สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ว่า น.ส.แคทย่า โคเร็น สาวมุสลิมชาวยูเครน วัย 19 ปี ได้ถูกกลุ่มคนร้ายรุมปาหินทำร้ายจนเสียชีวิต โดยศพของเธอถูกพบที่หมู่บ้านในเมืองไครเมีย ใกล้บ้านของเธอ โดยเพื่อนของเธอบอกว่า เหตุน่าสลดเกิดขึ้นกับเธอ เนื่องจากเธอเป็นคนชอบใส่เสื้อผ้าตามสไตล์แฟชั่น และเข้าร่วมการประกวดนางงาม จนได้อันดับที่ 7
รายงานระบุว่า ร่างในสภาพยับเยินของน.ส.แคทย่าถูกพบในป่า หลังจากเธอหายตัวไปหนึ่งสัปดาห์ โดยตำรวจท้องถิ่นยูเครน ได้เปิดคดีสอบสวนการเสียชีวิตของเธอแล้ว และกำลังมุ่งประเด็นว่าวัยรุ่นชายมุสลิม 3 รายเป็นผู้ลงมือสังหารเธอ เนื่องจากพวกเขาอ้างว่า เธอสมควรถูกลงโทษจนเสียชีวิต เนื่องจากละเมิดกฎปฎิบัติ "ชาริอะห์" ของศาสนาอิสลาม และหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งถูกจับกุมบอกตำรวจว่า น.ส.แคทย่า ได้ละเมิดหลักปฎิบัติดังกล่าว และเขาไม่รู้สึกเสียใจใด ๆ กับการตายของเธอ
ทั้งนี้ การปาหินประหารถือเป็นประเด็นที่สร้างความแตกแยกในหมู่ชาวมุสลิม ส่วนหนึ่งเห็นว่าเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายอิสลาม แต่อีกส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย ขณะที่รายงานประจำปีขององค์กรนิรโทษกรรมสากลเกี่ยวกับการประหารด้วยการปาหินทั่วโลกระบุว่า ไม่มีรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2010 จากการประหารด้วยวิธีการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มีหลายประเทศที่ได้ใช้การปาหินเป็นการลงโทษขั้นประหารชีวิต เช่น อิหร่าน รัฐเบาชีของไนจีเรีย และปากีสถาน
นอกจากนี้ เชื่อว่ามีผู้หญิง 10 ราย และผู้ชาย 4 ราย ถูกตัดสินลงโทษด้วยการประหารชีวิตก่อนสิ้นปีนี้ในอิหร่าน ซึ่งบังคับใช้การลงโทษนี้กับกรณีการมีชู้หรือนอกใจคู่สมรส