ผมขออเริ่มด้วยคำถามว่าพวกเราเคยได้ยินนิทานเรื่องเดวิดกับยักษ์โกไลแอธ กันมั้ยครับ?
ผมไม่เคยได้ยิน เเต่เคยอ่านผ่านตาจากหนังสือชุด Rich Dad & Poor Dad เล่มเกษียณเร็วเกษียณรวย จากนั้นผมก็อยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับนิทานเรื่องนี้ ผมเลยSerach หาข้อมูลของนิทานดังกล่าวดู ในที่สุดก็เจอ ซึ่งผมจะเขียนนิทานโดยสรุปให้ลองอ่านกันดูนะครับ เพราะเชื่อว่าให้เเง่คิดในเรื่องการลงทุนอย่างมาก
ในนิทานนั้นมีตัวละครเด่นๆ อยู่ 2 ตัวคือ
1.โกไลเเอธ นั้น เป็นนักรบที่มีฝีมือ มีรูปร่างสูงใหญ่มากตามตำนานกล่าวกันว่ามีความสูงอยู่ระหว่าง 200-290 cm. จนได้รับการขนานนามว่า " ยักษ์โกไลเเอท"
2.เดวิด นั้นเป็นเพียงชายตัวเล็กๆ ที่มีเเค่หนังสติ๊กธรรมดาๆ ในมือเท่านั้น
ตามเนื้อเรื่อง มีเมือง 2 เมื่องได้เเก่ Sual กับ Philistines กองทัพของทั้งสองเมืองนี้ได้มาเผชิญหน้ากันที่เทือกเขาElat ทางฝั่ง ทั้ง2 ฝั่งได้ตกลงจะส่งนักรบที่เก่งที่สุดออกมาสู้กัน 1-1 ฝั่งใดเเพ้ก็จะต้องเสียเมือง Philistines ได้ส่งนักรบที่เก่งที่สุดออกมาท้าทาย ซึ่งก็คือ ยักษ์โกไลเเอทนั่นเอง ฝั่งกองทัพ Sual เมื่อเห็นโกไลเเอทออกมา ก็ไม่มีผู้ใดอยากจะมาต่อกรด้วยเนื่องจากเกรงกลัวในรูปร่างเเละความน่าเกรงขามของโกไลเเอท ในที่สุด เดวิด ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับตะโกนออกมาว่า เขาไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อยักษ์ใหญ่โกไลเเอทเลย เเละเสนอตัวเข้าไปรบ เเละเเล้วการต่อสู้เเบบ 1-1 ก็เริ่มขึ้น
เดวิด : มีเเค่หนังสติ๊ก กับ ดาบเท่านั้น
โกไลเเอท : มีโล่ห์ เกราะ เเละดาบ
เดวิดเปิดฉากจู่โจมเข้าใส่โกไลเเอธโดยการใช้ลูกหินบรรจุใส่หนังสติ๊ก.........เเล้วยิงใส่โกไลเเอธอย่างต่อเนื่อง...... จนโกไลเเอธเสียหลักล้มลง เดวิดอาศัยตัวที่เล็ก มีความคล่องเเคล่วมากกว่า ใช้ดาบฟันเข้าไปที่ร่างของโกไลแอธจนในที่สุดก็สามารถล้มยักษ์โกไลเเอธได้อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด
ที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ
1.เดวิด สามารถเอาชนะยักษ์โกไลเเอธได้เพราะรู้จักวิธีการใช้หนังสติ๊ก ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องทุ่นเเรง (Leverage) ถ้าหากเราซึ่งเป็นนักลงทุนรู้จักการใช้เครื่องผ่อนเเรงทางการเงิน เราก็จะสามารถสร้างปาฏิหารย์ หรือผลลัพธ์ ได้เฉกเช่นเดียวกันกับเดวิดนั่นเอง โดยเครื่องผ่อนเเรงทางการเงินที่ผมหมายถึงก็ได้เเก่ ฟิวเจอร์ส เเละ ออปชั่น ซึ่งเป็นเสมือนตัวคูณให้เรามีพลังการลงทุนเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างน้อย 10 เท่าตัว เเต่การที่จะใช้เค่รื่องมือดังกล่าวให้คล่องเเคล่ว เหมือนกับที่เดวิดใช้หนังสติ๊ก เราก็จะต้อง ฝึกซ้อม ฝึกซ้อม เเละก็ฝึกซ้อมอย่างหนัก
2.Leverage นั้นไม่ได้เกิดจากการใช้เครื่องมือทางการเงินเเต่เพียงอย่างเดียว เเต่มันเกิดขึ้นจากความคิดของเราด้วย ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน (Leverage of Goals) มีเเผนการที่เเน่นอน (Leverage of plan) เราก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนได้อย่างไม่ยากเย็น