อ็อกตาเวียส กับ ฟายอิ้งดัชแมน เรือที่น่าพิศวง

น่าแปลกมากเกี่ยวกับเรือทั้ง 2 ลำนี้ อ็อกตาเวียส กับ ฟายอิ้งดัชแมน  เหตุการณ์ที่เกิดทำไมถึงคล้ายกัน และมันเกิดอะไรขึ้นกับโลกเราหรือการกระทำนั้นมาจากจากผู้ที่มีปัญญาสูง หรือเกิดจากห้วงเวลาที่ผ่านประตูมิติระหว่างปัจจุบันกับอดีต หรือยังไงกันแน่ที่ยังคงเป็นที่ฉงนและก็ยังมีผู้พบเห็นกับสิ่งที่เหนือธรรมชาติอยู่มากมาย และนี่ก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่น่าศึกษาค้นคว้า ลองอ่านดูครับใช้เวลาสักนิดเพื่อคุณจะได้ความรู้ไม่มากก็น้อย

บทที่ 1 อ็อกตาเวียส เรือที่ลอยอยู่ได้แม้ไร้ผู้ควบคุม

 

 กลางดึกคืนหนึ่งในท้องทะเลแถบกรีนแลนด์ เรือบรรทุกสินค้าลำใหญ่ แลเห็นเรือประหลาดลำหนึ่งผุดขึ้นมาจากผืนน้ำ มันเป็นเรือเก่าที่มีน้ำแข็งจับอยู่ทั่วทั้งลำดูน่ากลัว ขณะที่กัปตันกำลังจะเอาเรือไปเทียบดูใกล้ ๆ มันก็อันตรธานหายไป…

 

วันที่ 11 ตุลมคม 1775 เรือล่าปลาวาฬลำหนึ่งชื่อเฮราลด์ ได้พบเรือที่มีชื่อว่าอ็อกตาเวียส(Octavius) เข้าโดยบังเอิญ ทางตะวันตกของเกาะกรีนแลนด์

 

เรือนั้นอยู่ในสภาพถูกทิ้งและติดอยู่ในน้ำแข็ง ไม่สามารถเคลื่อนไปไหนได้ และเมื่อสำรวจดูบนเรือดังกล่าวพบว่าลูกเรือตายหมดแล้ว ทั้งหมดอยู่ในสภาพถูกแช่แข็งแบบเย็นจัด ส่วนกัปตันเรือตายในลักษณะนั่งคว่ำหน้าทับสมุดบันทึกเดินเรือ ในมือถือปากกาคล้ายกับกำลังจะเขียนอะไรบางอย่างลงไป นอกจากกัปตันแล้วยังมีเด็กและผู้หญิงตายในสภาพห่มผ้าอยู่ใกล้ ๆ

 

เมื่อพวกเขาอ่านบันทึกเรือดูก็ต้องตกใจมาก เพราะบันทึกดังกล่าวได้หยุดลงในปี 1762 แสดงให้เห็นว่าหลังจากที่ทุกคนบนเรือตายหมดแล้ว เรือลำนี้ยังเดินทางต่อไปอย่างไม่มีจุดหมายได้ถึง 13 ปี

 

เรืออ็อกตาเวียสได้ออกจากประเทศอังกฤษเมื่อปี 1761 ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือก่อนที่จะหายสาบสูญไป แต่เชื่อว่าเรือได้ติดน้ำแข็งขณะที่เดินทางผ่านภาคเหนือของอลาสก้าที่หนามเย็นจนลูกเรือตายหมด แต่ก็ยังสามารถล่อนลอยอยู่ได้ยาวนานถึง 13 ปี ก่อนที่จะมาหยุดเพราะติดน้ำแข็งที่เกาะกรีนแลนด์ดังกล่าว

 

 

 

บทที่ 2 ตำนานเรือปิศาจ Flying Dutchman

 

 



เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน (Flying Dutchman) หรือในภาษาดัทช์เรียกว่า “De Vliegende Hollander” เชื่อกันว่าเป็นเรือปีศาจที่จะร่อนเร่ไปตามน่านน้ำ จนกว่าจะถึงวันสิ้นสุดของโลก มักจะมาปรากฏตัวให้ผู้คนได้เห็นบ่อยในบริเวณแหลมกู๊ด โฮป (Cape of Good Hope) ว่ากันว่าจะมีแสงเรืองที่น่ากลัวออกมาจากเรือและมีกั ปตันเรือผู้ซึ่งแต่งกายแบบยุคสมัยเก่ายืนคุมเรืออยู่ พร้อมกับส่งเสียงอันโหยหวนน่าขนหัวลุกออกมา
มีเรื่องเล่าอยู่สองเรื่องที่เกี่ยวกับตำนานของเรือล ำนี้ เรื่องแรกเป็นเรื่องของกัปตันเรือ ที่ไม่นับถือศาสนา และไม่เชื่อในพระเจ้า จึงถูกพระองค์พิพากษาลงโทษ อีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับนักเดินเรือที่ชื่อ เบอร์นาร์ด โฟคค์ ซึ่งให้สัญญากับปีศาจว่า ถ้าช่วยให้เขาเดินทางไปถึง อีสต์อินดีส ภายในเวลา 90 วัน เขาจะยอมตกอยู่ในอาณัติของมัน ทั้งสองเรื่องนี้ว่ากันว่าเป็นเหตุผลที่ทำไมเรือ Flying Dutchman จึงต้องระหกระเหินอยู่ในทะเลชั่วกาลนิรันดร
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 เรือ Flying Dutchman เป็นของ Dutch East India Company เป็นเรือบรรทุกสินค้า และมีกัปตันชาวดัทช์ที่ชื่อ Van Der Decken ว่ากันว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจโหดเหี้ยม และเป็นคนไม่มีศาสนา ไม่นับถือพระเจ้า
ในปี ค.ศ. 1680 กัปตัน Van Der Decken ได้พาเรือFlying Dutchman ของเขา พร้อมลูกเรือไปยังดินแดนทางฝั่งตะวันออก และในขณะที่เขากำลังพาเรือกลับไปยังประเทศฮอลแลนด์นั ้น ได้เกิดพายุพัดกระหน่ำรุนแรง กัปตันได้พยายามต่อสู้กับพายุที่บ้าคลั่งอยู่นานเป็น ชั่วโมง จนพายุได้พัดเรือของเขาออกนอกเส้นทางไป และได้ไปชนกับหินโสโครก จึงทำให้ตัวกัปตันและลูกเรือของเขาจมสู่ก้นมหาสมุทรแ ละเสียชีวิตทั้งหมด ทุกคนเชื่อว่าพายุลูกนั้นเกิดจากการที่พระเจ้าได้พิพ ากษาลงโทษกัปตัน Van Der Decken และเรือลำนั้น เล่ากันว่าระหว่างที่กัปตันกำลังพยายามต่อสู้กับพายุ อยู่นั้น เขาได้ตะโกนออกมาว่า “I will round this Cape even if I have to keep sailing until doomsday!” แปลว่า “ข้าจะวนเวียนอยู่บริเวณแหลมนี้ ถึงแม้ว่าข้าจะต้องล่องเรือจนถึงวันสิ้นสุดของโลกก็ต าม”




 แหลม Good Hope

 
แต่ตำนานยังไม่จบสิ้นแค่นี้ เมื่อเรือ Flying Dutchman ได้ปรากฏให้ผู้คนได้พบเห็นหลายครั้ง
ในปี ค.ศ. 1881 คนประจำเรือของพระเจ้าจอร์จที่ 5 ได้เห็นเรือ Flying Dutchman ปรากฏขึ้นทางด้านหัวเรือ และหลังจากนั้นไม่กี่วัน คนประจำเรือคนนั้นก็เสียชีวิตจากการพลัดตกเสากระโดงเ รือ
ในปีเดียวกันนั้น เรือสินค้าสัญชาติสวีเดนได้แล่นผ่านบริเวณที่เรือ Flying Dutchman จม คนประจำเรือบนเสากระโดงได้มองเห็นเรือ Flying Dutchman และในตอนนั้นเขาก็พลัดตกลงมาจากเสากระโดงทันที ก่อนที่จะเสียชีวิตเขาได้บอกว่าได้เห็นเรือ Flying Dutchman กัปตันจึงได้ส่งคนขึ้นไปดูอีกที แต่ผ่านมาอีกสองวันเขาก็ได้เสียชีวิตลงอีกคน
หลายปีต่อมา เรือ Relentless สัญชาติอเมริกาได้แล่นผ่านบริเวณแหลมกู๊ดโฮป กัปตันได้เห็นเรือ Flying Dutchman จึงสั่งให้นายท้ายเรือหันหัวเรือไปทางนั้น เพื่อที่จะเข้าไปดูอย่างใกล้ชิด แต่ทว่านายท้ายเรือก็ไม่ได้ทำตามคำสั่ง กัปตันจึงไปตรวจดูและพบว่านายท้ายเรือได้เสียชีวิตแล ้ว และในคืนนั้นคนประจำเรือก็ได้หายตัวไปจากเรือถึงสามค น
ยังมีตำนานเล่าขานมาอีก เกี่ยวกับการพบเห็นเรือ Flying Dutchman

ในปี ค.ศ. 1911เรือ Orkney Belle กำลังเดินทางผ่านบริเวณแหลมกู๊ดโฮป และก็ได้มีรายงานว่าพบเห็นเรือ Flying Dutchman ในปี ค.ศ. 1939 มีคนกว่า 60 คน เห็นเรือ Flying Dutchman แล่นออกจากชายหาดผ่านพวกเขาไป และแล่นหายออกไปในความมืด ในปี ค.ศ. 1942 ผู้บังคับการเรือดำน้ำ U boats พลเรือตรี Karl Doenitz แห่งราชนาวีเยอรมัน ได้บันทึกในปูมเรือว่าพบเรือ Flying Dutchman แล่นผ่านเรือของเขาไป ในปี ค.ศ. 1942 ผู้บังคับการเรือ Nicholas Monsarrat แห่งเรือรบหลวง H.M.S. Jubilee ได้พบเรือ Flying Dutchman และได้พยายามส่งสัญญาณไปยังเรือนั้น แต่ไม่มีสัญญาณใดๆ ตอบกลับมา เขาได้บันทึกไว้ในปูมเรือว่าพบเรือใบไม่ทราบประเภทชั ้นเรือแล่นผ่านไปทั้งๆที่ไม่มีกระแสลมพัดอยู่เลย ในปี ค.ศ. 1943 ชาวบ้าน 4 คนในเมือง Cape Town ได้เห็นเรือ Flying Dutchman แล่นหายไปทางด้านหลังของเกาะ  
Credit: Nithat
14 ก.ย. 54 เวลา 12:05 4,461 1 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...