เรื่องที่เสนอต่อไปนี้คือเกล็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆที่ไม่เล็กเท่าใดนักเมื่อเทียบกับการทดลองแล้วได้คำตอบออกมา เมื่ออ่านจบบางที่เพื่อน ๆ อาจสงสัยว่าเอาอะไรมาเป็นตัววัดกับเรื่องที่ผมเสนอ ผมก็บอกกับเพื่อน ๆได้เลยครับว่าถ้าคุณคิดว่าเรื่องที่ผมเสนอไปนั้นจริงเท็จแค่ไหนก็ลองหาคำตอบกันดูได้ทางอินเตอร์เน็ตนะครับ (ให้เอินเตอร์เน็ตให้ถูกทางให้เป็นเครื่องเพิ่มปัญญาและความคิด)  เรื่องที่ผมเสนออาจให้ความรู้คุณไม่มากก็น้อยแหละครับ

 

ไม่รู้ว่าอะไรดลใจ ให้เราวาดรูปเม็ดฝนที่ตกลงมาเป็นรูปคล้ายหยดน้ำตากันทุกคน ทั้งที่จริง ๆ แล้วของเหลวที่ตกลงสู่เบื้องล่างจะอยู่ในลักษณะที่กลมดิกอย่างสมบูรณ์ จนเรานำหลักการนี้มาใช้ในการผลิตกระสุน ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ทำให้เราเชื่อว่าแถบดาวเคราะห์น้อย เป็นบริเวณที่หนาแน่นไปด้วยดาวและสะเก็ดดาวที่ต้องหลบหลีก แต่อันที่จริงแล้ว พวกมันอยู่ห่างกันอย่างน้อย 2 ล้านกิโลเมตร คุณขับยานอวกาศผ่านไปได้สบาย ใจกลางของไข่มุกที่เราเชื่อว่าเป็นเม็ดทรายนั้น แท้ที่จริงแล้วมันคือ “หนอน” จำพวกพยาธิ ที่เข้าไปรบกวนหอยมุก จนมันต้องใช้น้ำมุกเคลือบไว้ มีโอกาสน้อยมากที่ภายในไข่มุกจะเป็นเม็ดทราย การผลิตหม้อโลหะใบใหญ่พอที่จะนำคนลงไปต้มทั้งตัวนั้น แม้แต่ในยุคนี้ก็ยังถือว่าลำบาก ต้องใช้วิทยาการขั้นสูงพอควร ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ชาวเผ่ากินคนสมัยก่อน จะใช้วิธีนั้นในการปรุงอาหาร พวกเขาจัดการโดยนำไปย่างรมควันต่างหาก เราได้เรียนมาว่า น้ำนั้นไม่มีสี สีฟ้าเกิดจากแสงสะท้อนของท้องฟ้า แต่จริง ๆ แล้วมีการพิสูจน์อย่างแน่ชัดแล้วว่า น้ำนั้นที่จริงมีสี “ฟ้า” แต่เจือจางมาก อย่างไรก็ตามสีฟ้าที่เราเห็นส่วนใหญ่ก็เกิดจากสีที่สะท้อนจากท้องฟ้าอยู่ดี ถ้าคุณตดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน 6 ปี กับอีก 9 เดือน แก๊สที่ได้มาจากการตดของคุณ จะเทียบเท่าระเบิดปรมาณูลูกนึงเลยทีเดียว กบอสรพิษหรือที่มีชื่อเรียกว่ากบลูกดอกแห่งอเมริกาใต้ มีพิษร้ายแรง พิษของมันสามารถทำให้ระบบร่างกายทั้งหมดของสัตว์อื่นหยุดทำงาน พิษของกบ 1 ตัว สามารถฆ่าคนได้ถึง 10 คน Botulinum เป็นเชื้อโรคชนิดหนึ่งที่ใช้ทำโบท็อก ช่วยยับยั้งรอยย่น แต่พิษของมันเพียง 100 กรัม ก็สามารถทำให้ตายได้ทั้งโลก เพียงแต่แบคทีเรียชนิดนี้จะยังไม่มีอันตรายตราบที่ยังมีออกซิเจน บ่อทรายดูดเกิดจากน้ำใต้ดินที่พุ่งทะลักจากพื้นใต้ผิวโลก ผสมเข้ากับเม็ดทรายข้างบน ทำให้ทรายอ่อนตัว และยุบตัวลงข้างล่างได้ง่ายขึ้น กิ้งกือขนาดใหญ่จะมีสีส้มและมีพิษ ซึ่งพิษจะอยู่ที่ต่อมหลั่งสารพิษข้างลำตัว สามารถฉีดออกมาได้ในระยะใกล้ ๆ เพื่อป้องกันตัวจากศัตรู โลกมีดวงจันทร์เป็นบริวารอย่างน้อย 7 ดวง (หมายถึงอาจมีมากกว่านั้นอีก) ดวงจันทร์ที่เรามองเห็นเป็นเพียงหนึ่งในดวงจันทร์เหล่านั้น ส่วนที่เหลือไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แสงเดินทางด้วยความเร็วที่ไม่แน่นอน อัตราการเดินทางของแสงที่ช้าที่สุด วัดได้ที่ความเร็ว 61 กม./ชม. เท่านั้น (เดินทางผ่านโซเดียมที่อุณหภูมิ -272 องศาเซลเซียส) และแสงจะเดินทางได้เร็วที่สุดในสุญญากาศ ภูเขาที่สูงที่สุดในจักรวาล(เท่าที่มนุษย์สามารถสำรวจได้) คือภูเขาโอลิมปัส (Olympus) อยู่บนดาวอังคาร ด้วยความสูง 22.5 กม. และกว้าง 624 กม. ความเชื่อที่สิ้นคิดที่สุดเกี่ยวกับนกกระจอกเทศคือความเชื่อที่ว่า “มันชอบมุดหัวลงไปในทรายเวลามีภัย” เพราะไม่มีนกกระเทศเทศตัวไหนเคยทำแบบนั้นมาก่อนเลย ถ้ามีภัยมันจะเผ่นด้วยความเร็ว 64 กม./ชม. สายใยชีวิตของเราผูกติดไว้กับก๊าซออกซิเจนในอากาศ เป็นเรื่องน่าขำกับความจริงที่ว่า ก๊าซออกซิเจนที่กำเนิดขึ้นบนโลกครั้งแรก คือของเสียที่ขับออกจากแบคทีเรีย (ประมาณว่าตดแบคทีเรียน่ะ) ทฤษฎีสัมพันธภาพนั้นถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกโดยกาลิเลโอ กาลิเลอี (ไม่ใช่ไอน์สไตน์) โดยพิมพ์ในหนังสือ Dialoque Concerning the World’s Two Chief System เมื่อปี 1632 แต่ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง และถูกแก้ไขโดยไอน์สไตน์ในภายหลัง ดาร์กช็อกโกแลต นอกจากจะมีคุณสมบัติช่วยให้ คลายเครียด ป้องกันโรคหัวใจ และ การเกิดมะเร็งบางชนิดได้แล้ว ยังช่วยแก้ไอได้อย่างชะงัด ด้วยสาร ธีโอโบร์ไมน์ (Theobromine) ซึ่งได้ผลดีกว่ายาโคเดอีน (Codeine) ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในยาแก้ไอที่ได้ผลดีในปัจจุบันเสียอีก สัตว์ที่ขึ้นสู่อวกาศเป็นตัวแรก ที่จริงคือเจ้า "แมลงวันผลไม้" ซึ่งถูกส่งขึ้นสู่จรวดวี2 ของสหรัฐอเมริกา พร้อมกับเมล็ดข้าวโพด ทะยานสู่อวกาศ ในเดือนกรกฎาคม ปี 1946 (หลังจากนั้นจึงตามด้วยต้นมอสส์และลิง) บุคคลแรกที่ล่องเรือไปรอบโลก ได้สำเร็จคือ เฮนรี่ เดอะ แบล็ก (ไม่ใช่เฟอร์ดินานด์ แม็กเจลลัน) เฮนรี่เป็นทาสและล่าม ของแมกเจลลัน ซึ่งเสียชีวิตที่ฟิลิปปินส์ในปี 1521 ขณะที่ล่องเรือไปได้เพียง ครึ่งโลกเท่านั้น ส่วนที่เผ็ดที่สุดของพริก อยู่ตรงบริเวณเยื่อแกนกลาง ซึ่งมีเมล็ดติดอยู่ เยื่อดังกล่าวมีสารไร้สีไร้กลิ่นที่ชื่อ “แคปไซซิน” ในปริมาก สารตัวนี้ทำให้พริกมีรสเผ็ดร้อน พริกที่เผ็ดที่สุดในโลกมาจาก เขตดอร์เซ็ต ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ จริงอยู่ที่ 7 ใน 10 ของโลกปกคลุมด้วยน้ำ แต่เมื่อเทียบกับ มวลของโลกทั้งใบแล้ว น้ำมีสัดส่วนเพียงแค่ 1 ใน 15 ของ 1 เปอร์เซ็นต์ ของมวลของโลกเท่านั้นเอง (โลกมีน้ำหนักประมาณ 6 ล้านล้านล้านล้านกิโลกรัม) สิ่งที่เก็บไว้ในโหนกของอูฐคือ “ไขมัน” ไม่ใช่น้ำอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ ซึ่งไขมันนั้นใช้เป็นพลังงานสำรอง ส่วนน้ำจะถูกเก็บไว้ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะในเส้นเลือด มันสามารถเสียน้ำหนักไปได้ถึง 40 เปอร์เซ็นก่อนที่จะได้รับผลกระทบ และสามารถเดินทางติดต่อกันได้ 7 วัน โดยไม่ต้องดื่มน้ำเลย