นอกจากจะทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
แล้ว อาหารที่มีปริมาณโซเดียมเยอะหรือมีรสเค็มจัดนั้น ยังสามารถทำให้กระบวนการ
รับรู้และโต้ตอบของผู้สูงอายุลดลงด้วย
นักวิจัยจาก University of Toronto ได้ทำการติดตามพฤติกรรมการบริโภคเกลือและอาหารที่มี
รสเค็มของประชากรวัยผู้ใหญ่อายุระหว่าง 67-84 ปีจำนวน 1,262 คนที่อาศัยอยู่ในรัฐควิเบก
ประเทศแคนาดา พบว่าผู้ที่บริโภคอาหารที่มีเกลือหรือโซเดียมสูงนั้น มีประสิทธิภาพทางเชาว์
ปัญญาในระดับต่ำต่อการดำเนินชีวิตประจำวันเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีการบริโภคโซเดียมใน
ระดับต่ำถึงปกติ ซึ่งในผู้สูงอายุที่บริโภคโซเดียมมากๆนั้น ระบบการรับรู้ ความคิด รวมไปถึงการ
ตอบสนองจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ปริมาณเกลือหรือโซเดียมที่แนะนำในแต่ละวันสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไปคือ 2,300
มิลลิกรัม แต่จากผลการศึกษาพบว่าประชากรในช่วงอายุดังกล่าวในแคนาดาบริโภคโซเดียมเกิน
กว่าปริมาณที่กำหนดไว้ถึง 4 เท่า ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วง
ผลการศึกษาในครั้งนี้นับว่าเกี่ยวข้องและมีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตและอายุขัยของ
ประชากรในยุคเบบี้ บูมเมอร์ ที่กล่าวได้ว่าเป็นยุคของอาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งอาหารฟาสต์ฟู้ดนี้มักจะ
มีปริมาณ ไขมันอิ่มตัวและโซเดียมสูงแต่มีเส้นใยอาหารต่ำ แถมยังมีผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว
ด้วยทั้งนี้ทางทีมนักวิจัยยังกล่าวอีกว่า ควรให้ความรู้เพิ่มเติมแก่ประชาชนเกี่ยวกับการเปลี่ยน
แปลงพฤติกรรมการกินอาหารที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดความเสื่อมตัวลงอย่างรวดเร็วทั้ง
กระบวนการรับรู้ การคิดและการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยให้ความรู้ความเข้าใจในโทษของการ
บริโภคโซเดียมในปริมาณที่เกินขนาดว่ามีผลกระทบต่อสภาพร่างกายตนเองอย่างไร
Source: AFP Relax News
by aididi