สารพัดโรคดารา คนธรรมดาไม่อยากเป็นด้วย
เจ็บไข้ได้ป่วยน่ะมันเรื่องธรรมดา อย่าว่าแต่คนเดินดินกินข้าวแกงอย่างเราๆ เลย กระทั่งดาราระดับซุป’ตาร์ ก็พร้อมใจยกขบวน เปื่อย อูย!!! ป่วย (ซะงั้น) ยิ่งเฉพาะ “โรคปากเบี้ยว” ฮิตกันจัง เป็นกันหลายราย ป่วยมาก ป่วยน้อย ตามแต่อาการ บางรายก็หายดีกลับมารับใช้ให้ความเพลิดเพลินแก่แฟนๆ เรียบร้อย แต่บางรายนี่สิอยู่ระหว่างเยียวยาและรักษา แต่ไม่ช้าไม่นานคงกลับสู่ภาวะปกติดังเดิม พร้อมเฉิดฉายเป็นดาวจรัสแสงที่สุขภาพจิตแจ่ม สุขภาพกายเจ๋ง ไร้โรคานานารุมเร้านะจ๊ะ
โอ อนุชิต กับไวรัสปลายประสาท
โอ-อนุชิต สพันธ์พงษ์
เป็นคนแรกที่ทำให้เราและคนทั้งประเทศรู้จัก “โรคปากเบี้ยว” หรือ “โรคไวรัสที่ปลายประสาทคู่ที่ 7” ซึ่งกระทบถึงประสาทซีกซ้ายขวาใช้การไม่ได้ และอาการตามมาคือ อาการปากเบี้ยว ในรายของโอนั้น ไม่เพียงแค่ปากเบี้ยว แต่ยังชาไปถึงหน้าขาครึ่งซ้ายด้วย
อาการเริ่มแรก โอว่ามันเหมือนคนนอนตกหมอน ปวดคออยู่ 2 วัน สักพักก็เริ่มปวดหัว แต่ไม่ใช่ปวดหัวจากข้างใน มันปวดที่เส้น จากนั้นเวลายิ้มปากก็จะขยับไม่ได้ อาการถัดมาที่เชื่อมโยงกันได้ นั่นคือ เวลาล้างหน้า น้ำจะเข้าตาซ้าย แม้ว่าจะหลับตา หนักสุดก็เริ่มเคี้ยวอาหารในปากไม่ได้ ทั้งหมดนี้ โอบอกเป็นอาการที่เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง
อารามตกใจเกรงจะไปกันใหญ่ โอจึงพุ่งไปพบหมอโดยด่วน พร้อมได้รับคำชี้แจงจากหมอว่า โรคนี้เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือความเครียด ทุกคนสามารถเป็นได้ ถ้าร่างกายอ่อนแอ โปรดฟังอีกครั้ง ถ้าร่างกายอ่อนแอ คุณก็สามารถเป็นโรคปากเบี้ยวได้นะจ๊ะ
แม้จะทำให้คนป่วยปากเบี้ยว แต่การรักษาก็ง่ายๆ รับยาฆ่าเชื้อไวรัสและทำกายภาพบำบัด จากนั้นอาการจะดีขึ้นภายใน 7 วัน ค่าที่โอเป็นหนัก เขาจึงพักฟื้นและรักษาร่วมเดือนทีเดียว
โรคเดียวกันอีกราย ณัฐ AF4
ว้ายยยยย!!! พี่ณัฐปากเบี้ยว อะถึงปากจะเบี้ยว (นิดหน่อย) แต่ความหล่อของพี่ณัฐไม่เบี้ยวนะฮะ (แฟนคลับพี่ณัฐยืนยัน)
ถือเป็นอีกหนึ่งรายที่โดน “โรคปากเบี้ยว” พ่นพิษใส่ นักร้องหนุ่มหน้าใส “ณัฐ AF4-ณัฐ ศักดาทร” ซึ่งในรายของณัฐ ปากเบี้ยวไม่พอ ยังเป็นที่หน้าด้วย หน้าครึ่งซีกเบี้ยว ส่งผลให้เขาต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน งดทุกงาน งานราษฎร์ งานหลวง งานบุญ งานอีเวนต์ งานแสดง คอนเสิร์ต
สำหรับอาการของณัฐ สังเกตง่ายๆ คือเวลายิ้มปากข้างซ้ายจะเบี้ยว เวลาแปรงฟันน้ำก็จะรั่วออกมาจากปาก เพราะปากสองข้างไม่เท่ากัน ทำให้กินอาหารได้น้อยลง ขณะที่ดวงตาก็ปิดไม่สนิท
เจ้าตัวยอมรับว่า เจออาการดังกล่าวเข้าก็ตกใจมาก แต่เมื่อตั้งสติได้จึงรุดไปพบหมอ และได้คำแนะนำให้ทำกายภาพบำบัด กินยา รวมทั้งฝังเข็ม ที่สำคัญ หมอย้ำนักย้ำหนา ต้องพักผ่อนให้เยอะๆ ไม่งั้นไม่หาย เพราะโรคนี้สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสและการทำงานหนัก ไม่มีเวลาพักผ่อน โรคก็สามารถกำเริบได้โดยไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของเป็นลายลักษณ์อักษร
‘พลอย’ ก็ปากเบี้ยว
แม่เจ้าว้อยยยยย จะเบี้ยวกันไปถึงไหนกัน (จ๊ะ) รายล่าสุดที่ “โรคปากเบี้ยว” แวะมาเซย์ฮัลโหล คือ นางเอกสวยเซ็กซี่ “พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์”
งานนี้เบี้ยวจริงๆ อาการปากเบี้ยวก็มีสาเหตุเหมือนกับ 2 หนุ่ม โอกับณัฐ เป็นอาการของเส้นประสาทอักเสบ เกิดจากความเครียดและเหนื่อยหนัก นอนน้อย พักผ่อนน้อย
แล้วที่ใครเมาท์มอยมาว่า ต้นเหตุของปากเบี้ยวเพราะพลอยแอบไปฉีดโบทอกซ์ เธอยืนกรานเสียงแข็งและเสียงสูง (ปรี๊ดดดด) “ไม่จริ๊งงงงง”
พลอยไปหาหมอมาแล้ว และหมอก็บอกว่า รายของเธอไม่ได้รุนแรงหรือสาหัสอะไร โดยก่อนหน้าที่พลอยจะเข้าพบหมอ เธอเริ่มมีอาการมือชา ตาตก ปากเบี้ยวนิดๆ ด้านขวา เวลาพูดรู้สึกเกร็ง นั่นทำให้นางเอกสวยอึ๋มไม่รีรอจะไปตามล่าหาต้นตอของอาการปากเบี้ยว
“ทำงานหนักมากค่ะ แล้วก็เหนื่อยด้วย รวมถึงพลอยยังมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบ เครียด จนมีคนมาบอกว่าไปฉีดโบทอกซ์ทำศัลยกรรมจนปากเบี้ยว ต้องบอกก่อนว่าหน้าคนเราไม่มีอะไรเท่ากันอยู่แล้ว ก็เริ่มสังเกตตัวเองว่าเป็นแบบนั้น ยิ่งพอคนทักด้วย เลยเข้าไปตรวจที่โรงพยาบาลถึง 3 แห่ง
ผลตรวจออกมา ไม่ได้เป็นเส้นประสาทอักเสบ แต่มีการอักเสบของเส้นประสาทจริง และคุณหมอบอกว่าพลอยเป็นโรค Bell’s Palsy ซึ่งเป็นอาการของเส้นประสาทอักเสบ เกิดจากเราเครียดและเหนื่อย นอนน้อย โรคกลุ่มนี้จะหายด้วยตัวของมันเอง ไม่ต้องรับทรีตเมนต์อะไรทั้งสิ้น หมอแนะนำให้ไปฝังเข็ม”
เรียกว่าไม่เข้าใครออกใครจริงๆ เจ้าโรคภัยไข้เจ็บ ฉะนั้น รักษาตัวเองให้ห่างไกลจากโรคภัยให้ดี “ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” ท่องไว้ๆๆๆ ให้ขึ้นใจเลยนะ