กัดดาฟีเคียงข้างกับทหารหญิงหน่วย “อะเมโซเนียน การ์ด” (แฟ้มภาพ)
ซิดนีย์ มอร์นิงเฮรัลด์ - ทหารหญิง 5 นายในชุดอารักขา พันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี กล่าวอ้างว่า เคยถูกอดีตผู้นำลิเบียรายนี้ข่มขืน ก่อนส่งให้บุตรชายและผู้ใกล้ชิดข่มขืนต่อเหมือนเป็นสิ่งของ หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทมส์ ออฟ มอลตา รายงานช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
อดีต สมาชิกทีมคุ้มกันกัดดาฟี ทั้ง 5 เปิดใจกับ ดร.ซีฮัม ซีร์กีวา (Seham Sergewa) นักจิตวิทยาในเมืองเบงกาซี ว่า พวกเธอถูก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ข่มขืน และล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนปล่อยตัวพวกเธอออกจากหน่วย “อะเมโซเนียน การ์ด” (Amazonian guard) ซึ่งเป็นทีมทหารหญิงอารักขากัดดาฟี หลังจาก “เบื่อ” พวกเธอแล้ว
ซีฮัม ซีร์กีวา ได้เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการข่มขืนจากน้ำมือของกองกำลังกัดดาฟี โดยหวังใช้เป็นหลักฐานการดำเนินคดีในศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ ซึ่งได้ออกหมายจับตัวกัดดาฟี บุตรชาย และผู้ช่วยคนสนิท ข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม
หนึ่งในเหยื่อ 5 รายนี้ ระบุว่า เธอถูกบังคับให้เข้าร่วมกับหน่วยทหารหญิงคุ้มกันกัดดาฟี หลังจากถูกหลอกว่า พี่ชายถูกทางการจับกุมคดีลักลอบขนยาเสพติดเข้าลิเบีย และเขาจะต้องโทษจำคุก หากเธอไม่ยอมเข้าร่วมกับหน่วยทหารหญิง
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทมส์ ออฟ มอลตา รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (28) ว่า “ผู้หญิงจะถูกกัดดาฟีข่มขืนเป็นคนแรก ก่อนส่งต่อเสมือนเป็นสิ่งของ ให้หนึ่งในบุตรชายของเขา และในที่สุดก็จะถูกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของระบอบกัดดาฟีล่วงละเมิดซ้ำอีก ก่อนถูกปล่อยตัวออกมา”
ก่อนหน้านี้ ดร.ซีร์กีวา ก็เป็นผู้ตรวจสอบคำกล่าวอ้างกรณี “การข่มขืนเป็นระบบ” โดยนักรบสังกัดกองกำลังกัดดาฟี ระหว่างการลุกฮือขึ้นปฏิวัติการปกครองของประชาชน ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 1970 จนกระทั่งก่อนการล่มสลายของกรุงตริโปลี พันเอกกัดดาฟีมักรายล้อมไปด้วยทหารหญิงที่นักข่าวต่างประเทศขนานนามว่า “อะเมโซเนียน การ์ด” พวกเธอมักพรางตัวในชุดแต่งกายแบบตะวันตก ทาเล็บสีสด และแต่งหน้าจัด
กลุ่มอะเมโซเนียน การ์ด จำนวน 30 คนต้องให้คำสัตย์สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อกัดดาฟี ยิ่งไปกว่านั้น พวกเธอจะต้องเป็นสาวพรหมจรรย์
ทหาร หญิงกลุ่มนี้จะติดสอยห้อยตามกัดดาฟีเป็นเงาตามตัว บางครั้งถึงขนาดต้องรับกระสุนแทน เช่นในกรณีปี 1998 สมาชิกหน่วยอะเมโซเนียน การ์ด เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 2 นาย ระหว่างกัดดาฟีถูกโจมตี