เปิดตำนานคนแปดศอก! โครงกระดุกที่ถูกฝังมานานกว่าพันปี

 





ตำนาน หรือนิทานพื้นบ้านของไทย ที่เล่าต่อสืบทอดกันมานั้น หลายเรื่องได้เอ่ยถึงยักษ์ ทำให้น่าฉงนว่า สมัยดึกดำบรรพ์ อาจมียักษ์อยู่บนโลกนี้จริง เพราะเมื่อศึกษา พระคัมภีร์ของคริสเตียน ก็พบว่า ได้เคยเอ่ยถึงยักษ์เช่นกัน

"ในคราวนั้น มีคนเนฟิล (พวกมนุษย์ยักษ์) อยู่บนแผ่นดิน..." (ปฐมกาล 6.4)

"แผ่นดินที่เราได้ไปสืบดูตลอดแล้วนั้น เป็นแผ่นดินที่กินคนซึ่งอยู่ในนั้น ชาวเมืองที่เราเห็นเป็นคนรูปร่างใหญ่โต ที่นั่น เราเห็นคนเนฟิลในสายตาของเรา เราเหมือนเป็นตั๊กแตน ในสายตาของเขาก็เหมือนกัน" (กันดารวิถี 13.32-33)

จากเรื่องราวในหนังสือปฐมกาลและกันดารวิถี ซึ่งเป็นหนังสืออยู่ในพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิม ได้เขียนไว้ชัดเจนว่า มีมนุษย์ยักษ์เนฟิล ลักษณะของมนุษย์ยักษ์นั้นคือ มีรูปร่างใหญ่โต แสดงว่าจะต้องมีรูปร่างใหญ่โตกว่าคนในสมัยนั้นมากนัก ทั้งๆ ที่ตามหลักฐานทางโบราณคดีหลายชิ้นระบุว่า มนุษย์โบราณทั่วไปก็มีรูปร่างใหญ่โตกว่าคนในปัจจุบันนี้

แต่นี่ มนุษย์ยักษ์เนฟิลกลับมีรูปใหญ่โตกว่ามนุษย์โบราณยุคแรกๆของโลก จึงทำให้คนส่วนใหญ่เกิดคำถามขึ้นมาว่า มนุษย์ยักษ์มีจริงหรือ? หรือว่าพระคริสต์ธรรมคัมภีร์โมเม เขียนขึ้นเอง?

ก่อนจะหาคำตอบของคำถามดังกล่าว ต้องเข้าใจก่อนว่า คำว่ามนุษย์ยักษ์ อาจจะมีความหมายได้สองนัยคือ นัยแรก อาจจะหมายถึง ที่มีรูปร่างใหญ่โตกว่าคนธรรมดา มีความเข้มแข็งแกร่งกล้ากว่า ส่วน นัยที่สอง อาจจะหมายถึงมนุษย์ที่มีร่างกายใหญ่โต แต่ผิดแผกจากมนุษย์ทั่วไป เช่น ลักษณะของยักษ์แบบไทยๆ ที่มีเขี้ยวโง้งออกมุมปาก มีลวดลายบนใบหน้า เป็นต้น ซึ่งนัยหลังนี้เป็นแบบภาพยักษ์ในจินตนาการมากกว่า



) นอกจากนั้น ยังเขียนถึงมนุษย์ยักษ์ที่ชื่อโกไลแอธ ชาวฟิลิสเตีย คนเมืองกัท สูงหกศอกคืบ สวมเสื้อเกราะหนักถึง 5,000 เชเคล ตัวหอกหนัก 600 เชเคล โกไลแอธเป็นยอดทหารที่เก่งกล้า ไม่มีนักรบคนใดกล้าต่อกรด้วย แต่ก็ต้องมาตายเพราะนํ้ามือของดาวิด เด็กเลี้ยงแกะที่มีเพียงสลิงเป็นอาวุธ





ความสูงของโกไลแอธนั้น หากเทียบมาตรากับสมัยนี้แล้วก็ประมาณ 9 ฟุต (270 ซม.)

นักโบราณคดีและนักมนุษยศาสตร์ ได้พยายามค้นหาหลักฐานสนับสนุนว่า เคยมีมนุษย์ยักษ์อยู่ในโลกนี้จริง ปรากฏว่าค้นพบหลักฐานมากมายกระจายอยู่ในหลายแห่ง โดยเฉพาะที่มลรัฐอริโซนา สหรัฐอเมริกา ขุดค้นพบโลงศพขนาดยาว บรรจุศพขนาด 12 ฟุตได้สบาย โครงกระดูกผุกร่อนเป็นผงหมดแล้ว โลงนี้พบอยู่ในเนื้อหิน

อีกราย ขุดค้นพบที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย พบโครงกระดูกมนุษย์สูงถึง 12 ฟุต พร้อมฟัน 2 แถว ใกล้ๆกับโครงกระดูก ขุดพบเปลือกหอยรูปทรงแปลกๆ ขวานหินที่ใช้เป็นอาวุธ และเศษอาหาร ประกอบด้วยอาหารทะเล และเนื้อช้างแมมมอธที่สูญพันธุ์ไปจากโลกหลายล้านปีแล้ว

ที่เกาะอีสเตอร์ ในมหาสมุทรแปซิฟิก มีแท่งหินแกะสลักเป็นใบหน้าและหัวมนุษย์ จำนวนมากตั้งเรียงรายอยู่ ขนาดตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่สุดขนาดสูง 30 ฟุต แต่ละรูปแกะสลักจากหินแข็งมีอายุเก่าแก่ไปถึงยุคหิน ซึ่งมนุษย์ยุคนั้นยังใช้หินเป็นเครื่องมือ รูปสลักบางรูปตั้งอยู่ ห่างจากแหล่งหินแข็ง หลายกิโลเมตร และมีขนาดใหญ่โตมาก ไม่ มีทางที่มนุษย์ธรรมดาจะเคลื่อนย้ายหรือสกัดได้ นอกจากมนุษย์ ยักษ์เท่านั้น มนุษย์สมัยหินไม่มีทางทำได้เลย

ที่ผนังหินแห่งหนึ่งใกล้กับแดนมหัศจรรย์ แกรนด์แคนยอน สหรัฐอเมริกา มีรูปเขียนโบราณรูปหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพมนุษย์กำลังต่อสู้กับช้าง มีขนพันธุ์โบราณที่เรียกแมมมอธ ช้างชนิดนี้ เท่าที่พบซากฝังอยู่ในนํ้าแข็ง ในสหภาพโซเวียตรัสเซีย พบว่ามีร่างใหญ่โตกว่าช้างธรรมดามาก สูงราว 9-13 ฟุต มีงาที่ยาวน่ากลัว แต่ภาพเขียนโบราณดังกล่าว เป็นมนุษย์ต่อสู้กับช้างแมมมอธ แสดงว่า ต้องเป็นมนุษย์ยักษ์ร่างกายใหญ่โตพอๆ กับแมมมอธ

ประตูหินโบลิเวีย เป็นหลักฐานอีกชิ้น หนึ่งที่แสดงให้เห็นฝีมือของมนุษย์ยักษ์ หินแต่ละก้อนหนักถึง 10 ตัน (10,000 กิโลกรัม) คนธรรมดา ไม่สามารถนำขึ้นไปเรียงซ้อนกันได้แน่ๆ ยังมีอีกหลายอย่าง ที่แสดงถึงฝีมือของมนุษย์ยักษ์ เช่น ขั้นบันไดป้อมปราการของมนุษย์ก่อนหน้าเผ่าอินคาในเปรู สิ่งที่ค้นพบเหล่านี้ล้วนใหญ่โตเกินกำลังความสามารถของมนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเรา

มีการขุดค้นพบแท่งหินสกัดเป็นรูปมนุษย์ จมอยู่ในทรายที่ทะเลทรายตอนเหนือของประเทศชิลี เป็นโครงมนุษย์ที่สูงถึง 32 ฟุต แสดงว่าต้องสกัดจากแบบที่เป็นจริงหรือใกล้เคียงกับความจริง

หลักฐานอีกหลายชิ้นบอกชัดเจนว่า เป็นร่องรอยของมนุษย์ยักษ์ เช่น รอยเท้ามหึมา ที่เหยียบลงบนโคลน แล้วกลายเป็นหินภายหลัง ก้อนหินที่สกัดจนกลมดิกขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 7 ฟุต จำนวนมากมาย อยู่บนเกาะคอสตาริกา มีผิวเรียบเกลี้ยงเกลา หินกลมดิกเหล่านี้กระจัดกระจายกันอยู่ ทั้งใกล้และไกล ไม่ใช่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ แต่เป็นฝีมือของมนุษย์

มีคำถามเกิดขึ้นอีกว่า แล้วมนุษย์ยักษ์ เหล่านั้นหายไปไหนหมด ไม่หลงเหลือให้เห็นในปัจจุบันนี้?

ผู้วชาญสันนิษฐานกันว่า มนุษย์ยักษ์อาจจะปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมไม่ได้ จึงล้มหายตายจากไปทีละน้อยๆ จนสูญพันธุ์ไปจากโลกในที่สุด แบบเดียวกับไดโนเสาร์นั่นเองค่ะ.














คนหรือยักษ์เนี่ย 

ที่เอามาเขาว่าเป็นการขุดพบมนุษย์ยุคหิน น่ะ

ตัดต่อหรือไม่ ไม่ทราบ

.......................................

อันนี้เอามาอีกที
http://dek-d.com/board/view.php?id=1489180

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...