สุดยอดมาทาดอร์ 3 นาย สามารถล้มวัวกระทิงขนาดครึ่งตันถึง 6 ตัวได้สำเร็จ ในการ
แข่งขันสู้วัวกระทิงครั้งสุดท้ายของแคว้นคาทาโลเนีย ประเทศสเปน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่าน
มา (25 ก.ย.) ก่อนที่การแข่งขันที่มีมากว่า 600 ปี จะต้องยุติลงโดยถาวร หลังกฎหมายการ
ห้ามแข่งขันวัวกระทิงในแคว้นคาทาโลเนียมีผลบังคับใช้
โฮเซ่ โทมัส กำลังโชว์ลีลาปราบวัวกระทิง
ผู้ชมในสนามกว่า 18,000 คน ต่างร่วมมาชมการแข่งขันนัดประวัติศาสตร์ครั้งนี้กันอย่าง
เนืองแน่น จนทำให้ตั๋วขายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว และต่างร้องตะโกนและปรบมือกัน
อย่างอื้ออึงในสนาม El Monumental ซึ่งเป็นสนามแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดใน
เมืองบาร์เซโลนา ซึ่งเปิดประตูต้อนรับผู้ชมมาตั้งแต่ปี 1914
ขณะเดียวกันกับที่เซราฟิน มาริน วัย 28 ปี ชาวคาทาลาน หนึ่งในมาทาดอร์ ทาบมือลง
บนหน้าออกของตนเอง หลังจากที่เขาสามารถกำราบเจ้าวัวกระทิงที่มีชื่อว่า "Dudalegre"
ที่มีน้ำหนักตัวถึง 570 กก.ลงได้สำเร็จ หลังการแข่งขันจบสิ้นลง ฝูงชนต่างกรูกันลงไปใน
สนาม และแบกมาทาดอร์ทั้งสามขึ้นไหล่และแห่ไปรอบสนาม ท่ามกลางเสียงปรบมือจากผู้
ชมบนอัฒจันทร์ ขณะที่ผู้ชมวัย 68 ปีรายหนึ่งกล่าวว่า การปิดสนามแข่งวัวกระทิงในบาร์เซ
โลนา ก็เหมือนกับการโยนภาพของปิกัสโซลงในถังขยะ
สภาท้องถิ่นของแคว้นคาทาโลเนีย ได้ลงคะแนนเสียงเพื่อให้มีการยกเลิกการแข่งขันวัว
กระทิงโดยถาวรเมื่อเดือนกร กฏาคมปีที่แล้ว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2012
หลังจากกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ร่วมล่ารายชื่อได้ถึง 180,000 รายชื่อ เพื่อลงมติให้มีการ
อภิปรายในเรื่องนี้ นี่ถือเป็นภูมิภาคแรกของสเปนบนแผ่นดินใหญ่ ที่สั่งห้ามการแข่งขันซึ่ง
ถือเป็นประเพณีที่สำคัญของชาติ โดยก่อนหน้านี้ หมู่เกาะแคนารี ซึ่งเป็นดินแดนของ
สเปนในมหาสมุทรแอตแลนติก ห้ามการแข่งขันวัวกระทิงมาตั้งแต่ปี 1991 แล้ว ขณะที่
กระแสรณรงค์ให้มีการต่อต้านการแข่งเริ่มกระจายตัวไปทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี แทบไม่มี
สัญญาณใดๆที่แสดงว่าภูมิภาคอื่นๆจะเห็นดีเห็นงามไปด้วย
มาริน และกลุ่มคนที่พยายามอนุรักษ์การแข่งขันกล่าวว่า การยกเลิกครั้งนี้ส่งผลกระทบ
มากมายต่อแคว้นคาทาโลเนีย ซึ่งมีภาษาใช้เป็นของตนเองและมีความพยายามที่จะแยก
ตัวเป็นเอกราชออกจากสเปน โดยเน้นในประเด็นที่เอกลักษณ์ของภูมิภาคชิ้นนี้ กำลังถูก
ผูกโยงเข้ากับประเด็นด้านสิทธิสัตว์ พวกเขาชี้ให้เห็นว่า งานเทศกาลอื่นๆ ซึ่งรวมถึง
เทศกาลหนึ่ง ที่นำคบเพลิงที่มีไฟลุกโชติช่วงติดเขากับเขาของสัตว์ ก่อนที่จะปล่อยให้
พวกมันวิ่งไปตามท้องถนน กลับไม่ได้โดนหางเลขไปด้วย
มารินกล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองแรงจูงใจในด้านชาตินิยม โดยเฉพาะ
กับกลุ่มคนที่ต้องการแยกตัวให้เป็นอิสระจากสเปน ซึ่งต้องการลบภาพของความเป็นชาติ
สเปนออกจนหมดสิ้น อย่างไรก็ดี เขามีแผนที่จะเดินทางตระเวนไปสู้วัวกระทิงในภูมิภาค
อื่นๆของประเทศและใน ฝรั่งเศสต่อไป เขากล่าวตัดพ้อว่า เขารู้สึกเสียใจที่ทั้งอดีตและ
อนาคตของวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาติชิ้นนี้ จะต้องถูกพรากไปอย่างไม่มีวันกลับ อีกทั้งยัง
ไม่สามารถประกอบอาชีพที่เขารักได้อีก ราคาตั๋วการแข่งขันในรอบสุดท้ายนี้ ไล่ไปตั้งแต่
ราคา 24 ยูโร ไปจนกระทั่งถึง 135 ยูโร (ประมาณ 984-5,535 บาท) ขณะที่ราคาตั๋วผีนอก
สนามมีราคาสูงกว่านี้ถึงหกเท่า
ฮวน โมรา วัย 48 ปี คือมาทาดอร์คนแรกที่ก้าวเข้าสู่สังเวียนเลือด เขามาในชุดสีเขียว
ขลิบทอง ตามมาด้วยโฮเซ่ โทมัส วัย 36 ปี นักสู้วัวกระทิงในระดับตำนาน ในชุดสีดำ ซึ่ง
เป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงต่อคำสั่งห้ามแข่งขันในแคว้นคาทาโลเนีย การสู้วัวกระทิง
ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ของแคว้นคาทาโลเนีย ที่ย้อนกลับไปได้ถึงยุคคริสตศตวรรษที่ 16
ขณะที่ในภูมิภาคอื่นๆ กีฬาประเภทนี้กำลังค่อยเสื่อมความนิยมลงเรื่อยๆ โดยในเมือง
บาร์เซโลนา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของสเปน มีสนามต่อสู้วัวกระทิงทั้งสิ้น 3 สนาม
ขณะที่สนาม El Monumental ซึ่งเป็นสนามแห่งเดียวที่ยังคงดำเนินการ มีการจัดการ
แข่งขันเพียง 18 ครั้งเท่านั้นเมื่อปีที่ผ่านมา
ในการสำรวจเมื่อปี 2008 มีชาวคาทาลานที่ตอบแบบสอบถามร้อยละ 22.5 เท่านั้น ที่
กล่าวว่าพวกเขายังคงสนใจการแข่งขันเช่นนี้อยู่ ขณะที่ประชาชนในกรุงมาดริด และใน
แคว้นแอนดาลูเซีย ทางใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของการสู้วัวกระทิง ยังคง
ให้การสนับสนุนจำนวนมาก
ด้านกลุ่มผู้ชื่นชอบการแข่งขันก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน พวกเขาพยายามล่ารายชื่อให้ได้ถึง
500,000 ชื่อ เพื่อขอยื่นคำร้องแก่รัฐสภาท้องถิ่นเพื่อให้คำจำกัดความการสู้วัวกระทิงใน
ฐานะ "ทรัพย์สินของชาติ" และหากว่าพวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้ แฟน
พันธุ์แท้ของการสู้วัวกระทิงเชื่อว่าพวกเขาสามารถยับยั้งคำสั่งห้ามดัง กล่าวได้สำเร็จ ด้าน
นายคาร์ลอส นูเนซ ประธานสหพันธ์ผู้เพาะพันธุ์วัวกระทิง ออกมายอมรับว่า ขณะนี้การล่า
รายชื่อเป็นไปอย่างเชื่องช้ากว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้
กลุ่มผู้ชื่นชอบการสู้วัวกระทิงส่วนใหญ่ มองการแข่งขันว่าเป็น"ศิลปะ"มากกว่า"ความเป็น
กีฬา" อีกทั้งยังแผ่ไปถึงทางตอนใต้ของฝรั่งเศสและบางประเทศในลาตินอเมริกา โดย
สนามแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ซึ่งมีความจุถึง 48,000 ที่นั่ง
ขณะที่ในสเปนซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิด ได้รับความนิยมลดลงถึงหนึ่งในสามในช่วง 3 ปี
ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ อีกทั้งหน่วยงานรัฐท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้ออกเงิน
สนับสนุน สูญเสียรายได้จากจากการให้เช่าอาคาร
ขอขอบคุณ matichon