แก้วขนเหล็ก คือ อะไร รู้ หรือ ไม่

ตอนแรกคิดว่า แก้วขนเหล็ก นั้น คือ หนังไทย หรือนวนิยายสยองขวัญแนวแวมไพร์ของ

ไทย ที่เรา ๆ รู้จักกัน ดีที่แท้ ก็ คือ หินแก้ว นั่นเอง คิดไป คิดมา ก็ขำตัวเองอยู่เหมือนกัน

เลยเอามาฝากเพื่อนๆที่ยังไม่เคยรู้จัก

แก้วขนเหล็ก ตัวจริง

 แก้วขนเหล็กคือ หินแก้วชนิดหนึ่งมีทั้งเนื้อใสและ เนื้อขุ่นมีลักษณะพิเศษคือมีเส้นแร่

คล้ายเส้นผมคน หรือขนสัตว์ฝังอยู่ภายในเนื้อหิน สำหรับแก้วที่มีเนื้อใสนั้นเรียกว่า

แก้วขนเหล็กใส ส่วนที่เป็นเนื้อขุ่นน้ำนมจะเรียกว่า แก้วขนเหล็กตัน เชื่อว่าเป็นของ

กายสิทธิ์ มีเทวดารักษา ตามธรรมชาติเส้นแร่ที่คล้ายเส้นผมนี้มีหลายสี ถ้าเป็น

 สีดำเรียกว่า แก้วขนเหล็ก

สีทองเรียกว่าไหมทอง

สีแดง น้ำตาลเรียกว่าไหมนาค

และอาจมีสีอื่นๆอีกด้วย

 สมัยโบราณนิยมนำแก้วขนเหล็กมาทำเป็นเครื่อง ประดับเช่น ทำเป็นหัวแหวน

จี้ ห้อยคอ บางคนนำมาฝังไว้ตามร่างกายด้วยมีความเชื่อว่าแก้วขนเหล็กเกิดจากการ

เล่นแร่แปรธาตุโดยธรรมชาติเป็น ของทนสิทธิ์ที่มีอิทธิฤทธิ์ไม่เป็นสองรองใครที เดียว

  แก้วขนเหล็กเป็นหนึ่งในแก้วโป่งข่าม ๒๔ ตระกูลกายสิทธิ์ที่เมื่อสมัยโบราณ

ห้าม สามัญชนครอบครองเพราะถือว่าผู้ที่มีแก้วใน ๒๔ ตระกูลไว้ครอบครองจะเป็น

ผู้ที่มีศักดาปราบปรามยากนั่นเอง แก้วขนเหล็กทั้งแบบน้ำใสและน้ำตันมีอานุภาพ

ทัดเทียมกัน มีอำนาจในการปกป้องคุ้มครองสูงเสมอกัน แก้วขนเหล็กใส นั้นบูรพาจารย์

เรียกว่าแก้วตัวผู้ ส่วนแก้วขนเหล็กตัน เรียกว่าตัวเมีย แก้วทั้งสองชนิดนี้เมื่อได้อยู่ร่วมกัน

จะ ส่งพลังงานเสริมส่งซึ่งกันและกันได้อย่างประหลาดและลงตัวทำให้ผู้ที่สวมใส่ ได้รับ

คลื่น พลังวิเศษบังเกิดความเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งที่มองเห็นได้ด้วยตา

และภัยที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเนื้อ แก้วขนเหล็กเป็นหินที่มีพลังงานในตัวสูงมากมี

คุณสมบัติพิเศษที่เป็นหลักๆได้แก่ ป้องกัน กันภูตผีปีศาจ อาถรรพ์มนต์ดำต่างๆ รักษาโรค

ป้องกันภัยทุกอย่าง เสริมดวงรับ เคราะห์ที่จะเกิดมีขึ้นแทนเจ้าของผู้ครอบครองเขาอยู่

ปลอดภัยจากพลังอำนาจเร้นลับ มีสุขภาพแข็งแรงหากเมื่อสวมใส่อยู่เป็น

ประจำ................

ขอขอบคุณรูปภาพจาก

http://siam1009.com

http://www.amulet.in.th

Credit: http://guru.google.co.th
2 ต.ค. 54 เวลา 20:29 11,959 20 270
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...