อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าบัณฑิตไทยไม่มีคุณภาพว่า คุณภาพบัณฑิตไทยตกต่ำมานานพอสมควรแล้ว ภาพรวมยิ่งน่าเป็นห่วง
โดยเฉพาะบัณฑิตที่จบในสาขาที่ไม่มีองค์กรวิชาชีพกำกับดูแลอย่างสายสังคมจะไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าที่ควร และยังผลิตมาก ขณะที่ตนเคยคุยกับผู้ประกอบการต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบัณฑิตที่จบออกมาส่วนใหญ่ไม่สามารถทำงานได้ทันที ต้องมาเสียเวลาจัดอบรมและฝึกทักษะพอสมควรถึงจะทำงานได้
ส่วนที่ทำงานได้เลยมีน้อยมาก และเป็นผลผลิตจากมหาวิทยาลัยเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ดังนั้นมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะต้องหันกลับมาดูและเตรียมความพร้อมคุณภาพของบัณฑิตให้มากขึ้น
ทั้งเรื่องภาษา เทคโนโลยีที่ทันสมัย การเรียนรู้เขารู้เรากับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถแข่งขันกับประเทศในกลุ่มอาเซียน ทั้งนี้เหลือเวลาไม่กี่ปีจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้วด้วย
เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนคุยกับผู้ใช้บัณฑิตหรือสถานประกอบมาตลอดต่างก็บ่นว่าบัณฑิตไทยไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าที่ควร และก่อนทำงานต้องมาจัดฝึกอบรมให้ก่อน ทำให้ต้องเสียงบฯและเวลาพอสมควรกว่าบัณฑิตจะทำงานได้
ส่วนที่รัฐบาลมีนโยบายขึ้นเงินให้กับทุกคนที่จบปริญญาตรี 15,000 บาท นั้น ที่ผ่านมานายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ไปสำรวจว่ามีบุคลากรในสังกัดที่เงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาทกี่คน
ซึ่งสกอ.ได้แจ้งไปยังสถาบันอุดมศึกษาทั้งหมดให้สำรวจว่ามีข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย และพนักงานราชการกี่คนเงินเดือนต่ำกว่าที่กำหนด แต่ละคนมีตำแหน่งอะไรบ้าง และให้ส่งข้อมูลมาที่ สกอ. ภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะเสนอรมว.ศึกษาธิการต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่บุคลากรในมหาวิทยาลัยสอบถามเรื่องการขึ้นเงินเดือน 15,000 บาท นั้นจะเป็นการเพิ่มให้ใครบ้างจะรวมถึงพนักงานด้วยหรือไม่ว่า การขึ้นเงินเดือนนั้นจะให้กับทุกคนที่จบปริญญาตรี และมีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท และขณะนี้ตนให้หน่วยงานในสังกัดไปรวบรวมว่าแต่ละที่มีบุคคลที่เข้าข่ายนี้กี่คน เพื่อสรุปและเสนอต่อรัฐบาลพิจารณาต่อไป.