กินเจเพื่อสุขภาพ "เห็ด"เพิ่มภูมิคุ้มกัน
ในโอกาสเทศกาลกินเจ รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ คณะการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต มีข้อแนะนำเรื่อง "กินเจอย่างไร เสริมสุขภาพภูมิคุ้มกัน"
ว่าปัจจุบันมีการกินอาหารเจหรือมังสวิรัติมากขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงคุณภาพของอาหาร เพื่อให้ได้สารอาหารที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละเพศและวัย
มีงานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าการกินอาหารมังสวิรัติช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยหรือลดอัตราการตายจากโรคเรื้อรังชนิดไม่ติดต่อต่างๆ ได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่เป็นมังสวิรัติ โดยมีรายงานยืนยันว่าผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติมักจะมีระดับคอเลสเตอ รอล ความดันโลหิตและน้ำหนักตัวต่ำกว่าผู้ที่ไม่กินอาหารมังสวิรัติ
แม้ว่าอิทธิพลจากปัจจัยอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์จะมีผลต่อการเกิดโรคภัยต่างๆ ดังที่กล่าวมา
แต่บทบาทสำคัญของอาหารที่มีต่อสุขภาพก็เป็นสิ่งที่ทั่วโลกยอมรับ เช่น สมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำให้เลือกกินอาหารจากพืชเป็นหลัก สมาคมโรคหัวใจของสหรัฐอเมริกาแนะนำให้เลือกกินอาหารให้สมดุลโดยเน้นอาหารประเภทผักผลไม้ และธัญพืช
ทั้งนี้ การกินเจหรือมังสวิรัติควรมีการวางแผนที่ดี เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนทุกหมวดหมู่ในปริมาณที่เหมาะสม และควรป้องกันการขาดสารอาหารบางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก แคล เซียม สังกะสี โปรตีน ไขมันจำเป็นบางชนิด วิตามินบี 12 และวิตามินดี เป็นต้น
หนึ่งในเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมในเทศกาลกินเจ คือ เห็ด เพราะนอกจากจะมีรสชาติอร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูงแล้ว ยังมีให้เลือกมากมายมาปรุงอาหารและประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูแทนเนื้อสัตว์ได้เนื่องจากเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีนจากอาหารพืช มีทั้งเมนูต้ม ผัด แกง ทอด ย่าง หรือยำ
เห็ดมีพลังงานต่ำ 20 แคลอรี และ ไขมัน 0 กรัมต่อ 1 ที่เสิร์ฟ แต่มีคุณค่าทางโภชนาการต่อสุขภาพสูง เนื่องจากอุดมไปด้วยคาร์โบ ไฮเดรต โปรตีน เส้นใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ เห็ดที่มีกลุ่มวิตามินบีสูง เช่น ไรโบฟลาวิน ไนอะซิน และกรดแพนโทธีนิก มีวิตามินซี ฟอสฟอรัส โพ แทสเซียม อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่ดีของแคลเซียมและวิตามินดีในอาหาร
การแพทย์แผนตะวันออกมีการใช้เห็ดบำรุงสุขภาพและเป็นยามานานหลายศตวรรษ
แต่คุณสมบัติของเห็ดต่อการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันเริ่มได้รับความสนใจเมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานการศึกษาทางวิชาการจำนวนมาก รวมทั้งวารสารเห็ดทางการแพทย์นานาชาติยืนยันว่าเห็ดทางการแพทย์มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว โดยการปรับสมดุลการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพเพื่อการต่อต้านเชื้อโรคและเซลล์มะเร็ง
เห็ดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติพบว่ามีมากถึง 38,000 สายพันธุ์
แต่มีเห็ดเพียงไม่กี่ชนิดที่รับประทานได้และมีสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าคุณค่าทางโภชนาการ เช่น "เห็ดทางการแพทย์" หรือ Medicinal Mushrooms ปัจจุบันพบว่ามีอยู่ไม่กี่ชนิดที่สำคัญต่อการส่งเสริมสุขภาพ ได้แก่ เห็ดยามาบูชิตาเกะ (เห็ดปุยฝ้าย) เห็ดหลินจือ เห็ดไมตาเกะ ถั่งเฉ้า เห็ดหอม และ เห็ดเทอร์กี้เทล เป็นต้น ซึ่งนำมาใช้เป็นสารแอนติออกซิแดนต์ เพิ่มภูมิต้านทาน ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ป้องกันไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ลดการอักเสบ ต้านการแพ้ ควบคุมสมดุลของระดับน้ำตาล ส่งเสริมระบบการขับพิษจากร่างกาย
ตัวอย่างเห็ดทางการแพทย์ที่นิยมใช้แพร่หลาย
เช่น เห็ดยามา บูชิตาเกะ หรือ เห็ดปุยฝ้าย มีงานวิจัยทางการแพทย์ของประเทศญี่ปุ่น พบว่าเห็ดชนิดนี้ให้ผลต่อการเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร และผิวหนัง แต่เนื่องจากเห็ดชนิดนี้พบได้ยากตามธรรมชาติ เพราะส่วนใหญ่จะเจริญเติบโตในภูเขาที่มีความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ จึงทำให้ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงเห็ดชนิดนี้ในระบบปิด
เห็ดหลินจือ เป็นเห็ดสมุนไพรที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศจีนและญี่ปุ่นในการรักษาโรคมากมาย สารสำคัญที่พบคือ Triterpenoids และ โพลีแซ็กคาไรด์ สารเหล่านี้มีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกัน ลดระดับคอเลสเตอรอล ไปจนถึงการยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกที่ผิดปกติ
ถั่งเฉ้า หรือ "หญ้าหนอน" มีการนำมาใช้เป็นยาอย่างแพร่หลาย โดยเชื่อว่ามีสรรพคุณรักษาโรคได้มากมาย เช่น เสริมภูมิต้านทาน ช่วยระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยให้เจริญอาหาร ทำให้ร่างกายแข็งแรง รักษาภูมิแพ้ แก้เครียด ชาวจีนจึงขนานนามว่า "เห็ดอายุวัฒนะ"
เห็ดไมตาเกะ ในญี่ปุ่นมีการใช้เห็ดไมตาเกะเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด และมีหลายการศึกษาบ่งชี้ว่าสารสกัดเห็ดไมตาเกะช่วยให้การได้รับเคมีบำบัดขนาดน้อยมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ปกป้องเซลล์ที่แข็งแรงไม่ให้ถูกทำลาย
เห็ดหอม หรือ เห็ดชิตาเกะ เป็นยาอายุวัฒนะ เพราะช่วยลด ไขมันในเส้นเลือด อีกทั้งยังเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็ง ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร บำรุงกำลัง บรรเทาอาการไข้หวัด
เห็ดทางการแพทย์อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งจากอาหารธรรมชาติที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและยกระดับภูมิคุ้มกันให้ร่างกายในช่วงเทศกาลเจนี้
ถั่งเฉ้า หรือ "หญ้าหนอน"
เห็ดไมตาเกะ