ลอง"เทสลาโรดเสตอร์"สปอร์ตพลังไฟฟ้า

 

 

 

 

 

 

ลอง"เทสลาโรดเสตอร์"สปอร์ตพลังไฟฟ้า

ลองขับ "เทสลา โรดสเตอร์" รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า 100% กับอัตราเร่ง0-100เพียง4วินาที

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อแล้วครับว่า ตอนนี้ผมหลงรักรถไฟฟ้าไปเสียแล้ว ต้องขอปันหัวใจรักจากเครื่องยนต์ดีเซลที่คลั่งไคล้ ไปหารถไฟฟ้าอย่างยากที่จะหักใจได้เสียแล้ว

และเจ้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ทำให้ผมหลงรักก็คือ Tesla Roadster (เทสลา โรดสเตอร์) รถสปอร์ตที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% จากสหรัฐอเมริกา ที่บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระรายใหญ่นำเข้ามาเปิดตัวในเมืองไทยเมื่อไม่นานมานี้เอง

 

 

Tesla Roadster คือรถยนต์สปอร์ต 2 ประตู ที่มีรูปร่างหน้าตาสปอร์ตเต็มรูปแบบครับ ดูจากภาพประกอบได้เลยว่าสปอร์ตแค่ไหน ไม่ต้องบรรยายแล้วครับ แค่เห็นก็น้ำลายไหลแล้ว ส่วนโครงสร้างของตัวรถนั้นตัวถังทำจากคาร์บอน ไฟเบอร์ ทั้งคัน ทำให้มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแกร่งไม่แพ้วัสดุอื่นที่ใช้ประกอบรถยนต์ แถมการประกอบรถยนต์คันนี้ยังเป็นการประกอบในแบบ Hand Built ทั้งคันอีกด้วย เรียกว่าเป็นรถยนต์ระดับงานศิลป์ชิ้นหนึ่งก็ว่าได้

แค่เห็น Tesla Roadster จอดอยู่ ก็ทำให้ผมอยากที่จะก้าวขึ้นไปนั่งยังที่นั่งคนขับเหลือเกิน แต่ เอ...รู้สึกว่าจะใช้คำว่านั่งคงไม่ถูกนัก ต้องบอกว่าเข้าไปนอนครับ เพราะเจ้า Tesla Roadster คันนี้เตี้ยติดดินเหลือเกิน ต้องมุดเข้าไปในห้องโดยสาร คือเมื่อเปิดประตูออกแล้ว ต้องหย่อนก้นลงไปนั่งก่อน แล้วค่อยยกขาเข้าสู่ห้องโดยสารเหมือนกับการเข้าไปนั่งในรถสปอร์ตคันเล็กๆ อย่างโลตัส หรือรถสปอร์ตพันธุ์ดุอย่างลัมเบอร์กินี

เมื่อเข้าไปนอน เอ้ย นั่งหลังพวงมาลัยแล้ว ก็ต้องปรับความคุ้นเคยเสียหน่อย เพราะความรู้สึกเหมือนกับนั่งในห้องค็อกพิตรถแข่งเลยครับ เบาะนั่งแบบบักเก็ต ซีต พอดีตัวเป๊ะ ไม่ต้องคิดว่าจะหันซ้ายหันขวาให้วุ่นวาย หน้ามองตรง หลังตรง ขาเหยียดราบไปกับพื้นรถที่ใกล้กับพื้นถนน นั่นก็หมายความว่าคุณพร้อมแล้วที่จะพุ่งออกสู่ท้องถนน

พวงมาลัยหนังทรงสปอร์ต 3 ก้าน กระชับมือดีเหลือเกินครับ ไม่ต้องหาปุ่มควบคุมอะไรให้เสียเวลา เพราะไม่มี มีแต่พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ ส่วนก้านพวงมาลัยสีเงินดูเท่ เหมาะกับพวงมาลัยรถสปอร์ตไม่น้อยทีเดียว

 

 

ผมเองนั้นเริ่มงงๆ ตั้งแต่เข้ามานั่งหลังพวงมาลัยแล้วครับ เพราะเมื่อเข้ามานั่งแบบท่าไม่ค่อยสวยแล้ว เสียบกุญแจสตาร์ตไปที่คอพวงมาลัย แต่เวลาสตาร์ตไม่ต้องบิดกุญแจนะครับ บิดไม่ได้ แต่ใช้กดปุ่มที่กุญแจแทน จะได้ยินเสียงปี๊บ... เบาๆ พร้อมกับไฟบริเวณแผงหน้าปัดสว่างขึ้น นั่นหมายความว่าระบบไฟฟ้าทำงานแล้ว และไม่ต้องเงี่ยหูฟังเสียงมอเตอร์ด้วยนะครับ เพราะไม่ได้ยินแน่นอน เรียกว่าเครื่องติดแบบผู้ดี คนขับเองยังไม่รู้เลยว่าเครื่องติด

เครื่องติดแล้ว เปลี่ยนเกียร์เลยดีกว่า อ้าว ไม่มีคันเกียร์ มีแต่ปุ่มบอกตำแหน่งเกียร์ คือ P N R และ D ที่อยู่บริเวณคอนโซลกลางใต้วิทยุเท่านั้น ซึ่งตัวอักษรแต่ละตัวก็บอกการทำงานอยู่แล้วว่าคืออะไร ผมก็เลยกด D ทันที เพื่อที่จะเดินหน้าออกจากโชว์รูมของอีตั้น
ความเป็นรถสปอร์ตปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน แต่ไม่ใช่มาจากมอเตอร์ของเจ้า Tesla Roadster นี้นะครับ แต่มาจากพวงมาลัยที่สุดแสนจะหนัก ผมไม่ได้ขับรถที่พวงมาลัยหนักอย่างนี้มานานแล้ว นับตั้งแต่ขับรถเฟียต 1500 ของคุณพ่อ ก็เมื่อประมาณเกือบ 30 ปีมาแล้ว

แน่นอนแล้วว่ารถคันนี้ไม่มีพวงมาลัยพาวเวอร์มาช่วยผ่อนแรง เล่นกล้ามให้พร้อมก่อนขับน่าจะเป็นทางออกทางเดียวที่ทำได้ ทำยังไงได้ครับ อยากเท่ก็ต้องแลกกับเหงื่อหน่อย

Tesla Roadster นั้นขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ไม่มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแต่อย่างใด ดังนั้นมั่นใจได้ว่าไม่มีการปล่อยมลพิษใดๆ ออกมาจาก Tesla Roadster คันนี้อย่างแน่นอน

และเจ้ามอเตอร์ไฟฟ้าที่เอาพลังงานมาจากแบตลิเทียม อิออน ก็ได้สำแดงเดชให้ผมได้รู้ซึ้งว่า การได้ขับรถไฟฟ้าความเร็วสูงนั้นเป็นอย่างไร

 

 

ต้องบอกว่าอัตราเร่งของ Tesla Roadster นั้นเป็นอัตราเร่งในฝันของนักขับรถทีเดียว เพราะเพียงแค่กดคันเร่งลงไป สิ่งที่คุณจะได้รับคืออัตราเร่งที่ตอบสนองมาในทันที ยิ่งกดเร็ว กดแรง แค่ไหน อัตราเร่งก็ยิ่งเร็วและแรงในแบบที่คุณนึกไม่ถึงทีเดียว ว่าอาการหลังติดเบาะและหนังหน้าถูกดึงไปด้านหลังนั้นจะเกิดขึ้นกับการขับรถไฟฟ้า

เชื่อหรือไม่ครับว่า อัตราเร่งของ Tesla Roadster นั้นอยู่ในระดับท็อปๆ เทียบเท่ากับรถซูเปอร์คาร์ของโลกเลยทีเดียว เพราะอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น ใช้เวลาเพียง 4 วินาทีเท่านั้น!! เพราะมอเตอร์ไฟฟ้าของ Tesla Roadster ให้กำลังแรงม้ามากถึง 288 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดมาถึง 370 นิวตันเมตร ที่ 0-5,400 รอบต่อนาที

ท่านผู้อ่านอ่านไม่ผิดครับ แรงบิดเริ่มที่รอบเครื่อง 0-5,400 รอบต่อนาที แปลว่า แรงตั้งแต่ออกตัวไม่มีช่วงฟรีให้พักหายใจแต่อย่างใด แถมไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ให้วุ่นวายอีก เกียร์ D เกียร์เดียวไปโลด

จึงไม่แปลกใจเลยครับว่า อัตราเร่งที่เกิดขึ้นนั้นจะรุนแรงขนาดไหน เหยียบเป็นมา ไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์เหมือนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แต่อย่างใด ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ได้จากการขับรถไฟฟ้าทีเดียว นอกจากนี้เวลากดคันเร่งหนักๆ จะได้ยินเสียงวี้ดของมอเตอร์ไฟฟ้าเหมือนกับเวลาเราขึ้นไปนั่งบนรถไฟฟ้าแถวสยามสแควร์ยังไงยังงั้น เพลินจริงๆ ครับ

นอกจากอัตราเร่งที่แสนจะเร้าใจแล้ว เวลาผ่อนคันเร่งหรือยกคันเร่งแล้วความเร็วรถจะถูกหน่วงโดยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบที่เรียกว่าหัวคะมำเลยทีเดียว เหมือนกับการใช้เอนจินเบรกโดยไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์อีก ทำให้ไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับระยะเบรกเท่าไหร่ เพราะเพียงแค่ยกคันเร่งก็เหมือนแตะเบรกแล้ว

ผมสนุกกับการกดคันเร่งแบบลืมตัว แต่ไม่ลืมเหลือบตามองแผงมาตรวัดที่หน้าปัดหลังพวงมาลัย ที่มีจอบอกกำลังไฟฟ้าที่ใช้ระยะเวลาวิ่งที่เหลืออยู่ ความเร็วที่ใช้ อุณหภูมิภายนอกอยู่ตลอดเวลา เพราะยิ่งขับสนุกเท่าไหร่ ระยะทางที่วิ่งได้ตามสเปกหลังชาร์จไฟเต็มที่นาน 7 ชั่วโมงครึ่ง ที่บอกว่าวิ่งได้ไกล 394 กิโลเมตรนั้น เมื่อมาอยู่กับผม ระยะทางที่วิ่งได้เหลืออยู่เพียง 200 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น
ส่วนระยะทาง 390 กว่ากิโลเมตรนั้น ต้องขับที่ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอย่าหวังว่าผมจะทำอย่างนั้น รถแรงขนาดนี้ เรียกม้า 200 กว่าตัวออกมาเพียงแค่แตะคันเร่ง ผมไม่ประหยัดกำลังเท้าแน่ๆ

 

 

แต่สิ่งที่ผู้ขับ Tesla Roadster ต้องยอมรับคือความต่ำต้อยเวลาขับไปบนท้องถนนที่เราจะอยู่เตี้ยกว่าทุกผู้นามที่ใช้รถบนท้องถนน ยิ่งเวลาจอดเทียบรถเมล์ มองเห็นแต่ใต้ท้องรถเมล์เท่านั้น มอเตอร์ไซค์เรายังเห็นแค่เข่าคนขับเลยครับ

ช่วงล่างกระด้างแบบดิบๆ กับช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ที่ทำหน้าที่เกาะถนนได้อย่างหนึบหนับไว้ใจได้ ถ้าใจถึงเข้าโค้งที่ความเร็วสูง ซึ่งไม่ต้องห่วงว่ารถจะไปไม่ได้ อยู่ที่ว่าเราเอาอยู่หรือเปล่าก็เท่านั้น เพราะรถขับหลังคันนี้ถ้าหลุดโค้งแล้วแก้ยากน่าดู

เพียงช่วงเวลาสั้นๆ กับระยะทางเกือบ 100 กิโลเมตร ที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสกับ Tesla Roadster รถพลังงานไฟฟ้า 100% ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับเทคโนโลยีไฟฟ้าสุดยอดและก้าวไกลไปได้แค่ไหน

แต่กับค่าตัว 8.6 ล้านบาทนั้นอาจจะไกลเกินเอื้อมสำหรับบางคน แต่หากใครที่ไขว่คว้าอยากได้รถไฟฟ้าคันนี้ คือทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะขับมันถึงใจขนาดนี้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเสียเงินเติมน้ำมันครั้งละ 2,000-3,000 บาท ก็คุ้มจะตายแล้ว

 

Credit: http://www.posttoday.com/ยานยนต์/ทดลองขับ/107214/ลองเทสลาโรดเสตอร์สปอร์ตพลังไฟฟ้า
27 ส.ค. 54 เวลา 11:05 5,065 3 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...