ผู้ว่าฯลพบุรีมั่นใจรับมือได้-ท่วมหนัก3อ. (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์
ลพบุรี ท่วมหนัก 3 อำเภอ กินวงกว้างกว่า 1 แสนไร่ พ่อเมืองยังมั่นใจ
รับมือน้ำท่วมได้ หวั่นน้ำทะลักท่วมกองขยะเทศบาล ทำเชื้อโรคแพร่กระจาย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยถึง สถานการณ์น้ำท่วม
ล่าสุดว่า ในตอนนี้ จ.ลพบุรี ยังต้องรับน้ำจากเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่องในทุกทิศทาง ทำให้
ท่วมหนักใน 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.ท่าวุ้ง และ อ.บ้านหมี่ โดยเป็นเนื้อที่กว่า 100,000 ไร่
ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินไปแล้ว และระดมเจ้าหน้าที่ ทหาร อาสาสมัครต่าง ๆ ประมาณ
2,500 นาย เข้าช่วยเหลือ อพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมถึงจัดหาอาหาร ที่พัก
และห้องสุขาให้กับประชาชนด้วย
สำหรับประชาชนบางส่วนที่ยังอพยพออกมาไม่ได้ และถูกตัดขาด ทางการได้มี
การเตรียมทำอาหารแพ็กใส่กล่องนำไปส่งให้ทางอากาศ ก่อนที่จะหาทางช่วยเหลืออกมา
อยู่ในที่ปลอดภัยต่อไป ซึ่งทางราชการจะพยายามป้องกันอย่างเต็มที่ ไม่ให้น้ำเข้าท่วม
เขตเทศบาลเมือง และพื้นที่สำคัญของทางราชการ รวมถึงโรงพยายาบาล ซึ่งเป็นจุดพัก
ของประชาชน ที่อพยพมาจากที่ต่าง ๆ โดยยังมีความมั่นใจว่า จะสามารถจัดการแก้ปัญหา
ในพื้นที่ได้ เพียงแต่หวั่นว่าน้ำจะท่วมเข้าถึงกองขยะเทศบาล จะทำให้เชื้อโรคแพร่กระจาย
และเป็นอันตรายต่อประชาชน
ทั้งนี้ พ่อเมืองลพบุรี กล่าวทิ้งท้ายว่า ทางจังหวัดยังต้องการเรือ และรถ
ใหญ่ มาช่วยในการอพยพ และลำเลียงประชาชนเพิ่มอีก เพราะที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ
กับการใช้ช่วยเหลือประชาชน โดยจะขอเช่าจากหน่วยงานต่าง ๆ ก็ได้ รวมถึงเสื้อชูชีพให้
กับประชาชนด้วย ตลอดจนเรียกร้องให้ประชาชนสามัคคีกัน ในการต่อสู้และผ่านวิกฤติ
โดยไม่มีการแบ่งแยกสีใด พรรคใด เพราะเป็นคนลพบุรีด้วยกันด้วย
น้ำป่าซัดบ้านก๋ายน้อยคนหาย5บ้านพัง 4
ฝนตกหนัก น้ำป่าถล่ม บ้านก๋ายน้อย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
บ้านพัง 4 หลัง สูญหาย 5 ราย เจ้าหน้าที่ เร่งช่วยเหลือด่วนแล้ว
นายวิจิตร หลังสัน นายอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนัก ทำให้
น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนพื้นที่ บ้านร่มหลวง ต.แม่แฝก ก่อนที่จะหลากเข้าท่วม บ้าน
เจดีย์แม่ครัว ต.แม่แฝกใหม่ ระดับน้ำสูง 1 เมตร ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ
กว่า 200 หลังคาเรือน และน้ำยังได้ท่วมถนน สายพร้าว - เชียงใหม่ เขตบ้านร่มหลวง
ระดับน้ำสูง 50 ซ.ม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ เนื่องจาก อ่างเก็บน้ำห้วยแก้วและอ่างเก็บ
น้ำแม่แฝก ล้นสันอ่างสมทบกับน้ำป่าหลากลงมาจากอ่างห้วยแก้ว ทางอำเภอได้แจ้งเตือน
ประชาชน อพยพสิ่งของขึ้นไปอยู่บนพื้นที่สูง และเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุน้ำป่า
หลากในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านก๋ายน้อย ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ บ้านเรือนที่อยู่ติดกับ
ริมน้ำก๋าย ถูกน้ำซัดหายไป 4 หลัง มีผู้สูญหายด้วย ซึ่งคาดว่าจะเสียชีวิต รวม 5 คน โดยมี
ชาวบ้านจำนวนกว่า 60 - 70 ครอบครัว ได้พากันอพยพหนีตายกันไปอยู่บนพื้นที่สูง
ด้าน นายดวงคำ วุฒิ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองก๋าย กล่าวว่า ฝน
ตกหนักตลอด 2 วัน จึงทำให้เกิดน้ำป่าหลากในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านก๋ายน้อย ต.เมืองก๋าย
อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ บ้านเรือนที่อยู่ติดกับริมน้ำก๋าย ถูกน้ำซัดหายไป 4 หลังคาเรือน มี
ผู้สูญหายซึ่งคาดว่าจะเสียชีวิต รวม 5 คน โดยขอความช่วยเหลือกับทางอำเภอ และทหาร
จากมณฑลทหารบกที่ 33 เข้าร่วมค้นหา โดยเป็นผู้หญิง 3 คน และผู้ชาย 2 คน
โดยสถานการณ์ส่าสุดในขณะนี้ ยังคงมีฝนตกหนักในพื้นที่ ส่งผลให้ไฟฟ้าดับหมด
ทั้งตำบล ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
บุรีรัมย์น้ำท่วมถนนสูงกว่า 1 เมตร
ชาวนาในพื้นที่ ต.หายโศก อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ เร่งเกี่ยวข้าวที่กำลังออกรวง ซึ่ง
จมอยู่ใต้น้ำกว่า 1 เมตร เพื่อนำขึ้นไปตากไว้บนที่สูง หลังถูกน้ำเหนือจาก จ.นครราชสีมา
และ จ.ชัยภูมิ ไหลบ่ามารวมกันกับลำสะแทด ทะลักเข้าท่วมนาข้าว ของเกษตรกรในเขต
พื้นที่ อ.พุทไธสง รวมกว่า 2,000 ไร่ ซึ่งหากเกษตรกรไม่เร่งเก็บเกี่ยวข้าวที่ถูกน้ำท่วมจะ
เน่าตายเสียหายทั้งหมด นอกจากนั้น น้ำยังได้เอ่อท่วมถนนที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านโนนบ่อ
หลวง อ.พุทไธสง และ บ้านครบุรี อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา สูงกว่า 1 เมตร เป็นระยะ
ทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร ชาวบ้านต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
โดยทางอำเภอ ร่วมกับทางจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ได้นำเรือท้องแบนมาคอย
บริการรับส่งชาวบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และหากระดับน้ำไม่ลดลง
ภายใน 3 - 5 วัน นาข้าวที่ถูกน้ำท่วมจะเน่าตายเสียหายทั้งหมด อย่างไรก็ตามทางอำเภอ
ได้กำชับให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้เร่งประชาสัมพันธ์
ให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดริมลำน้ำ ได้ขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง
ผู้ว่าฯลพบุรีมั่นใจรับมือได้-ท่วมหนัก3อ.
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยกับสำนักข่าว
ไอ.เอ็น.เอ็น. ในรายการเปิดข่าวเด่นเจาะประเด็นดัง FM 102.75 MHz ถึง สถานการณ์น้ำ
ท่วมล่าสุดว่า ในตอนนี้ จ.ลพบุรี ยังต้องรับน้ำจากเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่องในทุกทิศทาง
ทำให้ท่วมหนักใน 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.ท่าวุ้ง และ อ.บ้านหมี่ โดยเป็นเนื้อที่กว่า
100,000 ไร่ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินไปแล้ว และระดมเจ้าหน้าที่ ทหาร อาสาสมัครต่างๆ
ประมาณ 2,500 นาย เข้าช่วยเหลือ อพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมถึงจัดหา
อาหาร ที่พัก และห้องสุขาให้กับประชาชนด้วย
สำหรับประชาชนบางส่วนที่ยังอพยพออกมาไม่ได้ และถูกตัดขาด ทางการได้มี
การเตรียมทำอาหารแพ็กใส่กล่องนำไปส่งให้ทางอากาศ ก่อนที่จะหาทางช่วยเหลืออกมา
อยู่ในที่ปลอดภัยต่อไป ซึ่งทางราชการจะพยายามป้องกันอย่างเต็มที่ ไม่ให้น้ำเข้าท่วม
เขตเทศบาลเมือง และพื้นที่สำคัญของทางราชการ รวมถึงโรงพยายาบาล ซึ่งเป็นจุดพัก
ของประชาชน ที่อพยพมาจากที่ต่างๆ โดยยังมีความมั่นใจว่า จะสามารถจัดการแก้ปัญหา
ในพื้นที่ได้ เพียงแต่หวั่นว่าน้ำจะท่วมเข้าถึงกองขยะเทศบาล จะทำให้เชื้อโรคแพร่กระจาย
และเป็นอันตรายต่อประชาชน
ทั้งนี้ พ่อเมืองลพบุรี กล่าวทิ้งท้ายว่า ทางจังหวัดยังต้องการเรือ และรถใหญ่ มา
ช่วยในการอพยพ และลำเลียงประชาชนเพิ่มอีก เพราะที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอกับการใช้ช่วย
เหลือประชาชน โดยจะขอเช่าจากหน่วยงานต่างๆ ก็ได้ รวมถึงเสื้อชูชีพให้กับประชาชน
ด้วย ตลอดจนเรียกร้องให้ประชาชนสามัคคีกัน ในการต่อสู้และผ่านวิกฤติ โดยไม่มีการ
แบ่งแยกสีใด พรรคใด เพราะเป็นคนลพบุรีด้วยกันด้วย
น้ำทะลักท่วมชาวศรีสัชนาลัยขนของหนีวุ่น
จากที่มีฝนตกหนัก ในพื้นที่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ส่งผลให้ ปริมาณกักเก็บน้ำ
ในอ่างเก็บน้ำ ห้วยแม่ท่าแพ จนเอ่อล้นสปิลล์เวย์ ระดับความสูง 50 ซ.ม. ไหลบ่าลงสู่
ลำคลองแม่ท่าแพ รวมทั้ง มีน้ำป่าจากแนวเทือกเขาในพื้นที่ ไหลสมทบลงสู่ลำคลองจน
เอ่อล้นเข้าท่วมหลายหมู่บ้านใน ต.สารจิต และ ต.บ้านแก่งของ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ชาวบ้านคุกพัฒนา หมู่ที่ 12 ต.สารจิต อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
ต้องช่วยกัน บรรจุกระสอบทราย พร้อมกับขนกระสอบทราย นำไปวางปิดกั้นทางน้ำที่ไหล
เอ่อล้นจากคลองแม่ท่าแพ จนเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร กว่า 50 หลังคาเรือน ชาวบ้าน
ต้องช่วยกันขนข้าวของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น โดยคาดว่า ระดับน้ำจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
อย่างต่อเนื่อง ภายใน 1-2 วันนี้
สุรินทร์ อ่วม 3 อำเภอ ข้าวเจ๊ง 2 หมื่น
นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ จังหวัดสุรินทร์
มีพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว 3 อำเภอ 4 ตำบล 6 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 8
ตำบลบะ อำเภอท่าตูม หมู่ที่ 7 , 8 ตำบลสำโรงทาบ หมู่ที่ 8 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอ
สำโรงทาบ หมู่ที่ 3 ตำบลเมืองที และหมู่ที่ 12 ตำบลราม อำเภอเมืองสุรินทร์ ปภ.สุรินทร์
ได้สรุปพื้นที่มีความเสี่ยงภัย เกิดอุทกภัย 108 ตำบล 833 หมู่บ้าน เสี่ยงเกิดอุทกภัยสูง
146 หมู่บ้าน ด้าน นายนุศิษฐ์ วีรธนศิลป์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร
สำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ จังหวัดสุรินทร์ ได้รับผลกระทบจากฝนที่
ตกหนักอย่างต่อเนื่องหลายวัน ทำให้นาข้าวในพื้นที่หลายอำเภอถูกน้ำท่วมขัง สำนักงาน
เกษตรจังหวัดสุรินทร์ คาดการณ์ว่า นาข้าว ที่ถูกน้ำท่วมในเขตอำเภอท่าตูม สังขะ และ
สำโรงทาบ ได้รับความเสียหายประมาณ 21,769 ไร่ และมันสำปะหลัง ในเขตอำเภอ
กาบเชิง เสียหาย 22,956 ไร่