สการ์เล็ต แม่แมวใจเด็ด ฝ่าเปลวเพลิงช่วยลูกน้อย

 

เครดิต จากเว็ป PANTIP นะครับ


ผมทำงานเป็นพนักงานดับเพลิงในนิวยอร์ก
บางครั้งอาชีพนี้ก็ทำให้หดหู่ใจเพราะคราใดที่บ้านถูกไฟเผาผลาญ

คุณจะหัวใจแหลกสลายไปด้วย
พนักงานดับเพลิงเจอแต่เรื่องน่าสพึงกลัว
และบางครั้งก็ต้องเจอความตาย แต่วันที่ผมเจอเจ้าแมว "สการ์เล็ต"
เป็นอีกเรื่องหนึ่งและมันเป็นเรื่องของชีวิตและความรัก
วันนั้นเป็นวันศุกร์ เรารุดออกไปดับเพลิง ตามที่ได้รับแจ้งตั้งแต่เช้าตรู่ว่ามีไฟไหม้ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง

ระหว่างที่เตรียมอุปกรณ์อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแมวร้อง แต่ผมหยุดมือไม่ได้ต้องดับไฟก่อนแล้วจึงจะหาแมวได้
ไฟไหม้ครั้งนี้ลุกลามใหญ่โตมาก เราจึงมีหน่วยงานอื่นๆมาช่วยสนับสนุนด้วยทั้งฝ่ายตะขอเกี่ยวและบันได

เรา ได้รับแจ้งว่าทุกคนในอาคารนี้ออกมาได้โดยปลอดภัยแล้ว ผมเองก็หวังเช่นนั้นเพราะที่ปั๊มมีแต่เปลวไฟเต็มไปหมดใครขืนเข้าไปกู้ภัยคง จะไม่

รอดแน่ กว่าจะดับไฟได้ก็คงกินเวลานานมาก และต้องใช้กำลังคนมากมาย ถึงตอนนี้มีเวลามองหาแล้วว่าเสียงแมวมาจากไหน ควันไฟยังพวยพุ่งออกมาจากตัวปั๊มเต็มไปหมด ผมมองอะไรไม่ค่อยเห็น ได้แต่เดินตามเสียงแมวร้องไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณบาทวิถีห่างจากหน้าปั๊มราวๆ 5 ฟุตเห็นจะได้ ก็เห็นลูกแมวตัวเล็กๆ
ท่าทางอกสั่นขวัญแขวนสามตัวกอด กันกลมส่งเสียงร้องกันระงมอยู่ พอมองไปรอบๆผมก็เจออีกสองตัวอยู่บนถนนตัวหนึ่งส่วนอีกตัวหนึ่งอยู่อีกฝั่ง ถนนหนึง
แมวพวกนี้คงจะติดอยู่ในอาคารเป็นแน่เพราะขนมันถูกไฟลนเสียจนโก๋รน

ผมตะโกนขอลังสักใบและมีนักมุงหามาให้ใบหนี่ง ผมจับลูกแมวทั้งห้าตัวใส่ในลังและอุ้มลังไปพักไว้หน้าระเบียงบ้านหลังหนึ่งแถวนั้น
ผม มองหาแม่แมว สังหรณ์ว่าแม่แมวคงจะเข้าไปในปั๊มที่กำลังไฟไหม้ และทยอยคาบลูกออกมาวางไว้บนบาทวิถีทีละตัว ลองคิดดูก็แล้วกันว่าต้องวิ่งเข้าไปในกองไฟที่ลุกโชติช่วงถึงห้าครั้งห้า คราว จากนั้นก็ต้องพยายามให้ลูกแมวไปอยู่อีกฝั่งไกลอาคารออกไปทีละตัวเช่นกัน แต่แม่แมวดูเหมือนจะยังขนลูกออกมาไม่หมด
   
  เอ๊ ..แล้วแม่แมวไปอยู่เสียทีไหน ตำรวจคนหนึ่งชี้บอกผมว่าเห็นแม่แมวเข้าไปที่ร้านตรงที่ผมเจอลูกแมวสองตัวสุด ท้าย แม่แมวอยู่ที่นั่นจริงๆ
มันนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แผลไฟไหม้ดูสาหัส ตาเป็นแผลพองจนลืมไม่ขึ้น อุ้งเท้าดำเพราะถูกไฟลน ขนถูกไฟลามเสียจนเห็นหนัง บางแห่งจะเห็นเนื้อแดงเหวอะหวะ ตัวอ่อนปวกเปียกจนเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้ ผมเดินไปหามันช้าๆค่อยๆพูดกับมันเบาๆ มันคงจะเป็นแมวป่า
ผมไม่อยากให้มันตกใจ เมื่อผมอุ้มมันขึ้นมา แม่แมวร้องอย่างเจ็บปวดกลิ่นขนและเนื้อหนังของมันส่งกลิ่นเหม็นไหม้

 

มัน ไม่กระดุกกระดิกแต่พยายามจะลืมตามองดูผม แต่ลืมไม่ขึ้น ดูมันเหนื่อยอ่อนเต็มประดา ได้แต่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนผม ผมตื้นตันน้ำตาคลอหน่วยเมื่อรู้สึกว่าแม่แมวไม่กลัวผม ไว้ใจผม ผมตั้งใจจะช่วยชีวิตแม่แมวผู้กล้าหาญและลูกทั้งห้าตัวของมัน ชีวิตของพวกมันขึ้นอยู่กับผม ผมค่อยๆวางแม่แมวลงในลังรวมกับลูกๆของมัน
แม่แมวตาบอดยังอุตส่าห์ใช้จมูกแตะลูกแมวแต่ละตัจนทั่วเพื่อให้แน่ใจว่าทุกตัวปลอดภัย
         มันคงเบาใจที่ลูกของมันอยู่ครบทุกตัวแม้ตัวมันเองจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม แมวทั้งหมดต้องได้รับการรักษาโดยด่วน ผมนึกถึงบ้านสงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่งชื่อ
สันติบาตสัตว์นอร์ทชอร์ ผมเคยนำสุนัขที่ถูกไฟไหม้อาการสาหัสไปให้ที่นั่นรักษษแผลเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน องค์การนี้ช่วยได้แน่ ผมโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่ากำลังพาแม่แมวและลูกแมวที่ถูกไฟลวกอาการ สาหัสไปให้รักษา ผมไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้ายังสวมชุดดับเพลิงที่มีกลิ่นคราบควันไฟอยู่เต็ม แล้วบึ่งรถบรรทุกของผมไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อไปถึงก็เห็นสัตว์แพทย์และเจ้าหน้าที่สองชุดเตรียมตัวรับแมวอยู่แล้วที่ ลานจอดรถ พวกเขารีบนำแมวทั้งหมดเข้าไปในห้องพยาบาล
ทีมหนึ่งรักษาแม่แมวอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่งและอีกทีมหนึ่งดูแลลูกแมวอยู่บนโต๊ะอีกตัวหนึ่ง
ผมรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นกำลังจาการกดับไฟและพยายามไม่เข้าไปเกะกะในห้องพยาบาล ผมไม่ค่อยหวังเเท่าใดว่าแมวเหล่านี้จะรอดชีวิต
แต่ ถึงอย่างไรก็ทิ้งมันไม่ลงจริงๆ หลังจากรออยู่ครู่ใหญ่ สัตว์แพทย์ก็บอกผมว่า เขาต้องเฝ้าอาการแม่แมวและลูกของมันทั้งคืน และไม่มั่นใจว่าตัวแม่จะรอดหรือเปล่า
วันรุ่งขึ้นผมกลับไปอีก รอแล้วรอเล่ากำลังจะเลิกล้มความหวัง สัตว์แพทย์ก็เดินเข้ามาบอกข่าวดีกับผมว่า ลูกแมวรอดแล้ว
"แล้วแม่แมวล่ะ" ผมกลัวคำตอบเหลือเกิน "ยังบอกไม่ได้ครับ ต้องรอดูก่อน" ผมไปที่นั่นทุกวันเพื่อฟังอาการ
แต่ละวันก็ได้ยินแต่คำตอบซ้ำๆว่า "ต้องรอดูก่อน"
ประมาณหนึ่งสัปดาห์ให้หลังผมไปที่สถานสงเคราะห์อีกครั้งด้วยความหดหู่ใจ นึกในใจว่าถ้าแม่แมวไม่ตาย
ป่านนี้ก็รู้แล้วละว่าจะมีอาการร่อแร่อย่างนี้ไปอีกนานเท่าใด

 

ทันทีที่ผมเดินเข้าไป
สัตว์แพทย์ก็ยิ้มรับและยกนิ้วให้สัญญาณผมว่า
แม่แมวไม่เพียงแต่รอดพ้นจากขีดอันตรายเท่านั้น
อีกหน่อยมันจะมองเห็นได้อีกด้วย
เอาละในเมื่อแม่แมวไม่ตายอุตส่าห์รอดมาได้ก็ต้องตั้งชื่อกันเสียหน่อย

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตั้งชื่อว่า "สการ์เล็ต"
แปลว่าแดงก่ำเพราะผิวที่แดงเถือกของมัน
ผมเสทือนใจที่ได้เห็นแม่แมวเจอหน้าลูกๆอีกครั้ง
เพราะรู้ดีว่ามันต้องกัดฟันต่อสู้ขนาดไหนกว่าจะรอดมาได้
แล้วทายซิว่าสิ่งแรกที่แม่แมวทำคืออะไร
มันนับลูกอีกครั้งโดยเอาจมูกแตะลูกทีละตัวๆ
เพื่อให้มั่นใจว่าลูกๆอยู่กันปลอดภัยโดยครบถ้วน
มันยอมเสี่ยงภัยเพื่อลูก ไม่ใช่ครั้งดียว
แต่ถึงห้าครั้งและได้ผลด้วยลูกๆของมันรอดชีวิตทั้งหมด
อาชีพอย่างผมนี่มีโอกาสได้เห็นวีรกรรมที่กล้าหาญอยู่ทุกวัน

 

แต่ที่แม่แมวพิสูจน์ให้เห็นในวันนั้นเป็นสุดยอดวีรกรรม
เป็นวีรกรรมที่มาจากความรักของแม่โดยแท้!
มีหลายๆสายตาที่ได้มองต่อกันเป็นทอดๆดังนี้
สายตา(แม้ว่าจะเกือบบอด)และจมูกของแม่แมวที่พยายามมองและสัมผัสไปยังลูกๆ

นักดับเพลิงมองไปยังแม่แมวกับลูกๆและพยายามช่วยเหลือจนสำเร็จ

สายตาและความคิดอ่านของท่าน......
ความรักมีอยู่ในโลกใบนี้เสมอ
สิ่งต่างๆยังคงกำเนิดมาจากความรักทั้งสิ้น
แม้โลกนี้ที่เป็นไปอยู่นี้จะไม่สวยงามอย่างที่คิด
แต่โลกก็อยู่ได้ด้วยคนที่มีน้ำใจเมตตา
ทำให้โลกใบนี้ยังคงเป็นโลกอยู่เสมอ

จากเพื่อนคนหนึ่ง.............. ณ นครนิวยอร์ค

Credit: http://atcloud.com/stories/99538
13 ก.ย. 54 เวลา 10:48 3,805 11 100
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...