ปริศนา "ศิวลึงค์" สู่ "ปลัดขิก"

 

 
 
   หลายคนคงเกิดคำถามข้องใจ กับสิ่งที่เรียกกันว่า “ศิวลึงค์” วันนี้เราะพาไป
 
รู้จักกับศิวลึงค์ และความเชื่อต่างๆ ที่เกี่ยวกับสิ่งนี้กัน
 

“ศิวลึงค์” หรือ วัตถุโบราณที่ถูกสร้างสรรค์ให้เป็นรูปอวัยวะเพศชายนั้น

 

เป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะ ที่ผู้คนนิยมสักการบูชากันตั้งแต่อดีต

 

โบราณตราบจนปัจจุบันนี้ด้วยความเคารพศรัทธากันอย่างกว้างขวาง

 

"ศิวลึงค์" เป็นเสมือนรูปเคารพแทนพระองค์ ที่มีปรากฏอยู่ในเทวสถาน

 

ทุกแห่ง และก็มีธรรมเนียมประเพณีที่จะจัดพิธีกรรม เพื่อบูชาศิวลึงค์นี้

 

โดยเฉพาะอีกด้วย จึงกล่าวได้ว่าสัญลักษณ์ของพระศิวะมหาเทพนี้ค่อน

 

ข้างจะแตกต่างกับมหาเทพองค์อื่นๆ ตรงที่มีสัยลักษณ์แทนพระองค์เป็น

 

รูปอวัยวะเพศชาย ที่ดูค่อนข้างจะพิสดารอยู่ใช่น้อยและชวนให้ฉงน

 

สงสัยในความเป็นมาแห่งสัญลักษณ์นี้

 

กำเนิดของศิวลึงค์นั้นปรากฏเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างจะแปลกแยกแตก

 

ต่างกันออกไป ตามแต่ละคัมภีร์ แต่ละในศาสนาต่าง ๆทางคติพราหมณ์

 

ซึ่งบางตำราก็กล่าวว่าองค์พระศิวะนั้นทรงตั้งพระทัยที่จะประทานรูป

 

ศิวลึงค์หรือรูปเคารพที่เป็นรูปอวัยวะเพศชายที่ให้กับสาวกทั้งหลาย ทั้ง

 

ปวงของพระองค์ได้สักการบูชาแทนพระองค์ ซึ่งการที่ประทานรูปเคารพ

 

เช่นนี้ ก็เนื่องมาจากในงานบูชาตรีมูรติ หรือมหาเทพทั้ง 3 ซึ่งประกอบ

 

ไปด้วยพระพรหม พระวิษณุและพระศิวะ ที่จะต้องแสดงพระวรกายให้

 

สาวกได้เห็นเป็นบุญตา ซึ่งพระพรหมก็จะปรากฏพระวรกายออกมาในรูป

 

ลักษณ์ที่มี 4พักตร์ 4 กร ส่วนพระวิษณุก็จะปรากฏพระวรกายมาในรูป

 

ลักษณ์ที่เป็นมหาเทพมี 1 พระพักตร์ 2พระกร แต่สำหรับพระศิวะนั้นทรง

 

ปรากฏพระวรกายในรูปกายที่แปลกแหวกแนวสักหน่อย คือไม่ปรากฏ

 

ออกมาเป็นรูปองค์เทพโดยตรงแต่กลับแสดงพระวรกายให้ปรากฏออก

 

มาเป็นรูปอวัยวะเพศชาย ซึ่งก็เปรียบเสมือนกับเป็นสัญลักษณ์ของ

 

ผู้ชายไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือมหาเทพนั่นเอง

 


ดังนั้นหลังจากงานพิธีกรรมบูชาเทพตรีมูรติ หรือมหาเทพทั้ง 3 พระองค์นี้แล้ว

 

บรรดาสาวกก็ได้สร้างศาลรูปเคารพเทพตรีมูรติทั้ง 3 ตามที่ตนเห็น ซึ่งก็คงจะ

 

หมายถึงว่าได้สร้างรูปเคารพเทพตรีมูรติทั้ง 3 ตามที่ตนเห็น ซึ่งก็คงจะหมาย

 

ถึงว่าได้สร้างรูปเคารพพระพรหมเป็นรูปที่มี 4 พักตร์ 4 กร และสร้างรูปเคารพ

 

พระนารายณ์เป็นรูปมหาเทพผู้งดงามมี 1 พระพักตร์ 2 พระกร และสำหรับพระ

 

ศิวะนั้นสาวกก็ได้สร้างรูปเคารพให้เป็นรูปอวัยวะเพศชายตามที่พวกตนได้

 

พบเห็นปรากฏแก่สายตา อันเป็นรูปจำลองเป็นสัญลักษณ์แทนพระศิวะนั่นเอง


ในคัมภีร์โบราณอีกเล่มหนึ่งนั้นได้บันทึกไว้ว่า ในวันหนึ่งพระศิวะกำลัง

 

ร่วมภิรมย์เสพสมกับพระแม่อุมาอัครมเหสีอย่างแสนสุขสันต์ในวิมาร

 

ของพระองค์บนเขาไกรลาส แต่การเสพสมภิรมย์รักนี้ มิได้กระทำกันใน

 

ห้องบรรทมส่วนพระองค์แต่อย่างใด การสมสู่ชู้ชื่นครั้นนี้ พระศิวะและ

 

พระแม่อุมาทรงกระทำกันกลางท้องพระโรงเลยทีเดียว ดังนั้นบังเอิญ

 

เมื่อพวกทวยเทพทั้งปวงที่กำลังจะมาเข้าเฝ้าพระศิวะ ได้พบเห็นเข้าก็จึง

 

รู้สึกว่าพระศิวะนั้นกระทำการอันไม่บังควรเป็นอย่างยิ่ง หากทรงกระทำ

 

กันในห้องบรรทมส่วนพระองค์ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องผิดแปลกแต่อย่างใด

 

แต่หน้าท้องพระโรงนั้นเป็นที่เปรียบเสมือนห้องรับแขก ที่ย่อมจะต้องมี

 

ผู้คนผ่านเข้าออกได้เสมอ และเมื่อทวยเทพผ่านพบเห็นเข้าว่าองค์พระ

 

ศิวะที่เป็นถึงมหาเทพผู้เป็นใหญ่แห่งเขาไกรลาส กำลังเสพสังวาสกับ

 

อัครมเหสีอย่างประเจิดประเจ้อกลางท้องพระโรงเช่นนั้นจึงพากัน

 

รังเกียจเดียดฉันและเสื่อมศรัทธาในองค์พระศิวะเป็นอย่างมาก

 

 

บรรดาทวยเทพจึงได้พากันเย้ยหยันและหมดสิ้นความนับถือ ยำเกรงในองค์

 

มหาเทพ ต่างก็พากันยืนดูแล้วก็วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเห็นเป็นเรื่องที่น่าสมเพช

 

ไป ด้วยเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น พระศิวะให้ทรงอัปยศอดสู่ในพระทัยเป็นยิ่งนัก และ

 

ประกอบกับความโกรธกริ้ว พระศิวะจึงทรงได้ประกาศว่าอวัยวะเพศของพระองค์นี้

 

แหละ จะเป็นเสมือนสัญลักษณ์และตัวแทนของพระองค์ ที่บรรดามนุษย์และเทพ

 

เทวะทั้งปวง จะต้องกราบไหว้บูชาถ้าต้องการความสุขและความสำเร็จอันงดงาม

 

ในชีวิต

 

และอวัยวะเพศหรือศิวลึงค์นั้น ก็จะมีดวงตามหาศาลล้อมรอบศิวลึงค์

 

ถึง 1,000 ดวงตา เพื่อจะได้สามารถมองเห็นได้เด่นชัดในทุกทิศทุกทาง โดยดวง

 

พระทัยและดวงพระวิญญาณขององค์พระศิวะจะสถิตอยู่ด้วย เพื่อคุ้มครองและ

 

อำนวยพรให้กับผู้ที่สักการบูชาศิวลึงค์นั้น เมื่อได้ทรงลั่นถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์มาในขณะที่

 

กำลังเกิดความกริ้วและความอัปยศเป็นที่สุดนั้น ถ้อยคำอันศักดิ์สิทธิ์จึงได้บังเกิด

 

สัมฤทธิ์ผลเป็นจริง

 

  

นับจากนั้นไม่ว่าจะเป็นบรรดามนุษย์ ดาบส ฤาษี หรือแม้แต่ทวยเทพบน

 

สรวงสวรรค์ชั้นต่างๆเองก็ยังนิยมสักการะบูชา ศิวลึงค์หรือรูปเคารพที่

 

เป็นอวัยวะเพศชาย อันเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของพระศิวะ

  


 

 

 

 

 

เรื่องราวการกำเนิดศิวลึงค์ในบางคัมภีร์นั้น ก็กล่าวแตกต่างออกไป โดยเล่าว่า
 
พระศิวะนั้นค่อยข้างจะมีพระอารมณ์ทางราคะค่อยข้างสูง และโปรดที่จะเสพ
 
สังวาสกับพระแม่อุมาอัครมเหสีและพระชายาองค์อื่นอีก ในทุกวี่วันเลยทีเดียว
 
จนเป็นที่รู้กันทั่วไปในเหล่าเทพเทวะทั้งปวง
 

ดังนั้นบรรดาศิษยานุศิษย์หรือผู้ที่ศรัทธาในองค์พระศิวะมหาเทพ ไม่ว่า

 

จะเป็นมนุษย์หรือทวยเทพ ที่เคารพเลื่อมใสองค์พระศิวะ จึงได้คิด

 

ประดิษฐ์วัตถุบูชาขึ้นมา โดยหวังให้เป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะ

 

การสรรค์สร้างรูปอวัยวะเพศหรือศิวลึงค์ จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา ซึ่งผู้ที่

 

เชื่อกันว่าน่าจะเป็นคนแรกที่คิดประดิษฐ์รูปเคารพศิวลึงค์นี้เป็นนักบวช

 

ฮินดู ที่ได้พบความสุข ความสำเร็จและความรุ่งเรื่องในชีวิตมาก หลัง

 

จากที่ได้สร้างรูปศิวลึงค์แล้วทำพิธีกราบไหว้บูชาเป็นประจำ


ด้วยเหตุนี้บรรดาศิษยานุศิษย์หรือชาวบ้านทั่วไป จึงได้เริ่มทำรูปเคารพ

 

เป็นรูปศิวลึงค์กันบ้างและก็ทำการสักการบูชากันเป็นที่กว้างขวางแพร่

 

หลายต่อหลายต่อไป จนเกิดเป็นลัทธิการบูชาศิวลึงค์ขึ้นจริงจังในยุค

ต่อๆ มา


                

 

โดย...เห็ดโคน ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.amulet.in.th/forums
Credit: http://www.praphansarn.com/new/c_town/detail.asp?ID=70
11 ก.ย. 54 เวลา 13:46 9,187 5 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...