เล่า กันว่าพระถังซัมจั๋งและศิษย์รวม 4 คนได้เดินทางไปยังดินแดนตะวันตกอัญเชิญพระไตรปิฎก และมาพบกัน อุปสรรคอยู่ที่ภูเขาพระเพลิง เรื่องราวที่ซุนง๊อคงไปยืมพัดใบกล้วยถึงสามครั้งก็เกิดขึ้นที่นี่
แต่ เดิมภูเขาพระเพลิง เกิดจากการที่ซุนง๊อคงได้เตะเตาเคี่ยวยาของเทพอาวุโสบนสวรรค์ล้มระหว่างที่ ขึ้นไปก่อความวุ่นวายในวังบนสวรรค์ ทำให้มีถ่านบางส่วนที่ยังติดไฟอยู่ตกลงสู่พื้นดินในโลก มนุษย์จนกลายเป็นภูเขาแห่งนี้ “ไซอิ๋ว”นิยายได้สร้างสีสันความลี้ลับให้แก่ภูเขาพระเพลิง จนภูเขาแห่ง นี้ได้กลายเป็นภูเขาแห่งความน่าพิศวง
มี ความยาวทั้งสิ้น 98 กิโลเมตร มีความกว้างจากเหนือ ไปใต้ยาว 9 กิโลเมตร โดยรวมมีความสูงประมาณ 500 เมตร ยอดที่สูงที่สุดอยู่ใกล้ๆกับห้วยถู่ยู่ในอำเภอซ่านซ่าน มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 831.7 เมตร
ภูเขาพระเพลิง เป็นภูเขาหัวโล้นที่แห้งแล้งกันดารไม่มีต้นหญ้าขึ้นแม้สักต้น ทุกครั้งในช่วงกลางฤดูร้อน พระอาทิตย์ร้อนแรงอยู่ตรงกลางศีรษะ ไอร้อนจากพื้นดินระอุไปทั่ว เมฆหมอกเปลวไฟปกคลุมล้อมรอบภูเขา ตัวภูเขาที่มีสีแดงเข้มรูปร่างเสมือนดั่งมังกรไฟที่กำลังทะยานบินเป็นภาพที่ ดูยิ่งใหญ่มาก
ภูเขา พระเพลิง เป็นสถานที่ที่ร้อนที่สุดในประเทศจีน อุณหภูมิสูงสุดในฤดูร้อนสูงถึง 47.8 องศา อุณหภูมิสูงสุดบนพื้นผิวดินสูงกว่า 70 องศาขึ้นไป เนื่องจากการ เคลื่อนไหวของเปลือกโลกจนเกิดการแตกระแหงและสายน้ำถูกตัดขาด ทำให้ตอนกลางท้องภูเขายังคงเหลือ เป็นลำห้วยที่เกิดจากน้ำกัดเซาะจำนวนมาก ก่อให้เกิด เป็นแผ่นดินสีเขียวแคบๆ ทอดตัวยาวหลายสายด้วยกัน โดยห้วยที่มีชื่อเสียงที่สุดต้องยกให้ห้วยผู่เถาโกว (ห้วย องุ่น)
นอก จากนั้นยังมีห้วยถาวเอ๋อร์โกว ห้วยมู่โกว ห้วยถู่ยู่โกว ห้วยเหลียนมู่ชิ่นโกว ห้วยซูโป๋โกว ฯลฯ ในห้วยเหล่านี้ มักจะมีน้ำพุใสไหลระรินมีร่มเงาต้นไม้ใบหญ้าบดบังแสงแดด ทิวทิศน์งดงาม ผลไม้โชยกลิ่น หอมอบอวล นับเป็นภาพทิวทัศน์ที่ตัดกันอย่างชัดเจน กับเขาพระเพลิงที่แห้งแล้งยอดเขาหัวโล้น
ภูเขาพระเพลิงตั้งอยู่บนเส้นทางด้านเหนือของ “เส้นทางสายไหม” ที่จวบจนปัจจุบันนี้ยังคงมีโบราณสถาน ด้านวัฒนธรรมหลงเหลือให้เห็นเป็นจำนวนมาก
ข้อมูลเพิ่มเติม นิตยสารแม่น้ำโขง