Robert Jamison
Robert Jamison
(former USAF nuclear missile targeting officer):
ระหว่างมกราคม 1965 - ตุลาคม 1967 ผมทำงานที่ฐานทัพอากาศ Malmstrom
รับผิดชอบทีมนาวิกโยธิน ที่มีหน้าที่ประจัญบาน ด้านขีปนาวุธ หน้่าที่หลักคือยิง ขีปนาวุธให้ถูกตรงเป้าหมาย
ดังนั้นบางครั้ง เราต้องส่งคนออกไปตลอดเวลา เพื่อ Restart ในกรณีนี้ ขีปนาวุธ
ทุกแบบจะหยุดการเตรียมพร้อม และเราต้อง Restart ใหม่เพื่อยืนยันข้อมูลใหม่
ในเดือนมีนาคม 1967 ผมอยู่ในสถานการณ์เตรียมพร้อม สำหรับการยิงขีปนาวุธ
ช่วงนั้นเป็นเวลาค่ำ ผมจะได้รับโทรศัพท์แจ้งจากหัวหน้าควบคุมว่า “ขีปนาวุธ
ที่ Oscar Flight หยุดการเตรียมพร้อม จะต้องออกไป Restart มัน” ผมจึงแจ้งชุด
ปฎิบัติการและกำลังออกไป ณ จุดปฎิบัติการ
จึงถือโอกาสสนทนากันตามสมควร มีผู้ถามผมว่า “คุณรู้ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น ?”
ผมตอบว่า “ไม่ ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไร” เขาพูดต่อขึ้นว่า “ ดีล่ะ UFOs กำลังมอง
อยู่เหนือพื้นที่ Lewistown ,Montana เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นเหนือพื้นที่ของ Roy, Montana ”
แต่เหนือพื้นดินขึ้นไปของเมือง Lewistown และ Roy, Montana ใต้ดินตรงกลาง
ระหว่างเมืองทั้งสองคือ Oscar Flight ทุกครั้งที่ UFOs มาปรากฎ ก็จะอยู่เหนือ
เมืองทั้งสองดังกล่าว และทั้งหมดของ Oscar Flight ชะงักลง ดังนั้นจึงมีความ
แปลกประหลาดมาก
เมือง Lewistown ใน Montana
เมื่อหัวหน้าควบคุม ยืนยันว่าเรียบร้อยแล้ว ผมจึงมองไปที่ แผงแสดงสถานะของ
ระบบ ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะเป็นแผนผังของกลุ่มต่างๆในระบบ ผมสังเกต
เห็นทุกอย่างแสดงเป็นสีเขียว ยกเว้นอยู่มุมหนึ่งมีแสงเตือเป็นสีแดง ซึ่งเป็นพื้นที่
ของ Oscar Flight ทั้งหมดแสดง หยุดการเตรียมพร้อม
ก่อนหน้านี้ราวสัปดาห์มาแล้ว มี UFOs มาสังเกตการณ์เหนือ Echo Flight และ
เป็นเวลาเดียวกัน ที่ขีปนาวุธทั้งหมดของ Echo Flight หยุดการเตรียมพร้อม
นี่เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นก่อนมาแล้ว
ในความเห็นส่วนตัว ผมไม่เคยทราบว่าฐานยิง ขีปนาวุธใดๆที่ จะหยุดการเตรียม
พร้อมๆกันสองที่ในเวลาเดียวกัน หรือโดยลำพังในกลุ่มที่มีฐานนับสิบ ผมรับรู้ได้
ยินเรื่อง UFOs ที่หลายคน ในแผนกควบคุมกล่าวถึง
ที่ผ่านมาในคราวก่อนนั้น UFOs สังเกตการณ์เหนือฟากฟ้าของ Belt, Montana
และในเมืองอื่นๆ ของ Montana และเมืองเล็กๆทางตะวันออกของ Malmstrom
เห็นมันเข้าไปหุบผา
ในทันที่ทันใด มีคำเตือนจากกองทัพอากาศ ว่าเราได้ส่งชุดสืบสวนเข้าไปหาข้อ
มูลมีความแน่ใจ พอสมควรว่า ที่นั่นในบริเวณก้นหุบผา พบ UFOs อย่างชัดแจ้ง
“เป็นคำสั่งที่ออกมาด่วนยิ่งกว่าฉุกเฉิก” โดยมีการจัดเตรียมห้องเพื่อระดมความ
คิดเห็นจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่
ผมได้เข้าไปในห้องนั่นด้วย ห้องนั้นมีคนมากมายเบียดเสียด ผมได้ยินเสียงวิทยุ
ติดต่อจากชุดภาคสนามที่ออกไปค้นหา ทั่วบริเวณ ในก้นหุบผา และทุกๆสิ่ง
แต่ผมไม่ใกล้พอ ที่จะได้ยินว่ามีอะไรเกิดขึ้นอย่างแท้จริง
ลักษณะพื้นที่รอบนอกของเมือง Belt, Montana
ผมอยู่ที่นั้นพร้อมกับนายทหารยศสิบเอกคนอื่น ผมรู้จักเขาเพราะบางครั้งเคยฟัง
บรรยายสรุปผลซึ่งกันและกัน เขาพูดว่า “ดูท่าทาง เรามีปัญหา” เราพบ UFOs
ในพื้นที่ฐานยิงขีปนาวุธมันต้องยุ่งแน่
ถ้าเราเห็น UFOs เราจะไม่เป็นผู้ลงมือ แต่จะเข้าไปให้ใกล้ เพื่อควบคุมไว้ก่อน
ดังนั้นเราต้องใช้ ชุดควบคุมปฎิบัติการและแจ้ง ให้รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ถ้าพวก
เราในฐานบุกออกไป สามารถหยุดและทำอะไร เพื่อให้มันถอยห่างออกไปจาก
ฐาน โดยทั้งหมดใช้การติดต่อทางวิทยุสื่อสาร
ชุดควบคุมรอการเพิ่มเติมคำแนะนำ ว่าขณะนี้เราอยู่ในฐาน เรากำลังจะไปทำงาน
ข้างนอก ผมพูดกับตนเองและทีมงาน มีเป้าหมายเป็นเส้นชัยออกไปโดยไม่เป็น
ผู้ลงมือ แต่จะเข้าใกล้และจับตัว ทั้งหมดเมื่อออกไปสู่สนามข้างนอก ให้ติดอาวุธ
เพื่ิอลาดตระเวณ ซึ่งนั้นเป็นสิ่งปกติ
ผมรอคอยเวลา ราวๆชั่วโมงครึ่ง เราพร้อมที่จะออกไป จึงมีสัญญานติดต่อทาง
วิทยุว่า “ตกลง คุณออกไปได้เดี๋ยวนี้เลย” ดังนั้นผมและทีมทั้งหมดของผมออกไป
สนามด้านนอกพื้นที่ Oscar Flight อย่างไม่น่ายินดีนัก ซึ่งอยู่ห่างไป 120 ไมล์
จากฐานของเรา
ถ้ากองทัพอากาศมีความพัวพัน ในเรื่องนี้ มันคงไม่ต่างจากออกไปนั่งรถเล่น
แต่ไม่ทางเลือกเราต้องออกไปที่ Oscar Flight และเราต้องไป Restart มัน ไม่
3-4 ของหัวรบขีปนาวุธ มันเป็นที่ที่ Robert Salas ประจำการอยู่ในเวลานั้น
เราประสบความสำเร็จโดยได้ Restart 3-4 ของหัวรบขีปนาวุธ ผมไม่เห็นสิ่งผิด
ปกติในสนาม แต่เมื่อผมกลับออกมา เราคิดถึงเรื่องต้องกลับไป รายงานสรุปผล
สิ่งแรกที่ผมคิด “เกิดอะไรขึ้นกับขีปนาวุธเป็นทิวแถว ?"
ต่อมาหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ผมได้ยินเรื่อง UFOs มีการเห็นที่ Indis Flight
ทำให้บางส่วน ถูกปิดระบบ ผมคิดว่า ราว 4-5 ของหัวรบขีปนาวุธ ถูกปิดระบบที่
Indis Flight ซึ่ง UFOs อยู่เหนือพื้นที่นั้น แม้ปิดระบบไม่ครบถ้วนและผมก็ออกไป Restart อย่างน้อย 2 หัว ผมต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องให้ UFOs จะไม่เป็นความ
ลับ แต่ไม่มีอะไร เกิดขึ้นจากกองทัพ ตอนนี้ผมจึงต้องหาหนทางอื่น
Charles I. Halt
Charles I. Halt
(USAF Col. Ret., former deputy base commander):
ผมเกษียณจากกองทัพอากาศ ที่ Colonel ในปี 1991 ระหว่างที่รับราชการทหาร
ผมรับผิดชอบ บัญชาการก่อสร้างฐานขนาดใหญ่ 2 แห่ง และช่วงเวลาที่ปลด
เกษียณแล้ว ผมยังประจำอยู่ในแผนตรวจสอบทั่วไปของกองทัพ เพื่อตรวจสอบ
งานทั้งหมดที่เอกชน เข้ามาปฎิบัติงานให้กับกองทัพ
ปี 1980 กระทรวงกลาโหม ได้มอบหน้าที่ใหม่ให้ รับผิดชอบ รักษาการบัญชาการ
ฐาน RAF Bentwaters ซึ่งเป็นฐานที่ใหญ่มากแห่งหนึ่ง ในด้านยุทธวิธีการบินของ
โลกซึ่งเป็นโครงข่ายกัน ระหว่าง RAF Woodbridge และ Bentwaters ในอังกฤษ
เวลาเช้ามืดเดือนธันวาคม ปี 1980 เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยหลาย
นายของผม ตรวจพบพบแสง จากชายป่าด้านตะวันออกของ Anglia ซึ่งเป็นด้าน
นอกของประตูด้านหลังฐาน RAF Woodbridge
สายตรวจ 3 นาย และนายจ่านอกราชการ นายทหารอากาศอีก 2 นาย ถูกส่ง
ออกไปดูในป่าดังกล่าว และได้เข้าใกล้ยานบิน รายงานระบุว่า เป็นลักษณะสาม
เหลี่ยมมีขนาดด้านละ 3 เมตร เคลือบด้วยเกล็ดโลหะสีมืด มีเครื่องหมายแปลก
ประหลาด
การสำรวจในช่วงเวลานั้น ทำด้วยความรวดเร็วและเงียบเชียบ หลังจากนั้นหาย
ไปด้วยความเร็วสูง ในขั้นต้น ผมตระหนักดีว่า ไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด นอก
จากคำบอกเล่าจากลักษณะแสง และผมแน่ใจในในเหตุผลการชี้แจง
RAF Woodbridge คือฐานบินทิ้งระเบิดของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ
ฐานยิงขีปนาวุธใน บรเวณ RAF Woodbridge
สองคืนที่ผ่านมา ที่งานปาร์ตี้คริสมาสต์ ของครอบครัวต้องถูกขัดจังหวะ เพราะ
รักษาการผู้บัญชาการบิน ตำรวจรักษาความปลอดภัยฝูงเครื่องบิน Lieutenant Bruce ในอังกฤษ ได้เข้ามาพบผมที่ฐานบัญชาการ ด้วยสีหน้าซีดเผือก และ
พูดว่า “มันกลับมา” ผมถามกลับ “อะไรกลับมา?” เขากล่าวตอบ ว่า “UFOs”
เราทั้งคู่อึ้งไปชั่วขณะ ซึ่งในจุดนี้ผมไม่เชื่อเลย ที่ผ่านมาเจ้านายผมได้มีข้อแนะนำ
ไว้ว่า ภาระกิจที่ผมรับผิดชอบเป็นงานหนัก และถ้าเกิดมีการไต่สวนใดๆ จะเป็น
เรื่องโชคไม่ดี
ผมทบทวนสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล เพื่อหาข้อเท็จจริง จากบันทึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รักษาความปลอดภัย มีความน่าเสียดายที่ อุปกรณ์ APN-27 เครื่องตรวจวัด
กัมมันตภาพรังสี และกล้องถ่ายภาพ ของเจ้าหน้าที่ภายหลังเสียหายหมด
ผมมีเครื่องบันทึกเสียงขนาดเล็ก ที่นำติดตัวไปไหนต่อไหนด้วยในขณะที่ผมทำ
หน้าที่ ผมจึงบันทึกข้อมูลเรื่องเรื่องของที่นี้ไว้ ผมต้องตรวจสอบเชิงลึกคืบคลาน
เข้าไปที่ละนิ้วในใกล้ที่สุด ราว 6-8 ฟุต จากด้านข้่าง เพื่อหาค่ารังสีที่อาจมีมาก
กว่าปกติ 8-9 เท่า ซึ่งยังไม่เป็นผลอันตรายสำหรับบางคน
ผมจึงพยายามหาหลักฐาน เศษละเอียดของกิ่งไม้ที่หักร่วง อยู่รอบๆบริเวณนั้น
เป็นสิ่งที่คิดไว้เพื่อให้เกิดความครบถ้วน โดยจะปิดป่าในบริเวณนั้น เพื่ิอค้นหา
บางสิ่งที่ยังตกหล่นอยู่ มันเป็นหนทางที่ดี อาจมองเห็นด้วยตาด้วยความแจ่มชัด
หรือในมืดมน มันอาจส่งสัญญาน หรือส่องแสงกระพริบๆได้ จากการปลดปล่อย
พลังงานบางอย่างจากความร้อนของ โลหะ หรือของเหลวที่หยดออกมา
มันเป็นความเงียบครอบคลุมไปทั่วแนวป่านั้น เราหลีกเลี่ยงที่จะมีการติดต่อใดๆ
มีแต่การผงกศีรษะกัน เราต้องลองเข้าใกล้ที่สุด จะไม่ล่าถอยออกมาจากที่นั่น
จากแนวป่านั้น ท่ามกลางความเงียบ มีรอยปะทุจากวัตถุสีขาว 5 จุด
ฐานยิงขีปนาวุธใน บรเวณ RAF Woodbridge
สภาพป่ารอบๆ RAF Woodbridge
แต่หนึ่งในทีมค้นหาได้สังเกตเห็นวัตถุบางอย่างุในท้องฟ้าทางทิศเหนือ มันเป็น
กลุ่ม 3-4 จุดมีสีสดใส และเปลี่ยนสีบริเวณขอบที่เป็นรูปไข่โดยรอบ เคลื่อนที่ไป
ด้วยความเร็วสูงมาก มีการหักเลี้ยวเป็นมุมสามเหลี่ยม คล้ายกับเส้นวิ่งขึ้นล ที่เรา
เขียนบนแผ่นกราฟ
ขณะที่รอคอย มีบางคนสังเกตเห็นอย่างอื่นว่า ด้านทิศใต้มีอีกวัตถุ 2 จุดบินฉวัด
เฉวียนระยะสั้นๆในท้องฟ้า โดยหนึ่งในนั้นพุ่งเข้ามาหา พวกเราด้วยความเร็วสูง
มากห่างเพียง 3-5,000 ฟิต โดยหยุดตรงอยู่เหนือเรา และเจาะจงยิงลำแสงลงมา
ยังบริเวณพื้นที่พวกเรายืนกันอยู่ มันเป็นวงเส้นผ่าศูนย์กลางราว 1 ฟุต
โดยลำแสงตลอดแนวที่พุ่งมามีขนาดเท่ากัน เป็นประเภท แสงเลเซอร์ พวกเรายืน
อยู่ที่นั่นด้วยความตกใจกลัว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้กำลังเตือนอะไร ? หรือพยายามแสดง
การสื่อสาร ? หรือสิ่งนี้คือสงคราม หรือเพียงแต่ทดสอบเรา ?
และทันใดนั้น มันปรากฎเสียงดัง “คลิก” แล้วมันหายไป เรายืนอยู่ที่นั่นด้วยความ
กังวล ตลอดเวลาที่ผ่านไป เรายังสังเกตเห็นวัตถุอื่นๆ ทางทิศใต้ยิงลำแสงมาจาก
ระยะไกลทางยาวเป็นไมล์ หรือครึ่งไมล์ เหนือบริเวณฐาน Woodbridge
ฐานทัพอากาศ RAF Woodbridge
เรามีคลื่นวิทยุติดต่อต่างกัน 3 คลื่นความถี่ คือ คลื่นตำรวจ คลื่นชุดตำรวจรักษา
ความปลอดภัย และ ลื่นโครงข่ายบัญชาการ ทั้ง 3 คลื่น มีบทบาทหน้าที่ อย่างมี
ประสิทธิภาพ เราสามารถพูดติดต่อสื่อสารไปยังศูนย์สั่งการได้ แต่ทั้งหมดหยุด
ชะงักต่อเนื่อง ในเวลานั้นเราติดต่อสื่อสารอย่างยากลำบาก
เราสังเกตว่า เครือข่ายคลื่นตำรวจ และคลื่นชุดตำรวจ รักษาความปลอดภัยถูก
ลำแสงหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งรบกวน หรือใกล้บริเวณ พื้นที่ศูนย์ปฎิบัติการสงคราม
นิวเคลียร์ ก็ติดต่อสื่อสารอย่างยากลำบากอย่างเดียวกัน
ผู้บัญชาการที่สูงกว่าผม ต้องการข้อมูลว่ามีอะไรเกิดขึ้น ผมสรุปรายงานโดยเปิด
เครื่องบันทึกเสียงนั้นให้ฟัง เขาฟังอย่างตั้งใจ เขาสนองตอบต่อเหตุการณ์ เพราะ
ก่อนหน้านี้ เขาได้ตรวจสอบย้อนหลังเรื่องคลื่นวิทยุในคืนนั้น
เขานำเทปบันทึก เข้าไปในการประชุม คณะทำงานกองทัพอากาศ ภาคที่ 3 เพื่อ
ติดตามผลในวันพุธ คณะทำงานของกองทัพอากาศ ภาคที่ 3 เป็นสำนักงานที่ตั้ง
ส่วนหน้าของกองทัพอากาศ ที่อังกฤษ ในเวลานั้น โดยเปิดเสียงบันทึกให้นายพล
Bazley ซึ่งเป็นผู้บัญชาการและคณะทำงานฟัง ทั้งหมดนั่งเงียบกริบ
สิ่งที่เกิดขึ้นกับฐาน ต่อการตัดสินใจเรื่องนี้ คณะทำงานของกองทัพ มีความเห็น
ว่าทางการอังกฤษอาจลังเล ไม่เต็มใจที่ต้องเข้าไปเกี่ยวพัน กับเรื่องโลกอื่น
ดังนั้นผู้บัญชาการ ของผมจึงนำเทปบันทึกเสียง กลับมาคืนผม ผมจึงกล่าวว่า
“เราจะทำอย่างไรดี เจ้านาย ? ” เขากล่าวตอบว่า “จะไปพบหัวหน้าฝูงเครื่องบิน
Moreland ซึ่งเป็นผู้ประสานงาน สำนักงานของอังกฤษ ” โดยให้เขาทำรายงาน
ปัญหาที่เกิดไม่ใช่จากเรา
RAF Woodbridge ในอดีต
แต่หัวหน้าฝูงเครื่องบิน Moreland ขณะนั้นลาพักร้อนอยู่ที่ Wales เมื่อเขากลับ
มาเขาอาจหงุดหงิด ที่ต้องเป็นคนกลางตัดสินใจเรื่องนี้ ผู้บัญชาการผมจึงพูดว่า
“งั้นเขียนบันทึก” ดังนั้นผมจึงเขียนขึ้นมาอย่างชัดแจ้ง ด้วยความเป็นจริง เป็น
เรื่องแสงที่อธิบายไม่ได้
ช่วยกระตุ้นเรื่องทั้งหลาย เพื่อทำให้เขากลับมาสืบสวนและคิดดูสิ่งที่เกิดขึ้น ผม
ส่งไป Moreland ซึ่งที่นั่นเขาไม่รู้จักผม ทาง Moreland ทำสำเนาให้ผู้มีอำนาจ
ที่เหนือกว่าในกองทัพอากาศ ภาคที่ 3 ซึ่งผมไม่ทราบเลยในเวลานั้น
และมีสำเนาถึง กระทรวงป้องกันการรุนรานมาตุภูมิ เป็นสิ่งที่ปรากฎระบุอยู่ใน
แฟ้ม จากวันเป็นสัปดาห์ และสัปดาห์เป็นเดือน ผมลืมเรื่องทั้งหมดไปแล้วมันเป็น
สิ่งที่พูด อย่างตรงไปตรงมาสำหรับคุณ
ต่อมาราวปีเศษ หนึ่งในผู้ประสานงานของผม นำเทปบันทึกที่สำเนาจากผมไป
เปิดในงานปาร์ตี้ และมีบางคนสนใจ ผู้นั้นได้ถามคำถามบางอย่าง และพูดว่า
“ถึงยับยั่งเรื่องเขียนบันทึก”
ไม่มีคำพูดที่มากไปกว่านี้ในวันที่ผ่านมา เราเพียงต้องการแปลความ และสำเนา
เป็นเหมือนเปลือกหัวหอม ที่ผมมีอยู่บนโต็ะ ดังที่ผู้บัญชาการผม กลับมาบอกว่า
“มันไม่มีการบันทึกไว้ เป็นทางการหรอก”
Pete Bent เป็นเพื่อนที่ดีของผม มีภาระกิจบัญชาการในกองทัพอากาศ ภาคที่ 3 โทรศัพท์มาหาผม “ผมได้รับสำเนานี้ เราจะเอาออกมารื้อฟื้น” ผมพูดว่า “ขอร้อง
เถอะเผามันซะ” ชีวิตคุณและความรู้สึกจะไม่เหมือนเดิม คุณและผมไม่ต้องการ
สิ่งนี้ เ
ขากล่าว่า ผมต้องพูดมากกว่านี้ เทปบันทึกเสียงที่ส่งกลับ เพราะไม่มีใครรู้จักคุณ
ดีและบันทึก ข้อความในกระดาษ ที่ส่งกลับเพราะถูกเผยแพร่ออกไปข้่างนอกแล้ว
แต่กรณีที่มีบางอย่างเกิดขึ้นนั้น มีความจริงบางอย่างเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นอีก และ
ผมว่าเป็นสิ่งที่ไร้สาระ ในเวลานี้ที่จะเชื่อสิ่งที่ผมพูด ผมได้ถาม OSI (หน่วยงาน
สืบสวนพิเศษของกองทัพอากาศ) ว่าสนใจเรื่องนี้ไหม เขาตอบว่า “ไม่..ไม่สนทั้ง
หมด” นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ต่อมาผมพยายามสืบหาว่า นายทหารอากาศนายนั้นอยู่ที่ไหน ซึ่งควรรู้ในสิ่งทีี่
ผมพูด ผมก็ไม่เคยเห็นสรุปผล ผมคงต้องหาเขาภายหลัง อาจอยู่ที่ป้อมปฎิบัติ
การ ที่ไหนสักแห่ง หรือป้อมปฎิบัติการที่ Bentwaters ในอังกฤษ เพราะเขาเห็น
วัตถุและตรวจพบลำแสง แน่นอนว่าเขาเห็นบางอย่าง หรือใครก็ตามที่ ทำงาน
อยู่ที่่นั่น ต้องเห็นสิ่งที่กำลังลงมา ในแนวชายป่าของเรา
และยังมีเจ้าหน้าที่รอบๆฐานอีกหลายคน เห็นในสิ่งเดียวกัน เพราะมันเป็นสิ่งที่น่า
สนใจ อะไรที่เราเห็น ? ผมไม่มีความคิดว่า เราเห็นอะไรในคืนนั้น แต่เรารู้ว่ามัน
อยู่ในภาวะ ถูกควบคุมด้วยความทรงปัญญา นั้นเป็นความเห็นส่วนตัว มันอาจ
เป็นสิ่งที่ต่างมิติ หรือ สิ่งทรงปัญญาจากโลกอื่น
ขอบคุณที่รับชมค่ะ^^~
Credit:
sunflowercosmos