ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่

1. Amazon / South America
คงไม่มีใครไม่รู้จัก "ป่าอะเมซอน" ที่กินพื้นที่ 7 ล้านตารางกิโลเมตร น้องๆ อาจจะสงสัยว่าใหญ่ขนาดไหน บอกได้เลยว่าใหญ่กว่าประเทศไทยประมาณ 13 เท่า !! โดยป่าอะเมซอนกินพื้นที่ 2 ใน 5 ของทวีปอเมริกาใต้ มีพื้นที่อยู่ในบราซิล โบลิเวีย โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เฟรนช์เกียนา เปรู สุรินาเม เวเนซูเอลา และกายอานา นอกจากความอุดมสมบูรณ์ของป่าที่เป็นที่เลื่องลือแล้ว ในป่าแห่งนี้ยังมีสัตว์มากมายหลายชนิด ที่โด่งดังคงไม่มีใครเกินปลาปิรันยาที่เป็นปลาที่ดุร้ายที่สุดในโลก และงูยักษ์อนาคอนดาที่ยาวกว่า 13 เมตร !


2. Angel Falls / Venezuela
หรือ "น้ำตกเองเจล" ถูกค้นพบในปี 1935 เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่กลางป่าดงดิบในประเทศเวเนซูเอลาและได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก เพราะมีความสูงเกือบ 1 กิโลเมตรเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมน้ำตกนี้ได้ทางเรือและทางเครื่องบินเท่านั้น ความพิเศษของน้ำตกนี้คือ น้ำไม่สามารถตกถึงพื้นได้ เนื่องจากเป็นน้ำตกที่สูงมาก ทำให้น้ำกลายเป็นหมอกไปหมดซะก่อนจะตกถึงพื้น จึงทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีหมอกหนาปกคลุมตลอดเวลา


3. Bay of Fundy / Canada
"อ่าวฟันดี้" ได้ชื่อว่าเป็นอ่าวที่มีระดับน้ำขึ้นที่สูงที่สุดในโลก คือเวลาที่น้ำขึ้น ปริมาณน้ำจะสูงขึ้นถึง 16.2 เมตร รวมถึงมีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าและออกจากอ่าวมากกว่า 100 พันล้านตันต่อวัน ! (เยอะว่าปริมาณน้ำจืดทั่วโลกรวมกัน) การมีกระแสน้ำขึ้นน้ำลงที่รุนแรง ทำให้เกิดลักษณะนิเวศวิทยาทางทะเลแบบเฉพาะตัวและทำให้หินชายฝั่งมีรูปแบบหลากหลาย


4. Black Forest / Germany
"ป่าดำ" แห่งนี้ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมันติดกับเขตสวิตเซอร์แลนด์ เป็นป่าที่มีแนวภูเขาและต้นไม้หนาทึบจนดูมืดไปหมด หากมองจากภายนอกอาจจะดูมืดๆ น่ากลัว แต่ภายในป่ามีน้ำตก หน้าผา ลำธาร และเมืองเล็กๆ และที่นี่แหละที่เป็นต้นกำเนิดของเค้ก Black Forest นั่นเอง (ต้องเคยได้ยินกันใช่มั้ย)


5. Bu Tinah Island / United Arab Emirates
"เกาะบูตินาห์" ตั้งอยู่ในเมืองอาบูดาบี เมืองหลวงสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็นเกาะที่เป็นสมบัติของธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์ ลักษณะภูมิอากาศบริเวณนี้เป็นแบบศูนย์สูตร และมีภูมิประเทศหลากหลายทั้งแน้ำตื้น หญ้าทะเล ป่าชายเลน รวมถึงแนวปะการัง มีสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่ เช่น นกฟลามิงโก้ ปลาโลมา นกเหยี่ยวรวมถึงยังเป็นเกาะที่ได้ชื่อว่ามีฝูงพะยูนมากเป็นอันดับสองของโลก


6. Cliffs of Moher / Ireland
"ผาชันโมเออร์" ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมากที่สุดแห่งหนึ่งของไอร์แลนด์ เป็นผาชันสูง 230 เมตรริมมหาสมุทรแอตแลนติกที่เกิดจากหินทรายและหินดินดานที่มีอายุเก่าแก่ โดยหินที่เก่าแก่มากที่สุดนั้นมีอายุถึง 300 ล้านปี และมีแนวผาทอดยาวกว่า 8 กิโลเมตร กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมคือการเดินเลียบขอบผาที่สูงชันแห่งนี้




 

7. Dead Sea / Isarel , Jordan , Palestine
"ทะเลเดดซี" เป็นทะเลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง กินพื้นที่ในประเทศอิสราเอล จอร์แดน และปาเลสไตน์ เป็นทะเลน้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงมากและอยู่ในระดับต่ำกว่าน้ำทะเลมาก ด้วยความเค็มกว่าทะเลปกติถึง 6 เท่า ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในทะล รวมถึงมนุษย์สามารถลงไปนอนลอยเล่นในทะเลได้โดยไม่มีวันจม นอกจากนี้ โคลนในทะเลเดดซีได้ชื่อว่าเป็นโคลนที่มีสรรพคุณทางด้านสุขภาพและความงาม ทำให้มีคนขุดและนำมาบรรจุขายกันเป็นจำนวนมาก


8. El Yunque / Puerto Rico
เป็นวนอุทยานแห่งชาติในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเปอเตอริโก โดยชื่อ El Yunque เป็นภาษาสเปนแปลว่าดินแดนสีขาว นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อป่าอุทยานแห่งชาติแคริบเบียนอีกด้วย ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นป่าดิบชื้นที่สวยที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง และมีสัตว์ป่าหายากมากมาย เช่น นกแก้วพันธุ์เปอร์โตริกัน


9. Galapagos / Ecuador
น้องๆ คงคุ้นชื่อของ "หมู่เกาะกาลาปาโกส" กันเป็นอย่างดี เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิกที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศเอกวาดอร์ที่เกิดจากการสะสมตัวของลาวาจากภูเขาไฟเมื่อ 7-9 ล้านปีมาแล้ว หมู่เกาะกาลาปาโกสประกอบด้วยเกาะใหญ่ 5 เกาะ เกาะขนาดกลาง 8 เกาะ และเกาะเล็กอีก 6 เกาะ พร้อมเกาะแก่งเล็ก ๆ หรือโขดหินกลางทะเลอีกประมาณ 40 แห่ง โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7,994 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ในทะเล 59,500 ตารางกิโลเมตร แต่ด้วยสภาพของระบบนิเวศที่สัตว์โดนจับไปจนเกือบสูญพันธุ์ ทำให้ถูกเสนอเป็นแหล่งมรดกโลกและจัดให้อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย


10. Grand Canyon / USA
"แกรนด์แคนยอน" เป็นดินแดนหินผาและหุบเหว ซึ่งหน้าผามีความสูงถึง 1,600 เมตร อยู่ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในอดีตแม่น้ำโคโลราโดได้ไหลคดเคี้ยวตามที่ราบกว้างใหญ่ที่อยู่ระดับเดียวกับน้ำทะเล ต่อมาพื้นโลกเริ่มยกตัวสูงขึ้นเนื่องมาจากแรงดันและความร้อนอันมหาศาลภายใต้พื้นโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปและกลายเป็นแนวหน้าผากว้างใหญ่คือแกรนด์แคนยอนนี่เอง


11. Great Barrier Reef / Australia
ชื่อของ "Great Barrier Reef (เกรตแบร์ริเออร์รีฟ)" หรือแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกคงค้างคาอยู่ในสมองของน้องๆ จากวิชาสังคมศึกษา เพราะนี่คือแนวปะการังที่ยาวกว่า 2,000 กิโลเมตรในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ถือเป็นโครงสร้างที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ ฟองน้ำ 10,000 ชนิด ปะการัง 350 ชนิด หอย 4,000 ชนิด ดาวทะเลและซีเออร์ชิน (Sea Urchin) ซึ่งเป็นสัตว์ประเภทคล้ายหอย 350 ชนิด และปลามากกว่า 1,500 ชนิด


 

12. Halong Bay / Vietnam
"ฮาลองเบย์" หรืออ่าวฮาลอง เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยวในประเทศเวียดนาม โดยอยู่ห่างจากเมืองฮายอนไปประมาณ 170 กิโลเมตร ในอ่าวฮาลองแห่งนี้มีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าว 2 เกาะ คือเกาะกัดบา และเกาะ Tuan Chau ทั้งสองเกาะนี้มีคนตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างถาวร บนเกาะมีโรงแรมและชายหาดจำนวนมากคอยให้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนเกาะขนาดเล็กอื่นๆบางเกาะก็มีชายหาดที่สวยงามที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชม บางเกาะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง และบางเกาะยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์หลายชนิดอีกด้วย




 

13. Iguazu Falls / Argentina , Brazil
"น้ำตกอีกัวซู" เป็นน้ำตกที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของอาร์เจนตินาและบราซิล มีความสูงตั้งแต่62-82 เมตร และมีความยาวทั้งสิ้นเกือบ 3 กิโลเมตร ตำนานของน้ำตกนี้กล่าวไว้ว่า มีพระเจ้าองค์หนึ่งตั้งใจจะแต่งงานกับสาวพื้นเมืองคนหนึ่ง แต่ฝ่ายหญิงดันล่องเรือหนีไปกับชู้ ทำให้พระเจ้าทรงพิโรธและตัดแม่น้ำออกเป็นน้ำตกใหญ่มหึมาและสาปแช่งให้คนทั้งคู่ตกลงไป




 

14. Jeita Grotto / Lebanon
ถูกค้นพบในปี 1836 เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองเบรุต เมืองหลวงประเทศเลบานอน โดยถ้ำนี้มีความยาวกว่า 9 กิโลเมตรและมีจุดเชื่อมกับแม่น้ำใต้ดิน ในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่หลากหลายทั้งรูปทรงและสีสัน รวมถึงมีหินงอกที่ใหญ่ที่สุดในโลกความสูงกว่า 8.20 เมตรอยู่ด้วย ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมถ้ำนี้ปีละประมาณสามแสนคน

 


15. Jejudo Island / South Korea
"เกาะเชจู" ที่คอซีรีส์เกาหลีคงรู้จักกันดีแห่งนี้ เป็นเกาะภูเขาไฟและเมืองตากอากาศของเกาหลีใต้ โดยอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ 130 กิโลเมตร บนเกาะนี้มีภูเขาไฟฮัลลาซานซึ่งเป็นภูเขาไฟสูง 1,950 เมตรที่ดับแล้วตั้งอยู่ เกาะเชจูได้รับจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "เกาะเชจูและถ้ำลาวา" ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 31 ที่เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์


 

16. Kilimanjaro / Tanzania
"ยอดเขาคิลิมันจาโร" ซึ่งมีความหมายว่าภูเขาที่ทอแสงแวววาว ตั้งอยู่ในเขตประเทศแทนซาเนียในทวีปแอฟริกา เป็นภูเขาไฟยอดเดี่ยวที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงเกือบ 6 กิโลเมตร และบริเวณยอดเขา ยังประกอบด้วยอดเขาขนาดใหญ่อีก 3 ยอดคือ ยอดคีโบ ยอดมาเวนซี และยอดชีรา นอกจากนี้ บริเวณยอดเขามีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ยาวกว่า 4,500 เมตร เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา และเป็นเพียงภูเขาไม่กี่ลูกในแอฟริกาที่มีธารน้ำแข็ง


17. Komodo / Indonesia
"หมู่เกาะโคโมโด" เป็นอุทยานแห่งชาติในประเทศอินโดนีเซียที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟจนกลายเป็นเกาะ มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำและมีสัตว์ทะเลอาศัยอยู่หลายชนิด เช่น ปลาพระอาทิตย์ กระเบนราหู ทากเปลือย เพรียงหัวหอม และที่สำคัญ ที่เกาะแห่งนี้มีสัตว์ชนิดหนึ่งซึ่งสืบทอดบรรพบุรุษมาจากไดโนเสาร์นั่นก็คือมังกรโคโมโด ใครอยากเห็นรูปลองเซิร์ชดูกันเองได้เลย (เห็นแล้วอย่าคิดว่าเป็นตัวอื่นล่ะ)


 

18. Maldives / Maldives
เรียกได้ว่า "หมู่เกาะมัลดีฟส์" เป็นธรรมชาติทางทะเลที่สวยและดังที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย มีเกาะต่างๆ รวม 1,190 เกาะ แต่มีประชากรอาศัยอยู่เพียงประมาณ 200 เกาะ และได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว 74 เกาะ ภูมิอากาศเป็นแบบเขตร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ย 27 – 30 องศาเซลเซียส ใต้ท้องทะเลมัลดีฟส์เป็นโลกของสัตว์น้ำอันน่าตื่นตาตื่นใจและไม่มีพิษภัย รวมถึงเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุดของนักดำน้ำจากทั่วโลกอีกด้วย


 

19. Masurian Lake District / Poland
"ทะเลสาปเมซูเรียน" เป็นทะเลสาบบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศโปแลนด์ ประกอบด้วยทะเลสาบเล็กๆ กว่า 2,000 แห่งที่เกิดจากธารน้ำแข็งเมื่อหมื่นปีมาแล้ว มีพื้นที่รวมกว่า 52,000 ตารางกิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปได้ทั้งทางรถไฟ รถบัส และรถยนต์ กิจกรรมยอดนิยมได้แก่ การเล่นเรือใบ การพายเรือคะยัก การว่ายน้ำ


 

20. Matterhorn - Cervino / Italy, Switzerland
"ภูเขาแมตเตอร์ฮอร์น" เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ซึ่งอยู่บริเวณพรมแดนประเทศอิตาลีและสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูง 4,478 เมตรทำให้กลายเป็นภูเขาที่สูงที่สุดลูกหนึ่งในเทือกเขาแอลป์และมีหิมะปกคลุมตลอดปี น้องๆ คนไหนนึกหน้าตาของภูเขาแมตเตอร์ฮอร์นไม่ออก ก็ให้นึกถึงช็อกโกแลตยี่ห้อ Toblerone ที่ห่อสีเหลืองๆ จะมีโลโก้รูปภูเขาอยู่ นั่นแหละ ภูเขาแมตเตอร์ฮอร์น


 

21. Milford Sound / New Zealand
เป็นผืนน้ำส่วนเว้าของทะเลทาสมันที่อยู่ทางทางใต้ของเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาที่แคบและหน้าผาสูงชันที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็ง ต่อมาธารน้ำแข็งละลายกลายเป็นผืนน้ำแห่งนี้ กิจกรรมยอดฮิตคือการล่องเรือชมผืนน้ำและหน้าผาโดยรอบ นอกจากนี้บริเวณนี้ยังเป็นที่อยู่ของสัตว์สุดน่ารักอย่างแมวน้ำอีกด้วย


 

22. Mud Volcanoes / Azerbaijan
"ภูเขาไฟโคลน" แห่งนี้ เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเลแคสเปียนในประเทศอาเซอร์ไบจาน โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพราะมีคำเตือนจึงทำให้อพยพคนได้ทัน แต่สิ่งที่ตามมาคือ ได้เกิดภูเขาไฟโคลนหรือโคลนเหลวที่เกิดขณะมีการปะทุของภูเขาไฟ โดยค่อยๆ โป่งนูนขึ้นมาและขยายใหญ่ขึ้นจากแรงดันด้านล่าง มีกลิ่นเหม็น รวมถึงมีการระเหยของก๊าซหลายชนิดที่ติดไฟง่าย ดังนั้นจึงถือเป็นสถานที่อันตราย แต่ด้วยความสวยงามและน่าอัศจรรย์ จึงถูกจัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติกับเค้าด้วย


 

23. PP Underground River / Philippines
หรือที่มีชื่อเต็มว่า "The Puerto Princesa Subterranean River National Park" หรืออุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โต-ปรินเซซา ตั้งอยู่ที่เกาะปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ ที่แห่งนี้เป็นแม่น้ำใต้ดินที่มีความยาวที่สุดในโลกที่ไหลผ่านถ้ำลงสู่ทะเลจีนใต้ นอกจากนี้ในบริเวณนั้นยังมีหน้าผาที่เกิดจากหินปูนยาวกว่า 8 กิโลเมตร กิจกรมมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวคือการล่องเรือชมความงามของถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย


 

24. Sundarbans / India , Bangladesh
"ซันเดอร์บันส์" เป็นป่าโกงกางขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่กินพื้นที่ในประเทศอินเดียและบังกลาเทศ ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำคงคา ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 10,000 ตารางกิโลเมตร ชื่อป่านี้เป็นภาษาเบงกาลีแปลว่าป่าที่สวยงาม และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าจำนวนมาก เช่น จระเข้ งู กวาง นก โดยเฉพาะเสือเบงกอลและจระเข้นักล่าที่ขึ้นชื่อ


25. Table Mountain / South Africa
"อุทยานแห่งชาติ Table Mountain" ตั้งอยู่ในเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นภูเขาที่เกิดจากการยกตัวขึ้นของเปลือกโลก ต่อมาได้ผุพังและถูกกัดกร่อนโดยลมและฝน จนทำให้กลายเป็นภูเขายอดตัดรูปร่างคล้ายโต๊ะ จึงได้ชื่อว่า Table Mountain การเข้าชมสามารถทำได้ 2 ทางคือการปีนเขาขึ้นไปและการนั่งกระเช้า ที่สำคัญ บนภูเขายังมีพันธุ์ดอกไม้หายากกว่า 1,400 ชนิดอีกด้วย


 

26. Uluru / Australia
"หินอูลูรู" เป็นชื่อภูเขาหินสีแดงสูง 348 เมตรที่ตั้งตระหง่านใกล้เมือง Alice Spring ประเทศออสเตรเลียท่ามกลางความแห้งแล้งของทะเลทราย ถือเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีความแปลกเพราะตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้สถานที่นี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอะบอริจิน ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนประมาณ 400,000 คน


27. Vesuvius / Italy
แทบไม่มีใครในโลกไม่เคยได้ยินชื่อ "ภูเขาไฟวิสุเวียส" ที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองนาโปลี ประเทศอิตาลี เพราะเป็นภูเขาไฟอายุ 25,000 ปีที่ยังไม่ดับแห่งเดียวในทวีปยุโรปแผ่นดินใหญ่ สูงถึง1,281 เมตรปากปล่องมีเส้นรอบวง 1,400 เมตร และลึก 216 เมตร การระเบิดครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 79 เถ้าถ่านและลาวาได้ไหลลงมาทับถมเมืองปอมเปอีทั้งเมืองที่กำลังอยู่ในยุครุ่งเรืองให้จมหายวับภายในพริบตา


 

28. Yushan / Taiwan
"ยอดเขายูชาน" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติยูชานของไต้หวัน ส่วนมากมักเป็นที่รู้จักในชื่อของภูเขามังกรหยก มีความสูง 3,952 เมตรจากระดับน้ำทะเลและถือเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในไต้หวัน ขึ้นชื่อในเรื่องของระบบนิเวศที่ยังคงความสมบูรณ์เอาไว้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ยอดเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาเหมือนกับแสงของแก้วที่ส่องสว่าง

 

และนั่นก็คือ 28 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย น้องๆ รู้จักกันกี่ที่เอ่ย ? พี่เป้ ขอสารภาพเลยว่า บางที่เนี่ยแทบไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำอะ = ="

เอาล่ะ หลังจากเห็นหน้าเห็นตาทั้ง 28 ที่ที่เข้ารอบมาแล้ว น้องๆ ลองเลือกไว้ในใจ 7 ที่ และมาลงคะแนนให้กับ 7 ที่นั้นดีกว่า !

1. ก่อนอื่นเลย ให้เข้าไปที่ www.new7wonders.com และเลือกภาษาอังกฤษ (หรือภาษาอื่นๆ ที่ตัวเองถนัด)
2. จากนั้น ให้ติ๊กเลือก 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่ที่ต้องการโหวต
3. กรอกข้อมูลส่วนตัว โดยเฉพาะอีเมลที่ใช้นั้นต้องเป็นอีเมลที่ใช้ได้จริง เพราะทางเว็บไซต์จะส่งอีเมลมายืนยัน
4. รอรับอีเมลจากทางเว็บ (อย่าลืมเปิดดูในเมลขยะด้วย) คลิกเพื่อยืนยันการโหวตของเราด้วยค่ะ

เป็นอันเสร็จสิ้น และแล้วเราก็ได้ใช้สิทธิ์ในพลเมืองของโลกแล้ว ว้าวววว !

สำหรับคะแนนตอนนี้ ที่นำลิ่วมาอันดับ 1 แบบคงที่นั่นก็คือ เกาะเชจู เกาหลีใต้ เพราะแอบได้ยินมาว่า ทางรัฐบาลได้แต่งตั้งให้หนุ่ม JYJ (แจจุง ยูชอน จุนซู) เป็นทูตประชาสัมพันธ์ แฟนๆ เลยทุ่มโหวตให้แบบสุดตัว .... เอาล่ะค่ะ อย่านอนหลับทับสิทธิ์ รีบเข้าไปโหวตกันได้ที่ โหวตเสร็จแล้ว มาบอก ที่คอมเม้นท์ด้านล่างด้วยนะคะว่าน้องๆ โหวตให้ที่ไหนบ้าง ส่วนของ พี่เป้ ก็ตามด้านล่างนี้เลย

 


 

- Angel Falls ส่วนตัวชอบน้ำตกอยู่แล้ว ชอบตรงที่น้ำตกสูงมาก ดังนั้นน้ำจึงระเหยเป็นไอก่อนตกถึงพื้น ดูอัศจรรย์มากๆ เลย
- Black Forest นี่ก็ชอบเหมือนกันค่ะ เคยได้ยินจากคนที่เคยไปมาว่า ด้านนอกจะมืดๆ น่ากลัว แต่ด้านในสวยมากแ

23 ส.ค. 54 เวลา 19:18 8,723 10 180
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...