มูลค่านับแสนโดนเอาไปขายต่อ ตำรวจตรวจสอบพบคดีติดตัวเพียบ
31 ส.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า นายเกรียงไกร เรืองเกศา อายุ 39 ปี ช่างภาพอิสระ ร่วมกับ ส.ต.อ.กนิษฐ์ กระจ่างโพธิ์ ผบ.หมู่ (สป.) สภ.ราชสาสน์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าแจ้งความ ที่ สน.ทองหล่อ หลังถูก นายปฏิมากรณ์ วินิชวานิชกุล หรือ บิว อายุ 33 ปี ดารานักแสดง เช่ากล้องวีดีโอ พานาโซนิค รุ่น AG 102 BEN พร้อมขาตั้งกล้อง และ Wireless Mic 1 ตัว แต่ไม่ได้นำอุปกรณ์ดังกล่าวมาคืน พร้อมหลบหนีไป
ทั้งนี้ นายเกรียงไกร ช่างภาพอิสระ ถ่ายวีดีโอ และให้เช่ากล้อง อาทิ กล้องวีดีโอ พร้อมขาตั้ง เล่าว่า นายปฏิมากรณ์ ได้เดินทางมาหาตนที่บ้าน เพื่อขอเช่ากล้องวีดีโอและขาตั้ง เพื่อนำไปถ่ายทำโฆษณา และถ่ายภาพยนตร์ ด้วยความที่เห็นว่าทำงานในวงการเดียวกันคงน่าเชื่อถือ ประกอบกับรู้จักเพื่อนของตน จึงไม่คิดเอะใจให้ยืมไปโดยที่มีการทำสัญญา รวมถึงถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของ นายปฏิมากรณ์ เอาไว้ เมื่อวันที่ 27 ส.ค 54 ที่ผ่านมา
สำหรับกล้องที่ถูกเช่าไปเป็น กล้องวีดีโอ พานาโซนิค รุ่น AG 102 BEN พร้อมขาตั้งกล้อง และ Wireless Mic 1 ตัว ทำสัญญาคิดค่าเช่าวันละ 1,400 บาท ต่อวันตกลงเช่าแค่ 1 วัน แต่แล้วเมื่อถึงเวลาส่งกล้องคืน กลับเช่าเกินระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ จึงโทรศัพท์ไปสอบถาม นายปฏิมากรณ์ บอกว่าอยู่ที่อัมพวา ยังเดินทางกลับมาไม่ได้ ต่อมา ตนโทรศัพท์ไปถามอีกเป็นระยะก็ได้รับคำตอบเช่นเดิม จากนั้นก็ปิดโทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
ขณะเดียวกันได้พยายามหาข้อมูลของนายปฏิมากรณ์ จนสามารถสืบทราบว่าได้นำกล้องของตนไปขายให้กับ ส.ต.อ.กนิษฐ์ กระจ่างโพธิ์ ผบ.หมู่ (สป.) สภ.ราชสาสน์ จ.ฉะเชิงเทรา โดย ส.ต.อ.กนิษฐ์ กล่าวว่า ได้รับซื้อกล้องวีดีโอ พานาโซนิค รุ่น AG 102 BEN ทั้ง 2 ตัว พร้อมขาตั้งกล้อง เป็นจำนวนเงิน 110,000 บาท เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา นัดใรับกล้องที่โรงหนังเมเจอร์ รัชโยธิน แต่เมื่อถึงเวลากลับให้กล้องมาก่อนแค่ 1 ตัว อีกตัวอ้างว่า จะนำมาให้ในวันที่ 28 ส.ค. ซึ่งอ้างว่ากล้องติดถ่ายงานละครอยู่ จะนำไปให้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา แต่ขอให้จ่ายเงินจำนวน 110,000 บาท มาก่อน โดยได้มีการทำสัญญาซื้อขายเอาไว้
ด้าน นายปฏิมากรณ์ กล่าวว่า นายปฏิมากรณ์ มีท่าทีรีบร้อน ลุกลี้ลุกลน ตนเลยหาข้อมูลจากทางอินเตอร์เน็ต กระทั่งทราบว่า นายปฏิมากรณ์ มีข้อหาฉ้อโกง ที่สน.คลองตัน จนวันที่ 29 ส.ค. ได้รับโทรศัพท์จากนายเกรียงไกร เรืองเกศา ว่ากล้องวีดีโอที่ซื้อมาเป็นกล้องที่ นายปฏิมากรณ์ เช่ามาจากคนอื่น แล้วมาหลอกขายอีกที จึงได้เดินทางมาพร้อมนายเกรียงไกร เข้าแจ้งความที่สน.ทองหล่อ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
แต่ขณะที่นายเกรียงไกร เข้าแจ้งความที่สน.ทองหล่อ ได้มีเจ้าทุกข์ เข้ามาแสดงตัวอีกราย คือ นายวรพจน์ เหมือนบุญ อายุ 29 ปี อาชีพช่างภาพ และให้เช่าอุปกรณ์กล้อง ย่าน จ.นนทบุรี ได้มาขอเช่ากล้องถ่ายภาพจำนวน 2 ตัว คือ Canon 5D พร้อมขาตั้งกล้อง และกล้องถ่ายภาพ 7 D พร้อมขาตั้งกล้อง โดยตกลงให้เช่าเป็นเวลา 3 วัน ตัวละ 3,000 บาท เป็นจำนวนเงิน 18,000 บาท พร้อมทำสัญญาเช่าซื้อกับนายปฏิมากรณ์ แต่ขณะนั้น ปรากฏชื่อสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนว่า นายเอกชัย เนื่องจำนงศ์ ซึ่งไม่ตรงกับชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จึงคาดว่านายปฏิมากรณ์ หรือ นายเอกชัย มีการปลอมแปลงเอกสารราชการ โดยตนได้เข้าแจ้งความไว้กับสน.โชคชัย ไว้เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 54 ในคดีฉ้อโกง และคดีปลอมแปลงเอกสารราชการ
อย่างไรก็ตาม ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยังนายปฏิมากรณ์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้รับแจ้งความไว้เป็นคดีอาญาฐานฉ้อโกง นอกจากนี้ยัง มีการลงบันทึกประจำวันไว้หลายสน. ทั้ง สน.โชคชัย สน.คลองตัน และสน.ทองหล่อ ในคดีฉ้อโกง ซึ่งผลงานในวงการบันเทิงจนเป็นที่รู้จัก อาทิ นักแสดงหนุ่มในบทบาทชีเปลือยจากภาพยนตร์เรื่องสุดสาคร ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องสุดสาคร ผีช่องแอร์ และผลงานโฆษณาอีกมากมาย