Edward Gein ฆาตกรสะท้านโลก

คุณ เคยดูหนังเรื่อง ซิมซิตี้ หรือหนังเรื่อง อเมริกันไซโค หรือไม่ก็การ์ตูนที่มีฉากศพถูกพาดกับราวแขวนเหมือนซากหมูไก่ และฉากบ้านเล็กบนฟาร์มที่น่าหดหู่ได้หรือเปล่า

(ไซโค เป็นภาพยนตร์ขาวดำที่สร้างขึ้นปี 1960  จัดได้ว่าเป็นหนังสยองขวัญที่ตื่นเต้นที่สุดและประสบผลสำเร็จที่สุดเท่าที่สร้างกันมาจนถึงปัจจุบัน)

ข้อ เท็จจริงที่หลายคนไม่รู้ก็คือ มันมีเค้าโครงมาจากเรื่องดั่งเดิมมาจากเหตุการณ์จริงในชุมชนเล็ก ๆ ที่ชื่อ เพลนฟิลด์ รัฐวิสคอนซิล อเมริกา

จาก เด็กคนหนึ่งที่ได้รับคำสอนของแม่มาแบบผิด ๆ หลังแม่เขาตาย เขาเริ่มมีจิตวิปลาส เขาก่อคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญขึ้น มันทั้งโหดเหี้ยม สุดอำมหิต และหลังเขาตายลง เขากลายเป็นสัญลักษณ์ เขากลายเป็นฆาตรกรที่มีแฟนคลับมากที่สุดในโลก และเขาคือฆาตกรที่นำเอาไปสร้างหนังมากที่สุดในโลก

เขาคือ เอ็ดเวิร์ด  กีน


               จากเด็กติดแม่สู่ฆาตกรวิปลาส

เพลนฟิลด์ รัฐวิสคอนซิล อเมริกา หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่แทบไม่มีอะไรเป็นจุดเด่น

เอ็ดเวิร์ด  กีน เกิดในปี ค.ศ.1906 ในครอบครัวเกษตรกร เขาเป็นคนที่มีหน้าตาธรรมดาแบบชายอเมริกันบ้านนอกทั่วไป แต่เด่นที่สุดคือดวงตาของเขาที่สุกใสแลดูลึกลับต่อผู้พบเห็น ครอบครัวของเอ็ดประกอบไปด้วยพ่อของเขาเป็นปีศาจสุราที่จะแสดงความโหดร้ายทุก ครั้งที่ขาดสติและเป็นภาระแก่ครอบครัว ส่วนแม่เป็นแม่บ้านที่งมงายในศาสนาหน้าไม่รับแขกและเป็นใหญ่ในบ้านพร้อม เสียงด่าดังลั่นตลอดเวลาถ้ามีสิ่งใดผิดปกติไปจากเดิมในบ้าน และมีพี่ชายคนหนึ่งชื่อเฮนรี่(ในหนังสือบางเล่มเป็นน้องชาย ซึ่งผมใช้ข้อมูลของสรจักรและเน็ตเป็นบรรทัดฐาน)  แต่ ด้วยความเป็นคนขี้อายและเป็นคนเก็บตัว เขาจึงเติบโตอย่างโดดเดี่ยว โดยมีแม่เป็นทั้งเพื่อนและครูอันเนื่องจากเขาออกโรงเรียนกลางคัน แล้วมาเลี้ยงดูอย่างผู้หญิงเพราะเธอหวังว่าลูกคนที่สองเป็นผู้หญิง  และมักพาเขาไปดูการชำแหละซากสัตว์อยู่บ่อย ๆ  คำสอนที่เธอมักสอนเอ็ดอยู่บ่อย ๆ เธอมักสอนว่า

"ผู้หญิงทุกคน(ยกเว้นแม่) ล้วนบาปหนา และแกไม่สามารถมีเพื่อนได้ยกเว้นแม่"

เขาเชื่อคำสอนนี้ และเขามองแม่เหมือนพระเจ้า  แม้จนสิ้นอายุขัย          

จน กระทั้งพ่อเขาตายเมื่ออายุยี่สิบกว่า ๆ กิจการทั้งหมดทั้งสามจึงเป็นผู้รับผิดชอบ ถึงแม้เอ็ดและพี่ชายจะถึงวัยหนุ่มแต่เขาก็ยังเป็นโสดผิดจากวัยรุ่นทั่วไป เนื่องจากไม่มีหญิงสาวคนไหนทนคำพูดของแม่ได้

เธอบอกว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นบาปอย่างยิ่ง

                เมื่อเอ็ดอายุ 40 ฟาร์ม เขาเขาอยู่ช่วงวิกฤต ผลผลิตภายในฟาร์มไม่ดีทำให้ขาดทุนมากมาย ทำให้พี่ชายของเอ็ดต้องทำงานอื่นเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และช่วงนี้พี่ชายเขามักปากกล้าโต้เถียงแม่เป็นประจำ แต่เอ็ดก็ยังเข้าข้างแม่  แม้เรื่องที่เถียงกันแม่เป็นฝ่ายผิดก็ตาม

                เพราะสำหรับเขาแม่คือพระเจ้า และมันผู้ใดที่ดูถูก  ต้องได้รับบทลงโทษ

                ในปี 1944 เฮนรี่พี่ชายของเอ็ดก็เสียชีวิตจากการถูกไฟคลอกในขณะที่เกิดเพลิงไหม้ในแปลง ข้าวโพด มีหลายคนเห็นพี่ชายของเอ็ดอยู่กับเอ็ดในแปลงข้าวโพดก่อนเกิดเหตุไม่นานนัก

                ปีถัดมา แม่ของเขาล้มป่วยเป็นอัมพาธและเสียชีวิตไปอีกคนหลังจากอุบัติเหตุ

                ปัญหาต่าง ๆ ทั้งงานฟาร์มและปัญหาครอบครัวล้วนมีส่วนให้เขาเปลี่ยนแปลงไปจนกระทั้งเอ็ดกีน วัย 51 ปี เขาเป็นชายผู้ซึ่งสุภาพอ่อนโยนและสันโดษ แต่สำหรับพวกชาวบ้านเขาดูเป็นคนน่ารังเกียจ เป็นตนผิดปกติออกกระตุ้งกระติ้งแบบผู้หญิง จึงไม่ค่อยมีใครสุงสิงหรือพยายามสนิทเท่าใดนัก

                เมื่อ ปราศจากแม่เขาก็เป็นอิสระแต่ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องการให้แม่กลับคืนมา เขาเริ่มสนใจร่างกายของเพศหญิงที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เป็นการสนที่แปลกประหลาด สับสน แยกไม่ออกว่ามันเป็นการทางเพศหรือความต้องการจะมีเรือนร่างของสตรีเพศ เขาหาหนังสือที่เกี่ยวกับเรืองร่างของสตรีเพศมาอ่าน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์ สารานุกรม หรือแม้กระทั้งการทดลองของนาซีในสงครามโลกครั้งที่สอง ข้อมูลเหล่านี้กระตุ้นความปรารถนาในจิตใจให้เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนั้นเขาปิดตายห้องต่าง ๆ ในบ้านตัวเอง ยกเว้น ห้องครัวและห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างเท่านั้น

              
                เหยื่อ

                ไม่รู้ว่าเอ็ดได้ฆ่าเหยื่อไปทั้งหมดกี่คนกันแน่

                แต่จากสืบสวนของตำรวจ  เขาว่าเอ็ดฆ่าเหยื่อ 2 ราย เหยื่อรายแรกที่เขาลงมือคือนาง มารี โฮแกน วัย 55 ปี ปี 1954 แม่หม้ายเจ้าของร้านอาหารและบาร์เล็ก ๆ ชื่อโฮแกน ทราเวิร์น ที่หมู่บ้านไพน์ โกรฟ ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธออยู่กับเอ็ดตามลำพัง จนกระทั้งมีลูกค้าคนหนึ่งเข้าไปที่นั้นก็ไม่พบคนขาย แต่เห็นเลือดกองใหญ่บนพื้นที่ประตูด้านหลังร้าน กับกระสุนปืนพกขนด 32 ปลอกหนึ่ง และรอยเลือดปรากฏเป็นระยะ ๆ ไปจนถึงที่จอดรถและก็หายไป เข้าใจว่านาง มารีคงนำไปขึ้นรถจากที่ตรงนั้น ตำรวจไม่สามารถหาตัวเธอได้แม้จะผ่านหลายปีแล้ว จนกระทั้ง นายเอลโม เจ้าของโรงเลื้อยให้การกับตำรวจภายหลังว่า เขาเคยคุยกับเอ็ดเรื่องการหายตัวของมารี เอ็ดตอบเขาว่าเธออยู่ที่ฟาร์มของเขานั้นแหละ ไม่ได้หายไปไหนหรอก ตอนนั้นเอลโมคิดว่าเอ็ดพูดเล่น จึงไม่ใส่ใจและถามอะไรเพิ่มเติม

                และสามปีให้หลังการหายตัวของมารี เอ็ดก็หาเหยื่อรายใหม่

                เหยื่อรายต่อมาคือ เบอร์นิซ วอร์เดน หญิงหม้ายวัย 60 ปี เจ้าของร้านขายอุปกรณ์ในเมืองเพลนฟิลด์ วันนั้นเป็นวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 1957  แน่นอนเอ็ดเข้ามาร้านในตอนที่ไม่มีคนอยู่เช่นเคย เขาใช้ปืนขนาด .22 ที่นำมาเองใส่เข้าไปในปืนไรเฟิลและยิงเธอโดยไม่ทันรู้ตัว แล้วนำร่างของเธอขึ้นรถบรรทุกสำหรับส่งของแล้วขับกลับบ้านเขา

                ใน เวลาต่อมาแฟรงค์ลูกชายของเบอร์นิซกลับจากการล่าสัตว์ เขาก็พบว่าประตูร้านของแม่เขาล็อกเอาไว้ แต่มีไฟเปิดอยู่ด้านใน ซึ่งมันผิดปกติ เพราะเป็นเวลาท่ร้านควรปิดได้แล้ว เมื่อเปิดประตูเข้าไปข้างในก็พบเครื่องคิดเงินหายไป กับมีหยดเลือดกระจายอยู่บนพื้น แรงค์รีบแจ้งตำรวจทันที จากการสอบปากคำของคนในที่พื้นใกล้เคียง มีผู้พบเห็นรถส่งของของร้านแล่นผ่านไป เมื่อเวลาประมาณ 9.30

                จน กระทั้งแฟรงค์และตำรวจพบหลักฐานชิ้นสำคัญ คือใบเสร็จรับเงินว่า เขาได้ขายของให้ใครบ้าง สิ่งที่พบคือชายที่เป็นลูกค้าประจำที่ถามแฟรงค์ว่าพรุ่งนี้เช้าเขาอยู่หรือ เปล่า

                ชายคนนี้คือ เอ็ดเวิร์ด  กีน

              

บ้านสยอง


               แฟรงค์และตำรวจรีบรุดที่ฟาร์มของเอ็ดทันที เนื่องจากกลัวว่าเจ้าตัวจะรู้ทันและหลบหนีทันทีที่ก้าวออกจากรถ ทุกคนในที่นั้นต่างได้กลิ่นเน่าโชยจากตัวบ้านที่ซ่อมซอของเขา ที่เด็ก ๆ แถวนั้นเรียกมันว่า บ้านผีสิง แต่เจ้าของไม่อยู่บ้าน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจค้นในบ้านได้ พวกเขาจึงขับรถค้นหาแถวเวสต์เพลนฟิลด์ที่เอ็ดชอบซื้อของใช้ พอไปถึงก็พบเอ็ดพอดี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวและสอบถามและตกเป็นผู้ต้องสงสัยทันทีเพราะเขาเอ่ย ว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่านางวอร์เดน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครถาม

เย็น วันนั้นตำรวจชุดเดิมพร้อมอาวุธครบมือกลับไปที่บ้านของเอ็ดอีกครั้งเพื่อหา หลักฐานเพิ่มเติม เขาเปิดปะตูที่ด้านข้างเพระปะตูหน้าล็อค เวลาที่ค้นนั้นเป็นเวลาหัวค่ำ ตัวบ้านนั้นมืดเพราะไม่มีไฟฟ้าใช้รวมถึงน้ำซึ่งมันเป็นมานานตั้งแต่แม่ของ เขามีชีวิตอยู่ เจ้าหน้าที่จึงใช้ไฟฉายสาดและตามเข้ามา กลับสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า ทุกคนที่เห็นหัวใจแทบหยุดเต้นด้วยความสยดสยอง

มัน คล้ายซากกวางมากกว่าเป็นศพ ร่างเปลือยเปล่าและซีดขาวโพลนร่างหนึ่งถูกแขวนอยู่กับคานของโครงหลังคาแบบ เอากลับหัวลง ขาทั้งสองข้างแยกออกกว้าง เห็นชัดว่าร่างนั้นถูกอะไรบางอย่างแยกผ่าด้านหน้าตั้งแต่หว่างขายาวไปถึงลำ คอ เมือดูจากร่างกายแล้วก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงเพียงแต่ไม่รู้ว่าใคร

เพราะร่างนั้นปราศจากหัว..........


               ว่ากันว่าเอ็ดจะใช้ร่างนั้นสวมให้เขาเหมือนผู้หญิง คล้ายกับตุ๊กตาในสวนสนุก

                ท่าม กลางกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบ้าน พวกเขาสำรวจต่อ ก็พบว่าทั้งบ้านแทบจะเหมือนกองขยะที่ไม่เคยเก็บกวาดเลย และสิ่งที่นอกเหนือจากศพที่พบ เจ้าหน้าที่แทบซ็อก เพราะ บ้านหลังนี้คล้ายพิพิธภัณฑ์เก็บซากศพและอวัยวะศพ ไม่ว่าจะเป็นกระดูกจากหลาย ๆ ส่วนของมนุษย์ มีจมูกที่ตัดออกจากใบหน้าคนจำนวนสี่จมูก  กระป๋องใส่ อาหารที่ขึงด้วยหนังมนุษย์ที่ทำเป็นกลอง ถ้วยที่ทำจากกะโหลกของมนุษย์โดยตัดส่วนบนของกะโหลกออก หน้ากากที่เฉือนออกมาจากใบหน้าของผู้หญิงจำนวนเก้าชิ้น หัวของผู้หญิงที่ถูกเลื่อยส่วนบนตั้งแต่โหนกคิ้วออกไปจำนวนสิบหัว เก้าอี้ถูกเปลี่ยนจากเบาะธรรมดาเป็นเบาะหนังมนุษย์ ในตู้เย็นเต็มไปด้วยอวัยวะมนุษย์ มีกำไลมือ กระเป๋าหิ้ว ปลอกมีด สนับแข้ง โคมไฟ เสื้อ ที่ทำจากหนังมนุษย์ เข็มขัดที่ประดับด้วยปลายถันของสตรีสี่ชิ้น นอกจากนี้ยังมีอวัยวะหลายส่วนที่ใช้ประดับบ้าน เช่น หัวคน ริมผีปาก อวัยวะเพศของผู้หญิง หัวกะโหลกสองหัวที่ติดไว้ข้างเตียงที่เคยเป็นของแม่ของเอ็ดเอง กับหนังร่างกายของผู้หญิงแบบเต็มตัวตั้งแต่ใบหน้าลงไป

                ว่า กันว่า เมื่อถึงพระจันทร์เต็มดวง เอ็ดจะออกมาเต้นรำโดยใส่หน้ากากเป็นผู้หญิง ใส่วิกและเสื้อกั๊กเต็มยศ ส่วนอวัยวะเพศถูกใส่ไว้ในกางเกงใน

                แล้วในที่สุด พวกเจ้าหน้าที่ก็พบศีรษะของนางวอร์เดนและไส้ของเธออยู่กระทะบนเตา

                
               แต่เอ็ดปฏิเสธว่าเขาไม่กินเนื้อคน

                แต่ จากการสอบถามเพื่อนบ้าน หลายคนบอกว่าเคยได้รับเนื้อเป็นของขวัญ เขาบอกว่าเป็นเนื้อกวางที่ล่ามาได้ทั้ง ๆ ที่เอ็ดเองบอกว่าไม่เคยเข้าป่าล่าสัตว์เลย และถึงตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่ามันคือเนื้ออะไร

                จาก การชันสูตรศพและอวัยวะทั้งหมดภายในบ้าน พบว่าจำนวนศพที่อยู่ในบ้านมีทั้งหมดถึงสิบห้าศพด้วยกัน และชิ้นส่วนของมนุษย์ที่ไม่เข้ากับร่างใดอีกมากมาย


                ต้นตำรับตำนานสยอง

              
               แม้ จะพบศพเป็นจำนวนมากมายบ้านเขา แต่ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าคนตายแค่สองศพ นั้นคือ นางมารี โฮแกน และ เบอร์นิซ วอร์เดน ซึ่งทั้งสองมีหน้าตาคล้ายแม่เขา และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสงสัยว่าเขาอาจเป็นคนสังหารพี่ชายของตัวเอง คนงานสองคนที่ทำงานฟาร์ม และเด็กหญิงรุ่นราวคราวเดียวสองคน แต่ก็ไม่พบหลักฐานมัดตัวเขาได้ เอ็ด กีนจึงถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลบ้าชื่อเซนทรัล สเตท หลังจากแพทย์วินิจฉัยพบว่าเขาเป็นคนผิดปกติทางจิตอย่างรุนแรง และต่อมาถูกย้ายไปรักษาตัวที่สถาบันวิจัยและดูแลคนป่วยทางจิตเมนโดด้าทั้ง ที่เขาก่อคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยมและน่ากลัวอย่างที่ไม่มีใครทำมาก่อน แต่คำให้การของคนที่ดูแลเขากลับบอกว่า เอ็ดเป็นคนเรียบร้อย สุภาพ ไม่ก้าวร้าวกับคนอื่น แต่เขามักพูดถึงความสุขที่เขาได้ฆ่าเหยื่อบ่อย ๆ

                เวลาผ่านไป 10 ปี ศาลได้ตัดสินคดีของเขา ซึ่งผลคือ เอ็ด ผิดจริง แต่ทำไปเพราะอาการป่วยทางจิตอย่างรุนแรงเพราะบ้า ดังนั้นเขาจึงถูกควบคุมตัวอยู่ที่เมนโดด้าจนวาระสุดท้ายของเขาในปี ค.ศ.1984 ด้วยโรคหัวใจ ด้วยวัย 77 ปี

                และหลังจากนั้นบ้านสยองของเอ็ดถูกไฟไหม้หลังจากที่เขาติดคุก

จน กระทั้งนิตยสารไลฟ์และไทมส์ลงข่าวเกี่ยวกับตัวเขาและบ้านสยองขวัญ เรื่องของเอ็ด กีน โด่งดังไปทั่วจนกลายเป็นตำนานของวิสคอนซิน จนนักเขียนโรเบิร์ต บลอซ นำเรื่องราวของเขาไปเขียนเป็นนวนิยาย ในปี ค.ศ. 1960 และ นิยายดังกล่าวได้ถูกนำไปสร้างภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง ไซโค ที่กล่าวถึงและได้รับรางวัลมากมายเพราะเนื้อเรื่องแปลกใหม่ ที่สำคัญคือนางเอกตายต้นเรื่อง และโด่งดังจนเป็นต้นแบบภาพยนตร์แนวนี้ต่อมาอีกนับไม่ถ้วน

                และเอ็ดเวิร์ด  กีน ก็กลายเป็นฆาตกร ที่มีแฟนคลับมากที่สุดในโลก และมีร้านที่ขายสินค้าแนวนี้อีกนับไม่ถ้วนในอเมริกา ดินแดนที่มีการก่ออาชญากรรมมากที่สุดในโลก

                แต่ เอ็ดไม่รับรู้อะไรแล้ว ร่างของเขายังสงบนิ่งในสุสาน เหลือไว้แต่ตำนานโหดและวิธีการเลี้ยงลูกที่ผิด ๆ ของ แม่ที่เคร่งศาสนาและต้องการให้เขาเป็นผู้หญิง

                ตลอดชั่วกาลนาน...........................................
 

#ฆาตกร
yuyupanther
Production Manager
สมาชิก VIPสมาชิก VIPสมาชิก VIP
13 ธ.ค. 52 เวลา 13:44 2,339 8 1,086
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...