เมื่อ 27 ก.ย. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุรถไฟใต้ดินในนครเซี่ยงไฮ้ 2 ขบวนชนกันอย่างจัง มีผู้บาดเจ็บถึง 240 คน หลายรายบาดเจ็บสาหัส ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ช็อกสังคมจีน และทำลายความน่าเชื่อถือในมาตรฐานการทำงานของการรถไฟจีนอีกครั้ง หลังเพิ่งเกิดเหตุรถไฟหัวกระสุนชนกันที่เมืองเหวินโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออก มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 ราย เมื่อก.ค.ที่ผานมา
สำหรับเหตุล่าสุด ผู้โดยสารหลายคนโชกเลือด บางรายไม่ได้สติและพบบาดแผลที่ศีรษะ ส่วนผู้ที่ยังเดินไหวก็ทยอยเดินเท้าออกจากอุโมงค์รถไฟใต้ดิน โฆษกของบริษัทขนส่งเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า รถไฟขบวนหนึ่งพุ่งชนท้ายอีกขบวน ส่วนการช่วยเหลือ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือผู้โดยสารแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บกำลังนำตัวส่งโรงพยาบาล และได้ปิดสถานีรถไฟอีก 9 แห่ง
สำหรับสาเหตุที่สรุปเบื้องต้น มาจากระบบสัญญาณไฟขัดข้อง ซึ่งเป็นสาเหตุเดียวกันกับอุบัติเหตุรถไฟหัวกระสุนที่เจ้อเจียงด้วย ทำให้ในสังคมออนไลน์ของจีน เต็มไปด้วยบทวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะในเรื่องของความไม่ไว้วางใจการทำงานของการรถไฟของรัฐ บางรายกล่าวว่า "นี่คือผลของการมุ่งพัฒนาประเทศที่เร็วเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว ชาวจีนควรไตร่ตรองว่าเราต้องการค่าครองชีพที่สูงขึ้น หรือชีวิตที่มีความสุข" ขณะที่หลายรายระบุว่า ไม่อยากขึ้นรถไฟใต้ดินอีกแล้ว
วันเดียวกันมีรายงานว่า เกิดเหตุเจ้าหน้าที่การรถไฟในมณฑลเจียงซี ทางตะวันออกของจีน จำนวน 3 นาย ลงมือทุบตีผู้โดยสารวัยกลางคนผู้หนึ่งถึงแก่ความตาย ต่อหน้าผู้โดยสารคนอื่นๆ จากรายงานคำให้การของผู้โดยสารจำนวน 20 คน ที่ร่วมเป็นพยานระบุว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ทะเลาะวิวาทกับผู้โดยสารคนหนึ่ง จากนั้นผู้ตายก็เข้ามาห้ามปราม ฝ่ายเจ้าหน้าที่จึงหันไปซ้อมชายเคราะห์ร้ายจนถึงแก่ความตาย โดยนางหลี่ หนึ่งในกลุ่มพยานกล่าวว่า ทุกคนในที่เกิดเหตุโกรธมากกับความ โหดร้ายของพนักงานรัฐในครั้งนี้ ส่วนการรถไฟเจียงซี ปฏิเสธการแสดงความเห็นต่อผู้สื่อข่าว หลังเป็นประเด็นอื้อฉาวครั้งใหม่ นอกเหนือจากเรื่องคอร์รัปชั่น