มนุษย์ต่างดาว เรื่องจริง หรือเท็จ ? ๒ -จบ-

 

 
กรณีที่ 2 วงกลมปริศนา และการลักพาตัว

ความหายนะ UFO ของมนุษย์ต่างดาวที่ Roswell ถูกสงสัยถึงคำอธิบายต่างๆจึง
ไม่สามารถพาดพิงไปในแง่ความสำเร็จให้มีน้ำหนักพอ เรื่องการเยือนโลกของ
มนุษย์ต่างดาวได้สมบูรณ์นัก

เพื่อให้มีความเป็นจริงต่อการเปิดเผย สู่สาธารณชน เพื่อให้เกิดการพิสูจน์ เรื่อง
เห็นมนุษย์ต่างดาวซึ่งหน้า ในฐานะเพื่อนบ้าน เช่น การลักพาตัว (Abductions)
หรือวงกลมปริศนา (Crop circles) และอีกหลายเรื่อง เช่น ปรากฎการณ์ทำลาย
ปศุสัตว์ในฟาร์มวัว และกัดกินแพะ เป็นต้น

วงกลมปริศนา เกิดขึ้นครั้งแรกในอังกฤษ รูปแบบใช้หลักเกณฑ์ทางเราขาคณิต
เพื่อเจตนาให้เห็นเป็นลักษณะความสามารถ สื่อความหมายจากต่างดาว โดยเป็น
การติดต่อด้วยวิธีสากลสู่มนุษย์ ให้ทันสมัยขึ้นตามยุค

แต่เมื่อพิสูจน์แล้วผลคือ การกระทำดังกล่าวเป็นฝีมือ มนุษย์ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการ
กระทำที่ไม่ยาก ช่วงไม่เกินข้ามคืน เป็นการเล่นตลก มิใช่ข้อความจากต่างดาว

ประดิษฐกรรมที่เกิดขึ้นบนทุ่งหญ้า มีมากขึ้นเรื่อยๆ การออกแบบมีความซับซ้อน
น่าเชื่อมากขึ้นตามลำดับ เพื่อให้เกิดการตีความที่พิศดารออกไป หนึ่งในผู้เชี่ยว-
ชาญการสร้างวงกลมปริศนา ยอมรับว่าต้องการเล่นตลก
   
วงกลมปริศนา
   
สัตว์ที่ถูกฆ่าหาสาเหตุไม่ได้ โดยเลือดแห้งเหือดหมด
   
เพื่อให้เกิดการกล่าวขวัญถึง มนุษย์ต่างดาว สำหรับกรณีการฆ่าปศุสัตว์ หรือทำให้
สัตว์พิการ (2 ขาคู่หน้า) เรียกว่า Chupacabras (ปีศาจดูดเลือด) เหตุจากความเชื่อ
ว่าในอดีตนานมาแล้วนับร้อยปี ปศุสัตว์แห่งหนึ่ง ถูกโจมตี โดยสัตว์ผู้ล่าเหยื่อ ซึ่งไม่
แน่นักว่าเป็นการเริ่มต้นกล่าวอ้างเรื่องมนุษย์ต่างดาว หรือใครเป็นผู้ฆ่า แต่เมื่อไม่มี
การยืนยันทั้งหมดจึงเป็นเหตุอ้างการกระทำของมนุษย์ต่างดาว

มีปรากฎการณ์ที่ประหลาดพาดพิง อ้างเรื่องมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว ทั้งหมดมักมี
อัตราการเกิดขึ้นในเมืองเล็กๆ ประชากรน้อย หลักฐานจำนวนหนึ่งในอเมริการะบุ
ว่าการลักพาตัว เกิดขึ้นแบบหลบๆซ่อนๆเสมอ ในขณะนอนหลับ (เป็นข้ออ้างเพื่อ
ไม่ให้เกิดความเอะอะอึกทึก) และเหยื่อผู้ถูกลักพา มักจะตื่นขึ้นบนยานมนุษย์
ต่างดาว เห็นบางอย่างในห้องที่มีเครื่องมือ แปลกๆ และมีรูปแบบถูกยึดให้นอน
คอยบนเตียง

การอ้างยากจะตรวจสอบ แต่มักแสดงว่าประหลาดที่คล้ายคลึงกัน มีตัวแปรระหว่าง
ช่วงเวลาของยุควัฒนธรรมมาเกี่ยวข้อง เช่น เป็นจำเลยของแม่มด หรือปีศาจในยุค
โบราณก่อนหน้านี้

แต่วันนี้เป็นการอ้างว่าถูกนำไปทดลอง จากมนุษย์ต่างดาว โดยนักจิตศาสตร์ให้ข้อ
วิเคราะห์ว่าประสบการณ์ การลักพาตัวขณะหลับ เกิดจากการหลับ ในระดับ Sleep
paralysis (การหลับแบบอัมพาต) ทำให้เกิด REM (Rapid eye movement) ลูกตา
กลอกไปมาอย่างรวดเร็ว เป็นระยะที่มีความฝันมากที่สุด เป็นไปตามธรรมชาติของ
ความอ่อนเปลี้ย บางครั้งเกิดขึ้นหลังตื่นไม่มีกี่นาที จากการเริ่มกระตุ้นของสมอง

จึงทำให้ผู้นั้นอยูในสถานะเกิดเหตุการณ์ได้ รวมทั้ง สามารถให้เกิดจินตนาการไป
ในเรื่อง การลักพาตัวของมนุษย์ต่างดาว ข้อมูลการหลับแบบ Sleep paralysis
มีสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งในการดำเนินชีวิตมนุษย์

จึงเป็นเหตุผลต่อการอธิบายว่า มีความเป็นไปได้ต่อการจินตนาการไปเกี่ยวข้องกับ
มนุษย์ต่างดาวสักครั้งหนึ่ง ในการลักพาตัว กรณีฝันกลางวัน จาก Sleep paralysis
สามารถเกิดได้เช่นกัน ในทางวิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นง่ายมากและอ้าง อย่างเป็นจริงเป็นจังเหตุเพราะเกิดกับตนเอง
   
การลักพาตัว ที่มักอธิบาย อ้างเหตุคล้ายๆกัน
   
กรณีที่ 3 การมาเยือนของมนุษย์ดาวต่างครั้นโบราณ

ความเชื่อของคนส่วนใหญ่เรื่องมนุษย์ต่างดาว เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้นโบราณเดินทางมา
ด้วยยาน วันนี้ก็เช่นกัน หลายคนยอมรับไปแล้วว่ามนุษย์ต่างดาว เคยมาเยือนโลก
จริงๆ ความคิดบนโลกกรณีดังกล่าวฟังดูน่าจะเป็นไปได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารยธรรม ที่เจริญเกิดขึ้นในกาแล็คซี่ โลกให้ความสนใจต่อ
มนุษย์ต่างดาว แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่า ยานต่างดาวนั้นเข้ามาศึกษาโลก เมื่อพัน
ล้านปีที่แล้ว หรือ บรมยุคกำเนิดโลก ก่อนพัฒนาการระบบมนุษย์หรือไม่

หรือเข้ามาศึกษามนุษย์หลังจากเกิดอารยธรรมแล้ว แต่มีผู้คนจำนวนหนึ่งอ้างว่า
กรณีมนุษย์ต่างดาวเยือนโลก มีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือ หลักฐานดังกล่าวคือ
การแสดงรูปแบบลายเส้น ที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวโลกสนับสนุน เหตุผลการมาเยือน
โลกของมนุษย์ต่างดาว เป็นตำแหน่งเห็นชัดจากอวกาศ สำหรับการลงจอดยาน

ทางโบราณคดี มีความประหลาดใจ จากข้อสันษิฐานต่อครื่องมือที่ใช้การกระทำ
ดังกล่าว การอ้างทางโบราณคดีด้วยความรู้เช่นนั้น ยังไม่สามารถที่จะเป็นข้อสรุป
เกิดจากฝีมือมนุษย์ต่างดาวเช่นกรณี ร่องรอยลายเส้นบนพื้นของ Nazca desert
ในประเทศเปรู

แม้การอ้างถึง ปีรามิดของอีจิปย์ ไม่มีอะไรมากกว่าการสบประมาทความสามารถ
ของคนโบราณที่ไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ซึ่งปีรามิดเป็นลักษณ์แห่งความสำเร็จ
ด้วยด้านเทคนิค และความชำนาญของอาณาจักรกษัตริย์โบราณ

ทั้งหมดเรารู้ว่าเป็นโครงสร้างสิ่งโบราณ รวมถึง กองหินประหลาดที่สโตนเฮนจ์ (Stonehege) ในอังกฤษ และ Mayan Pyramids ในอเมริกาโดยใช้หินขนาด
ใหญ่มีเทคนิคสร้างสรรค์เฉพาะแต่ละวัฒนธรรม

ในความคิดที่นำไปสู่การอ้างนั้น เป็นความพยายามจะใช้โบราณสถานที่สร้างด้วย ฝีมือมนุษย์ เป็นเหตุผลสนับสนุนเรื่องมนุษย์ต่างดาว เมื่อได้นำมาศึกษาอย่างพินิจ
พิเคราะห์ในเชิงวิทยาศาสตร์แล้ว พบว่าการอ้างดังกล่าวยังคลุมเครือ
   
Nazca desert ในประเทศเปร
   
Mayan Pyramids ในประเทศสหรัฐอเมริกา
   
(Stonehege ในประเทศอังกฤษ
   
กรณีใดเป็นการปรากฎของมนุษย์ต่างดาว

ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง แต่มีความขาดแคลนต่อการแสดงข้อมูล
ยืนยัน จากที่ผ่านมาจนปัจจุบัน ด้วยเพราะสองประเด็นใหญ่คือ

1.ถูกปกปิดข้อมูลโดยรัฐบาล (อเมริกา)
2.มีข้อขัดข้องต่อหลักการวิทยาศาสตร์ ที่จะให้ประชาคมมีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้อง
เพื่อเข้าใจแต่ละปรากฎการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง

จึงเป็นเงื่อนไขทำให้มีช่องว่าง และมีรายละเอียดต่างๆน้อยมาก กลอุบายที่รัฐบาล
สหรัฐอเมริกาใช้ปกปิดต่อประชาคมโลก เป็นเรื่องผิดปกติโดยเฉพาะในสหรัฐฯเอง
แน่นอนยิ่งมองเห็นความเป็นไปได้ เรื่องมนุษย์ต่างดาวมีน้ำหนัก

กลายเป็นแรงจูงใจเห็นความไม่โปร่งใส และเป็นเรื่องปกติที่สาธารณะเมื่อไม่ได้รับ
ข่าวสารจากรัฐบาล จำต้องสืบค้นความลับให้ประจักษ์ในด้านต่าง แม้แต่ประดิษฐ์
กรรมเครื่องบินที่ปกปิด ที่ออกแบบหรือปรับปรุงใหม่โดยรัฐบาล อาจถูกนำไปกล่าว
ขวัญถึงยานมนุษย์ต่างดาวในที่สุด

ครึ่งหนึ่งของประชาคมโลกเชื่อข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ว่ามนุษย์ต่างดาวมาเยือน
โลกยิ่งจะทำให้ตกใจได้ขึ้นไปอีก หากเกิดจู่ๆเป็นข่าวที่น่ากลัว จากเหตุหนึ่งเหตุใด

สำหรับเครื่องยนต์ กลไกของยานมนุษย์ต่างดาวนั้นยากจะนึกออกว่ามีลักษณะ
เช่นใดจึงมีความสามารถเดินทางข้ามระหว่างจักรวาลได้ เพราะด้วยระยะทางนับ
ร้อยนับพันปีแสง และระหว่างทางเต็มไปด้วยอุปสรรค เช่น หลุมดำ แรงโน้มถ่วง
ที่เป็นรอยต่อระหว่างระบบดาว สสารมืดที่มีทั่วไปถึง 70% กลุ่มอุกกาบาต หรือ
เรื่องเชื้อเพลิงพลังงาน การดำรงชีพตลอด ระยะการเดินทาง เป็นต้น

เพราะฉะนั้นระบบเทคโนโลยีคงไม่เหมือนบนโลกที่เข้าใจแน่ และทำไมยานมนุษย์
ต่างดาวต้องลงจอด เฉพาะในสหรัฐอเมริกาหลายครั้งเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งสร้างความ
สงสัยว่าเป็นแหล่งหลบซ่อนตัวของมนุษย์ต่างดาว จากข้อกล่าวหา

กระทั่งมีการอ้างขึ้นอย่างไม่รู้ โดยความเป็นจริงนักวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ลดล่ะต่อ
เรื่องนี้ เหตุผลซึ่งอธิบายได้คือ มีการติดตามปรากฎการณ์แปลกๆและสำคัญเสมอ
แต่เมื่อพิสูจน์แล้ว ไม่เคยเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว

เพราะแม้แต่ลูกเห็บตกจากท้องฟ้า นักวิทยาศาสตร์ก็ต้องเฝ้าติดตาม ตลอดเวลา
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จำต้องแสดงเหตุอย่างประจักษ์แจ้งในทางกายภาพ ถ้า UFO
หรือมนุษย์ต่างดาวเข้ามาสู่โลกจริง เรดาห์ระบบของสนามบินทั่วโลกสามารถ
ตรวจจับและรายงานวัตถุลึกลับนั้นได้ทันที หรือระบบดาวเทียมจำนวนมากของ
หลาย ประเทศก็ตรวจจับได้

นอกจากนั้นยังมีหน่วยงานทางวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ จำนวนนับ ร้อยหลายที่
เฝ้าคอยตรวจสอบท้องฟ้าทั้งกลางวันและกลางคืน อย่างไม่เคยหลับ แต่ก็ไม่เคย
พบและพิสูจน์ได้ว่าเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว

ยังไม่เคยมีห้องปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ในโลกที่หนึ่งที่ใด ที่ได้รับชิ้นส่วนแม้
แต่ชิ้นเดียวเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว เพื่อทำการวิเคราะห์ ซึ่งที่ผ่านมากองทัพ
อากาศสหรัฐฯ สามารถเก็บตัวอย่างชิ้นส่วน เรียกว่า Space junk (ขยะอวกาศ)
ได้แล้วมากกว่า1,000 ชิ้น จากสถานีอวกาศสากล จากดาวเทียมที่หมดสภาพการ
ใช้งานและดาวเทียมที่ใช้งานปกติ แต่ยังไม่เคยพบชิ้นส่วนใดๆที่แสดงถึงหรือเกี่ยว
ข้องกับ มนุษย์ต่างดาวเลย

อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ ยังมีความหวังและเชื่อว่าสักวันหนึ่งอาจมีมนุษย์ต่าง
มาเยือนโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ใฝ่ฝันที่จะต้อนรับเช่นกัน ซึ่งจะได้รู้ว่า
มนุษย์ต่างดาวนั้น มีความฉลาดรอบรู้ หรือหน้าตาเป็นอย่างไร แม้ว่าเป็นเรื่องยาก
จะเกิดขึ้นก็ตาม

หลายประเด็น แสดงเหตุผลอย่างเลื่อนลอย ไม่ใช่เพราะเลื่อนลอย แต่หมายความ
ว่าขาดแคลนพยานหลักฐานที่ประจักษ์แจ้ง ทำให้การอ้างขาดน้ำหนัก ความเชื่อถือ

แต่ถ้ามนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกจริง แต่ขาดพยานหลักฐานเพราะ ไม่ต้องการให้
มนุษย์รู้ และบางคนเชื่อว่ามีจริง ก็ไม่สามารถหยุดความเชื่อนั้นได้ เพียงแต่จะไม่
สามารถอ้างอิง บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ได้เท่านั้น

ข้อสรุป ความสำคัญอยู่ที่การแบ่งแยกระหว่าง ข้ออ้างและมนุษย์ต่างดาว ที่เข้ามา
เยือนโลก (หรือเคยมาในอดีต) และความเป็นไปได้ของอารยะธรรมที่มี หลังจาก
สงครามโลกครั้งที่ 2 การท่องอวกาศมีความเป็นจริงขึ้นเพราะเหตุใด

นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากทดลองจนสำเร็จเป็นจริง และการท่องของโลกอื่นก็ย่อม
เป็นไปได้เช่นกัน ด้วยเทคโนโลยีและอารยธรรม แม้วันนี้โลกเพียงมีความสามารถ
เดินทางสู่ดวงจันทร์ได้ อนาคตอาจสู่ถิ่นฐานที่ไกลขึ้น แม้ยังมีข้อโต้แย้งมากมาย
แต่เวลาที่ผ่านไปและมีอารยะธรรมเกิดขึ้นเป็นไปแบบปกติ อาจมีหนทางเดินทาง
สู่ดาวอื่น และดาวอื่นก็มีหนทาง มาสู่โลกเช่นกัน

แม้จะอธิบายยาก เพราะหลักฐานน้อย แต่ก็พอจะนำมาขยายความ ในหัวข้อเรื่อง
ต่างดาวภาคพิศดาร (Alien & Extraterrestrial Intelligence) โดยมีเจตนาแสดง
เหตุผล เพื่อความกระจ่างได้ในบางประเด็น เท่าที่สามารถอธิบายได้ เชิงทฤษฎี
และอาจมีความเป็นไปได้
   
ต้นแบบยานของ NASA ออกแบบคล้าย UFO สำหรับสำรวจดวงจันทร์

 

แล้วแต่มุมมองความคิดและความเชื่อของแต่ละคนค่ะ

 

ขอบคุณที่รับชมค่ะ^^~

Credit: sunflowercosmos
14 ก.ย. 54 เวลา 05:27 7,017 5 90
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...