ตำนานและดาบเลื่องชื่อ
:: เรียบเรียงโดย Sonic ::
Sword [ดาบ กระบี่] เป็นอาวุธมาตรฐานที่มีใบขนาดยาว ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษยชาติ จนอาจเรียกได้ว่าเป็นอาวุธคู่อารยธรรมของ มนุษย์อย่างเราๆท่านๆ คำว่า Sword เมื่อมองตามรากศัพท์แล้วจะพบว่า Sword มาจากภาษาอังกฤษโบราณคือคำว่า Swerod ซึ่งก็ไปปรากฏเป็นคำที่มีความหมายเดียวกันในภาษาของชนชาติใกล้เคียงด้วยครับ เป็นต้นว่า Swerf ในเยอรมันโบราณ, Swret ในภาษาดัชท์, ชาวนอร์สดั้งเดิมจะเรียกดาบว่า Sverd โดยคำเหล่านี้ล้วนมาจากรากศัพท์ที่เป็นภาษาโปรโต-อินโด-ยูโรเปียน หรืออินโดอารยันคำว่า swer- อันแปลว่า ทำให้เจ็บหรือทำให้เกิด บาดแผล
ดาบ [sword] เมื่อมองตามองค์ประกอบของมันจะพบว่า องค์ประกอบมาตรฐานของดาบโดยทั่วไปจะประกอบใบดาบ (blade) ซึ่งอาจจะมีเพียงคมเดียวหรือสองคมก็ได้ขึ้นกับวัตถุประสงค์การดีไซน์หรือใช้งาน พิษสงของดาบก็อยู่ที่ตัวใบดาบนี่แหละครับว่าคมหรือมีประสิทธิภาพขนาดไหน ใบดาบส่วนมากเอาไว้แทง ตี หรือตัดเป็นหลัก องค์ประกอบอีกอย่างของดาบมาตรฐานก็คือด้ามดาบหรือด้ามจับ มีไว้เพื่อให้นักดาบจับมันได้ อย่างกระชับเหมาะมือนั่นเอง
ว่ากันว่าอาวุธระยะประชิดของมนุษย์ล้วนแล้วแต่มีบิดาคืออาวุธประเภทดาบด้วยกันแทบทั้งสิ้น แถมในสมัยที่อารยธรรมโบราณของมนุษย์รุ่งเรืองถึงขีดสุด ดาบนี่แหละคืออาวุธมาตรฐานที่นักรบต้องมีไว้ ประดับกาย สังเกตไหมครับว่าพระเอกในนิยายเอย หนังประเภท Magic & Sword เอย หรือแม้แต่ RPG Games เอย ตัวเอกหรือตัวประกอบเด่นๆเค้าล้วนแต่ใช้ดาบกันทั้งสิ้น อาวุธสุดยอดที่สุดในเรื่องก็เป็นดาบอีกนั่น แหละ เคยสงสัยไหมครับว่าทำไม?
นั่นอาจจะเป็นเพราะดาบมีความเก่าแก่อยู่คู่กับอารยธรรมของเรามายาวนาน และลักษณะทางกายภาพของดาบก็เหมาะสมกับการต่อสู้ในทุกๆสถานการณ์ แถมพอดัดแปลงนิดหน่อยดาบก็แปรสภาพเป็นอาวุธอื่นๆได้อีก อาทิเช่น สั้นและเล็กลงอีกนิดก็กลายเป็นมีด ต่อด้ามให้ยาวอีกหน่อยก็เป็นหอกหรือง้าว ที่สำคัญคือศิลปะแห่งการใช้ดาบหรือว่าเพลงดาบนั้น ถือเป็นศิลปะยุทธขั้นสูงที่ได้รับการยกย่องสืบทอดกันมานนานนมในทุกๆอารยธรรม โดยศิลปะ ยุทธที่ว่าอาจมีการเปลี่ยนรูปลักษณ์หรือกระบวนท่าไปบ้าง นั่นก็ว่ากันไปตามบริบทและความเหมาะสมของชนชาตินั้นๆ
ดาบก็เหมือนคนครับ คือมีชื่อเรียกของมันอยู่ ดาบบางเล่มที่ถูกตีขึ้นมากลายเป็นดาบมีชื่อเสียงที่แม้ปัจจุบันคนทั่วไปก็ยังรู้จักกัน ชื่อของดาบเหล่านั้นปรากฏในเทพนิยายบ้าง วรรณกรรมคลาสสิคบ้าง แม้กระทั่งประวัติศาสตร์ที่เป็น ตำราเรียนบางเล่มยังยกย่องดาบลือชื่อเหล่านั้นในฐานะของอาวุธและสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญเลยครับ เดี๋ยวผมจะลงรายละเอียดของดาบมีชื่อเสียงเหล่านั้นในช่วงท้ายๆของบทความนี้ละกันนะครับ :)
History of The Sword : กว่าจะมาเป็นดาบ!
ดาบยุคทองแดง (Bronze Age)
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้กล่าวไว้ว่า มนุษยชาติประดิษฐ์และใช้ดาบเป็นอาวุธอย่างเป็นล่ำเป็นสันในยุคทองแดง โดยมีวิวัฒนาการมาจากอาวุธสำหรับล่าสัตว์คือมีดสั้น (dagger) กล่าวคือดัดแปลงให้มีขนาดและใบดาบที่ยาว ขึ้นนั่นเอง ดาบในยุคทองแดงเป็นดาบที่มีความยาวไม่มากครับ โดยเฉพาะดาบที่ยาวเกินกว่า 3 ฟุตนั้นแทบจะหาไม่ได้เลยในช่วง 2000 ปีก่อนคริสตกาล
ในนิยายกำลังภายในชอบกล่าวไว้ว่า ยาวหนึ่งนิ้วได้เปรียบหนึ่งส่วน สั้นหนึ่งนิ้วอันตรายหนึ่งส่วน ยิ่งยาวก็ยิ่งได้เปรียบไม่ใช่เรอะ? ทำไมคนในยุคทองแดงไม่ทำดาบให้มันยาวๆไปเลยล่ะ?
ดาบในยุคทองแดง
ครับ ปัญหาน่าจะอยู่ที่ข้อจำกัดทางเทคนิคของการตีดาบมากกว่า เพราะมนุษยชาติของเรานั้นไม่ใช่ทุกอารยธรรมที่จะได้รับเทคโนโลยีจาก Anunnaki (ว่าไปโน่น) มนุษย์ในยุคทองแดงของเรายังมีข้อจำกัดด้านการถลุง โลหะอยู่มาก แถมคุณสมบัติของทองแดงยังไม่เอื้อต่อการตีดาบที่มีขนาดยาว ดังนั้นความยาวเฉลี่ยของดาบในยุคดังกล่าว จึงอยู่ที่ 1.5 - 2.5 ฟุตเป็นหลัก
ดาบในยุคทองแดงมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากอาวุธยุคหินอย่างชัดเจนที่ด้ามจับครับ คือจะเพิ่มด้ามดาบเพื่อให้กระชับ(และยึด)ใบดาบเอาไว้ ด้ามจับมีไว้ป้องกันมือผู้ใช้ไม่ให้สัมผัสกับใบดาบโดยตรง ลักษณะทางกายภาพ ของดาบยุคทองแดงจะเรียวยาวคล้ายใบไม้ วัตถุประสงค์ของการใช้คือแทงมากกว่าฟัน ดาบที่เก่าแก่ที่สุดในยุคบรอนซ์พบได้ในแถบทะเลดำและเมดิเตอร์เรเนียนรวมทั้งเมโสโปเตเมียด้วย
ดาบยุคบรอนซ์อื่นๆที่น่าสนใจก็ได้แก่ ดาบของชาวสแกนดิเนเวียโบราณในช่วง 1400 ปีก่อนคริสตกาล ใบดาบค่อนข้างเก๋ไก๋คือมีรูปลักษณ์เป็นเกลียว ในขณะที่ดาบลือชื่ออีกตระกูลของโลกคือกระบี่จีนนั้น เริ่มใช้กันเป็นอาวุธ อย่างแพร่หลายในยุคทองแดงของจีนสมัยต้นราชวงศ์ชางเป็นต้นมา
ไฟล์แนบ: คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนที่จะสามารถดาวน์โหลดหรือดูไฟล์ที่แนบมา.
หากคุณยังไม่มีบัญชีหรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก?กรุณาสมัครสมาชิกที่นี่