"น้องเพชร" รับอัฐิพุ่มพวง เตรียมส่งพิสูจน์ดีเอ็นเอ

น้องเพชร" ลูกชายคนเดียวของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ พร้อมกับวู้ดดี้ พิธีกรชื่อดัง เดินทางมาวัดเฉลิมพระเกียรติ เพื่อรับอัฐิที่เชื่อว่าเป็นของมารดา ขณะที่เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ได้นำกระดูกที่ไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นของพุ่มพวง จริงหรือไม่...

เมื่อวันที่ 23 ส.ค.54 ที่วัดเฉลิมพระเกียรติ ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี นายวุฒิธร มิลินทจินดา หรือ วู้ดดี้ พิธีกรชื่อดังและทีมงาน ได้มาพร้อมกับนายภัควรรธน์ พิสิษวุฒิรัชต์ หรือน้องเพชร ลูกชายคนเดียวของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ราชินีเพลงลูกทุ่ง เพื่อที่จะมาบันทึกเทปรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย ตอน พิสูจน์อาถรรพณ์พุ่มพวง โดยทางทีมงานได้ขับรถไปรับนายภัควรรธน์ หรือน้องเพชร จากที่บ้านพักมายังที่วัด และวู้ดดี้ได้พูดคุยกับน้องเพชรว่าที่รับมายังวัดก็เพื่อจะบอกให้รู้ว่าทางทีมงานได้ออกสืบเพื่อที่จะตามหาอัฐิของ พุ่มพวง จนทราบว่าได้มีพระที่วัดเฉลิมพระเกียรติ ได้เก็บอัฐิของพุ่มพวงไว้ ทางรายการจึงได้ติดต่อให้น้องเพชร มารับเอาอัฐิของ พุ่มพวง ผู้เป็นแม่

หลังจากที่วู้ดดี้ ได้พูดคุยกันจนทราบแล้วจึงได้เดินทางไปยังกุฏิที่พระครูพิสณฑ์นวการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเฉลิมพระเกียรติ เป็นพระที่เก็บอัฐิของพุ่มพวงไว้ โดยวู้ดดี้และน้องเพชรได้ขึ้นไปยังกุฏิและพบพระครู พิสณฑ์นวการ พร้อมได้สอบถามกับพระครูว่าได้เก็บอัฐิของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ไว้จริงหรือเปล่า ซึ่งพระครูได้เดินเข้าไปยังภายในห้องพร้อมกับถือโกศแบบเบญจรงค์ ออกมาวางไว้และบอกว่านี้คืออัฐิของพุ่มพวง ที่ได้เก็บรักษาไว้ แต่ก่อนหน้าที่พระครูจะเป็นผู้เก็บรักษานั้นมี พระอมรเวที รองเจ้าอาวาสเป็นผู้เก็บรักษาไว้ แต่ต่อมาพระอมรเวทีได้มรณภาพไป พระครูพิสณฑ์นวการจึงได้เป็นผู้เก็บรักษาไว้

ต่อจากนั้นหลังได้พูดคุยเบื้องต้นแล้ว วู้ดดี้และน้องเพชร พระครูพิสณฑ์นวการ ได้ลงมายังด้านล่างพร้อมนำอัฐิของพุ่มพวง ลงมาด้วยเพื่อรอเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เดินทางมาเพื่อเก็บตัวอย่างนำไปตรวจดีเอ็นเอ ว่าเป็นอัฐิของ พุ่มพวง จริง ต่อมาเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ได้เดินทางมาถึงได้เลือกเอากระดูกชิ้นที่สมบูรณ์ที่สุดจำนวน 8 ชิ้น และได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย เพื่อนำกลับไปตรวจยังที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมกับเก็บเยื่อภายในช่องปากของน้องเพชรไปเพื่อตรวจเปรียบเทียบ

ดีเอ็นเอ

นายวุฒิธร หรือ วู้ดดี้ พิธีกรชื่อดัง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น สืบเนื่องมาจากที่ตนและทีมงานมานั่งวิเคราะห์กันว่าเหตุใดครอบครัวของคุณพุ่มพวง ถึงได้ประสบปัญหามากมาย โดยเฉพาะคุณไกรสร กับน้องเพชร ทีมงานจึงได้ออกหาความจริงก็พบว่าน้องเพชร และคุณไกรสร ไม่มีเถ้ากระดูกของคุณพุ่มพวง ต่างจากญาติพี่น้องที่มีเถ้ากระดูกของคุณพุ่มพวง ทีมงานจึงได้ออกค้นหาความจริงโดยเริ่มจากวัดที่คุณไกรสร และน้องเพชรบวช เมื่อตอนคุณพุ่มพวงเสียชีวิต จึงมาพบวัดแห่งนี้ ทีมงานจึงเข้ามานมัสการท่านผู้ช่วยเจ้าอาวส ก็พบว่าที่วัดแห่งนี้มีเถ้ากระดูกของคุณพุ่มพวง เก็บรักษาไว้ ตนจึงคิดว่าน่าจะเป็นการดีที่น้องเพชร จะมีเถ้ากระดูกของคุณพุ่มพวงผู้เป็นมารดาเก็บรักษาไว้

ด้าน น้องเพชร กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่มีโอกาสได้เถ้ากระดูกของม่าม้า มาเก็บรักษาไว้ เพราะตลอดเวลา ตนพยายามสืบหาว่ามีเถ้ากระดูกของม่าม้า อยู่ที่ไหนบ้าง แต่ตนไม่ได้นึกถึงวัดแห่งนี้ เพราะตอนนั้นตนยังเล็กอยู่ จำได้แต่เพียงว่าเถ้ากระดูกของม่าม้า ถูกเก็บอยู่ในภาชนะสีม่วง แต่ไม่รู้ว่าเก็บไว้ที่วัดใด ต่อจากนี้ตนจะขอเก็บดูแลรักษาเถ้ากระดูกของม่าม้าไว้ตลอดชีวิต เพราะตลอดเวลาที่ม่าม้ามีชีวิตอยู่ตนไม่เคยมีโอกาสได้ดูแล

ส่วน พระครูพิสณฑ์นวการ ผช.เจ้าอาวาส กล่าวว่า เมื่อตอนที่พุ่มพวงเสียชีวิต อาตมาและท่านเจ้าคุณอมรเวที รองเจ้าอาวาสขณะนั้น ได้เดินทางไปกับพระไกรสร เพื่อร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพพุ่มพวง หลังจากนั้นได้ใช้สิทธิ์ของความเป็นสามีและลูก ขอเก็บเถ้ากระดูกพุ่มพวง เป็นเจ้าแรก โดยได้เลือกกระดูกที่มีความสมบูรณ์ที่สุด ก่อนจะนำมาเก็บรักษาไว้ที่วัด หลังจากนั้น ท่านเจ้าคุณอมรเวทีก็ไม่ได้ติดต่อกับนายไกรสร กระทั่งท่านเจ้าคุณอมรเวทีมรณภาพลง ซึ่งอาตมารับรู้เรื่องนี้มาตลอดแต่ไม่ได้บอกใคร กระทั่งทางวู้ดดี้ ประสานมา อาตมาจึงได้บอกเรื่องกระดูกของพุ่มพวง อาตมาอยากจะให้กระดูกพุ่มพวงได้อยู่กับทายาทก็มีเพียงน้องเพชร บุตรชายคนเดียวของพุ่มพวง