เกาะ เป็นพื้นดินที่ล้อมรอบด้วยน้ำ มีขนาดเล็กกว่าทวีป อาจอยู่ในมหาสมุทร ทะเล ทะเลสาบ หรือแม่น้ำ บน โลกของเรานั้นมีเกาะมากมายหลายล้านเกาะ และหนึ่งในนั้นมีเกาะที่แปลก พิลึก และดูยังไงก็น่าพิศวง ที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายอยากมาเยือนสักครั้งในชีวิต
5. ALCATRAZ ISLAND (USA): บ้านประภาคารในชายฝั่งที่สงบ
เกาะ อัลคาทราซ(Alcatraz Island) เกาะเล็กๆอยู่อยู่ใจกลางอ่าวในเมืองซานฟรานซิโก แคลิเฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา แปลว่าเกาะแห่งนกกระทุง ตั้งโดยนักสำรวจสเปนในปี 1775 เนื่องจากเกาะนี้เป็นที่อยู่อาศัยของรกกระทุงเต็มไปหมด แต่ไม่เหมาะต่อการเป็นที่อยู่อาศัยเพราะกระแสน้ำทะเล พื้นดินแห้งแล้งจนพืชผักมีปริมาณน้อยมาก
ตอนแรกถูกใช้เป็นประภาคาร ต่อมาในสมัยสงครามกลางเมืองที่นี้เคยเป็นที่คุมขังทหารเชลยศึกและเคยเป็นที่ คุมขังพวกอินเดียหัวรุนแรง จนกระทั้งในปี 1930 มันก็เป็นคุกที่ขังนักโทษ,เจ้าพ่อ และอาชญากรรมที่ทำความผิดทั้งหลาย และที่โด่งดังที่สุดก็คือเจ้าพ่อนาม อัล คาโปน
เกาะ อัลคาทราซต้องยุติลงเมื่อมันเสื่อมโทรมตามกลางเวลา มีประวัตินักโทษสามารถแหกคุกได้ 2 ครั้ง(แต่ก็ไม่พบว่านักโทษที่แหกคุกนั้นมีชีวิตอยู่) และเสียหายอย่างหนักจากการเผาทำลายและระเบิดจากการก่อการจลาจล
เกาะอีสเตอร์ถูก ค้นพบ ในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ.1722 ซึ่งตรงกับวันอีสเตอร์ โดยนักสำรวจชาวฮอลันดา ชื่อ จาคอป รอกกาวีน (Jacob Roggaveen) บนเกาะในขณะนั้นมีชาวเกาะอยู่ราว 2,000 คน พวกเขาไม่เคยรู้จักโลกภายนอก ไม่มีเรือหรือพาหนะใด ๆ ที่จะใช้ในการเดินทางข้ามทะเล สภาพบนเกาะแห้งแล้ง ไม่มีป่า และไม่มีสัตว์อื่น แต่สิ่งที่ทำความอัศจรรย์ใจให้แก่รอกกาวีนและลูกเรือ ก็คือก้อนหินที่สลักเป็นรูปศีรษะคน จำนวน 200 ชิ้น ที่ตั้งเรียงรายอยู่ชายฝั่ง แต่ละรูปมีขนาดมหึมา หินบางก้อนสูงถึง 33 ฟุต และมีน้ำหนักกว่า 80 ตัน และเมื่อสำรวจลึกเข้าไปบนเกาะ ก็ได้พบรูปสลักทำนองเดียวกันอีก 700 ชิ้น บางก้อนมีความสูงถึง 65 ฟุต และหนัก 270 ตัน รอกกาวีนตั้งข้อสังเกตด้วยความฉงนฉงายว่า ชาวเกาะจำนวนแค่นี้จะสามารถสะกัดและสลักหินจำนวนมากมายได้อย่างไร ทั้งบนเกาะนี้ก็ไม่มีไม้ซุงที่จะทำเป็นตะเฆ้ และเถาวัลย์หรือพืชที่จะใช้ทำเชือกเพื่อเคลื่อนย้ายก้อนหินขนาดใหญ่ได้
ความ น่าอัศจรรย์ใจของรูปสลักศิลาบนเกาะอีสเตอร์ กลายเป็นปริศนาและนำไปสู่จินตนาการของผู้คนในยุคต่อมา มีเสนอแนวคิดว่าหินบนเกาะอีสเตอร์ก็เป็นฝีมือของคันตุกะจากนอกโลก
เรื่อง ลึกลับยังไม่หมดแต่เพียงเท่า นี้นักโบราณคดีก็ทำการวิเคราะห์ว่าเมื่อ ค.ศ 400 ถึง 700 ปี มาแล้วเกาะแห้งนี้มีภูมิอากาศที่ใกล้เคียงกับป่าเมืองร้อน ปกคลุมไปด้วยดงปาล์ม และเถาไม้เลื้อย ทั้งอุดมไปด้วยสัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะฝูงนกที่มีทั้งทีเข้ามาตั้งหลักแหล่งอย่างถาวรและอาศัยเกาะเป็นที่ วางไข่ มีปลาโลมาชุกชุม จนกลายเป็นเกาะสวรรค์ ทำให้จำนวนชาวเกาะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเวลากลางวัน สถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้สนใจ สัมผัสบรรยากาศสมัยก่อน ที่หลอนๆ นิดๆ ขนาดตอนกลางวันยังดูน่าหดหู่น่ากลัว ตอนกลางคืนยิ่งน่ากลัวหลายเท่าโดยเฉพาะในช่วงมรสุมหรือพายุเข้าชาวประมงมัก เห็นแสงไฟจำนวนหนึ่งลอยละล่องวนเวียนเหนือตึกสูงทั้งๆ ที่ไม่มีไฟฟ้า และได้ยินเสียงน่ากลัวดังเหมือนกับโหยหาใครซักคนไปอยู่ด้วย!! สถานที่นี้ได้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Battle Royale" และ ผู้กำกับคินจิ ฟูกาซากุ ได้เผยต่อทุกคนว่า เกาะนี้มีอาถรรพ์จริง ๆ นั่นยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเกาะนี้โด่งดังยิ่งขึ้นและได้รับความสนใจเป็น อย่างมาก
คินจิกล่าวว่า ในระหว่างการถ่ายทำ ได้พบสิ่งผิดปกติอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น "มีคนอื่นที่ไม่ใช่ทีมงานถูกถ่ายติดเข้ามาในฉาก" หรือไม่ก็ "ฟิล์มเสียทั้ง ๆ ที่เพิ่งใช้งาน" แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กองถ่ายยังคงต้องดำเนินต่อไป เพื่ออรรถรสของภาพยนตร์อย่างมากที่สุด
<img src="http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/117705.jpg" '="" alt="" align="middle">