ทำไมถึงไม่มีเมนู Start ใน Windows 8
จุดเปลี่ยนของ Windows เริ่มต้นตั้งแต่สมัยที่เปิดตัว Windows 95 เพราะนั่นคือ ครั้งแรกที่ผู้ใช้ทั่วโลกได้พบกับเมนู Start ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงโปรแกรมใช้งานต่างๆ ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างสะดวกง่ายดาย โดยที่คุณไม่ต้องไปคลิกหาว่าโปรแกรมที่ต้องการรันอยู่ในโฟลเดอร์ไหน?
แต่ถึงแม้ Start menu จะเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มากทีสุดสำหรับผู้ใช้ Windows แต่เมื่อเวลาผ่านไป นักพัฒนาได้ค้นพบวิธีที่ดีกว่า จนอาจจะเรียกได้ว่า เรากำลังเข้าสู่จุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดการใช้ Start menu แล้ว โดย Chaitanya Sareen ผู้จัดการฝ่ายโปรแกรมของทีมพัฒนาประสบการณ์ในการใช้ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ โพสต์ไว้ในบล็อกว่า คุณสมบัติใหม่ของ Windows 7 ทำให้การใช้เมนู Start ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ Windows Vista
"ความแตกต่างของการเปลี่ยนแปลงการใช้เมนู Start เกิดขึ้นเมื่อตอนเปลี่ยนจาก Windows Vista ไปเป็น Windows 7 โดยผู้ใช้ Windows 7 มีการเข้าถึงรายการต่างๆ ในเมนู Start ลดลงเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับ Windows Vista นอกจากนี้ การเข้าไปที่เมนู All Programs และ MFU (Most Frequently Used) รายชื่อโปรแกรมใช้บ่อย ก็น้อยมากอีกด้วย" Sareen โพสต์ ซึ่งจุดเปลี่ยนของการใช้งานที่เห็นได้ชัดก็คือ ผู้ใช้เลือกที่จะนำโปรแกรมที่ใช้บ่อยมาวางบนทาสก์บาร์ (taskbar) เพื่อให้สามารถคลิกเปิดได้ทันที ไม่ต้องคลิกปุ่ม Start -> All Programs หรือแม้แต่การใช้ Search เหมือนแต่ก่อน เมื่อเป็นเช่่นนี้ นั่นก็แสดงว่า ความจำเป็นในการใช้งานเมนู Start สำหรับผู้ใช้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
จุดเด่นของการวางแอพบนทาสก์บาร์ (pinning programs on taskbar) ยังมีในเรื่องของจำนวนไอคอนเล็กที่วางได้ ซึ่งสามารถใส่ได้มากสุดถึง 22 ไอคอน หรือมากกว่านี่ได้อีกในกรณีที่เลือกโหมดจอละเอียดสูงขึ้น ด้วยเหตุที่ผู้ใช้เลือกที่จะเข้าถึงโปรแกรมที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทาง Microsoft จึงตัดสินใจเลิกใช้เมนู Start ใน Windows 8 และใช้การวางโปรแกรมเป็นกลุ่มบนเดสก์ทอป แทนการวางไอคอนเล็กๆ บนทาสก์บาร์ ซึ่งก็จะอำนวยความสะดวก และตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ได้ตรงกว่านั่นเอง คุณผู้อ่าน ล่ะครับ คิดว่า เมนู Start ยังจำเป็นกับคุณ หรือเปล่า?