนเช่นเคย

ทุก วันนี้ นักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในกรุงเทพฯ แต่ยังคงต้องการความสะดวกสบายสไตล์เมืองใหญ่ มักเลือกเดินทางไปเยือนเชียงใหม่ แล้วนั่งทอดอารมณ์ชื่นชมธรรมชาติตามร้านกาแฟ ท่ามกลางบรรยากาศแบบอาร์ตๆ ของเมืองเชียงใหม่ ที่นี่ผู้คนเป็นมิตรสุดๆ แถมยังเดินทางสะดวก ปลอดภัย ทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมรอให้สำรวจมากมาย

เชียงใหม่ มีวัดโบราณหลายแห่งที่ได้รับการ ทำนุบำรุงอย่างดี  และยังมีทริปท่องเที่ยวใหม่ๆ ทั้งแบบอีโคทัวร์และผจญภัยผุดขึ้นมากมาย นี่ยังไม่นับรวมกิจกรรมสุดฮอตต่างๆ  ทั้งการล่องแพในแม่น้ำ ขี่ช้าง เดินป่า และ ขี่จักรยานวิบาก เป็นต้น

 

อันดับ 9. นิวคาสเซิล ประเทศออสเตรเลีย

 

เมื่อ พูดถึง “นิวคาสเซิล” หลายท่านอาจนึกถึงเมืองและสโมสรฟุตบอลของประเทศอังกฤษ แต่ที่เราจะกล่าวถึงในที่นี้ คือ “เมืองนิวคาสเซิล” ที่อยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย

ที่ ผ่านมา “นิวคาสเซิล” เป็นเมืองที่อยู่นอกสายตาของนักท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นชาวออสซี่เองและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะถูกเมืองที่ใหญ่กว่า เป็นที่รู้จักมากกว่า และยังเป็นเมืองของหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์อย่างเมือง “ซิดนีย์” ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 162 ก.ม. บดบังรัศมีจนหมดสิ้น

 

อันดับ8. เดลี ประเทศอินเดีย

 

ดลี เป็นมหานครที่มีขนาดใหญ่สุดและเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอินเดีย ประกอบด้วย เดลีเก่า ซึ่งเป็นเขตวัฒนธรรมในสมัยโบราณ และเดลีใหม่ (นิวเดลี) ซึ่งเป็นเมืองหลวงในปัจจุบันและเป็นศูนย์กลางการปกครองของอินเดีย

หลาย ศตวรรษที่ผ่านมา “เดลี” ไม่ได้เปล่งประกายโดดเด่นอยู่บนแผนที่โลกเหมือนอย่างเช่นทุกวันนี้ แต่หลังจากเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่าน มา  โฉมหน้าของกรุงเดลีก็เปลี่ยนไป เพราะอินเดียได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาน ใหญ่ในกรุงเดลี ทำให้ถนนหนทางกว้างขวางแลดูสะอาดตามากขึ้น ทั้งยังเพิ่มจำนวนห้องพักในโรงแรมอีกมากกว่า 2 หมื่นห้องเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวด้วย

 

อันดับ7. เกนต์ ประเทศเบลเยียม

 

อันที่จริง “เกนต์” เป็นอีกหนึ่งเมืองดีที่สุดในยุโรป แต่กลับมีนักท่องเที่ยวน้อยคนที่ตั้งใจเดินทางไปเยือนเมืองนี้

“เกนต์” เป็นเมืองที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 3 เมืองใหญ่ของเบลเยียม คือ บรัสเซลส์ บรูจส์ และแอนต์เวิร์ป แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเห็นเกนต์เป็นแค่ทางผ่านจึงเดินทางไปเยือนเฉพาะ 3 เมืองนี้ ทำให้ไม่เห็นอะไรมากไปกว่าสถานีรถไฟเซ็นต์ พีเตอร์ (St Pieter) ในเมืองเกนต์ แต่ถ้าใครกระโดดลงจากรถไฟแล้วเดินทอดน่องเลียบแม่น้ำเลเยอร์ (Leie) มุ่งหน้าไปยังใจกลางเมืองเก่า (ราว 30 น.) ก็จะได้เห็นภาพสวยตะลึงของสายน้ำและอาคารบ้านเรือนเก่าแก่อายุหลายร้อยปีใน แบบพาโนรามา

 

อันดับ 6. อีกีโตส ประเทศเปรู

 

อี กีโตส” เป็นเมืองใหญ่สุดในแถบลุ่มน้ำอะเมซอนของประเทศเปรู และยังเป็นเมืองหลวงของแคว้นโลเรโตอีกด้วย แต่เชื่อหรือไม่ว่าการเดินทางไปเยือนเมืองนี้ จะต้องเดินทางโดยเครื่องบินหรือไม่ก็ล่องเรือผ่านป่าดิบชื้นตามลุ่มน้ำอะเม ซอนเท่านั้น (ยกเว้นการเดินทาง จาก “เนาตา” ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของ “อีกีโตส” ที่สามารถเข้าถึงได้ทางรถยนต์)

ปัจจุบัน ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในเมืองอีกีโตสกำลังเฟื่องฟู ซึ่งก็มีทั้งทริปสำรวจป่าดิบชื้นตามลุ่มน้ำอะเมซอนและทริปท่องเที่ยวภายใน ตัวเมือง ซึ่งเป็นแหล่งรวมผู้คนหลากเชื้อชาติในแถบลุ่มน้ำอะเมซอนอย่าง บราซิล โคลัมเบีย และชาวพื้นเมือง นอกจากนี้ ยังมีชาวต่างชาติอีกด้วย

อันดับที่ 5 สาธารณรัฐบัลแกเรีย

 

บัลแกเรีย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของคาบสมุทรบอลข่าน ทิศเหนือติดโรมาเนีย ทิศตะวันออกติดทะเลดำ ทิศตะวันตกติดเซอร์เบีย มอนเตเนโก และมาซิโดเนีย ทิศใต้ติดกรีซและตุรกี มีเมืองหลวงชื่อ กรุงโซเฟีย

ประเทศ บัลแกเรีย มีจุดขายหลายอย่างที่โดนใจนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดในประเทศอย่าง  “โซเฟีย”, ยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ, สุดยอดลานสกีที่คุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ, หาดทรายสีทอง และเมืองท่าโบราณริมทะเลดำ

 

 

อันดับที่ 4 สาธารณรัฐปานามา

ปานามา ตั้งอยู่ในส่วนที่แคบที่สุดของอเมริกากลาง ทิศเหนือติดมหาสมุทรแปซิฟิก ทิศใต้ติดทะเลแคริบเบียน ทิศตะวันตกติดคอสตาริกา ส่วนทิศตะวันออกติดโคลอมเบีย มีเมืองหลวงชื่อ ปานามาซิตี้

ปานามา เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วสุดในแถบลาตินอเมริกา  ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของปานามาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลประกาศลดราคาและภาษีให้ผู้มาเยือน ตลอดจนผู้เกษียณอายุชาวต่างชาติ

นอก จากนี้ ปานามายังมีจุดขายหลายอย่างโดนใจนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลต่างๆ  กิจกรรมเดินป่า อีโคทัวร์ โบราณสถาน กระท่อมพื้นทรายที่กูนายาลา และเนื่องจากพื้นที่หลายแห่งในปานามายังคงเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ไม่ได้รับ การพัฒนา บางเส้นทางจึงต้องเดินทางท่องเที่ยวทางเรือ หรือไม่ก็รถบัสเป็นระยะทางไกลๆ

และ ในปีหน้าเมืองใหญ่อย่าง “ปานามาซิตี้” จะได้ชื่อว่าเป็นเมืองสีเขียว เพราะเป็นที่ตั้งของ “ไบโอ มิวเซียม” ที่แสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพของปานามา ทั้งยังมีสวนและสนามหญ้าริมถนนเลียบชายฝั่ง “ซินตา คอสเตรา” ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวไปจนถึง “กัสโกเวียโฮ” อีกด้วย

ปานามา ยังเป็นที่ตั้งของป่าดิบชื้น (นอกป่า่ลุ่มน้ำอะเมซอน) ขนาดใหญ่สุดในซีกโลกตะวันตกซึ่ง มีพืชพรรณ สัตว์ป่า และนกอุดมสมบุรณ์ แถมพืชและสัตว์บางชนิดยังหาดูที่อื่นไม่ได้ เพราะมีถิ่นอาศัยอยู่ในปานามาเท่านั้น

อันดับที่ 3 สาธารณรัฐเคปเวิร์ด

 

เคป เวิร์ด เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก (นอกชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา) อยู่ห่างจากสาธารณรัฐเซเนกัลทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 500 กิโลเมตร ประกอบด้วย เกาะใหญ่ 10 เกาะ และเกาะเล็ก 5 เกาะ เมืองหลวงชื่อ “กรุงไปรอา”

ที่ ผ่านมา เคปเวิร์ดไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือคุ้นหูในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก แต่ระยะหลังๆ ประเทศหมู่เกาะแห่งนี้เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรปมากขึ้น จนชาวเคปเวิร์ดเองก็ยังนึกแปลกใจว่าประเทศของตนมีดีอะไร นักท่องเที่ยวจึงพากันดั้นด้นเดินทางไปเยือนมากขึ้นเรื่อยๆ

อันดับที่ 2 สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล

บราซิล ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ โดยมีอาณาเขตติดกับทุกประเทศในทวีปอเมริกาใต้ยกเว้นชิลีและเอกวาดอร์ มีขนาดใหญ่สุดในลาตินอเมริกาและใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก เมืองหลวงชื่อ “กรุงบราซิเลีย”

บราซิล มีชื่อเสียงในเรื่อง การเต้นแซมบ้า สโมสรฟุตบอล  โลเกชั่นถ่ายทำภาพยนตร์  เทศกาลคาร์นิวาล และงานปาร์ตี้ฉลองปีใหม่สุดยิ่งใหญ่ แต่ชาวบราซิลยังมีเรื่องน่าดีใจให้เฉลิมฉลองเพิ่มมากขึ้น หลังได้รับเลือกให้เป็นทั้งเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟีฟ่าเวิลด์คัพในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) และกีฬา โอลิมปิกฤดูร้อน ในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

อันดับที่ 1. สาธารณรัฐแอลเบเนีย

 

แอลเบเนีย ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ทางทิศตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่าน ทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดเซอร์เบียและมอนเตเนโกร ทิศตะวันออกติดมาซิโดเนีย ทิศใต้และทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกรีซ ทิศตะวันตกติดทะเลเอเดรียติกและทะเลไอโอเนียน มีเมืองหลวงชื่อ “กรุงติรานา”

เมื่อ ประมาณ 20 ปีก่อน ดินแดนที่ตั้งอยู่ในแถบคาบสมุทรบอลข่านถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่อง เที่ยวสำหรับคนใจกล้า และมีเพียงสุดยอดผู้กล้าเท่านั้นที่อาจหาญเดินทางไปเยือนประเทศแอลเบเนีย

7 ต.ค. 54 เวลา 11:32 4,572 4 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...