7 โรคจากการกินที่ "คนบ้านรวย" ควรระวัง!
"บ้านรวยทำอะไรก็ไม่ผิด"
3. ไขมันไม่รุ่ง คือมีไขมันดีต่ำ ซ้ำไขมันเลวยังขึ้นเอา ๆ โรคคนรวยแท้ ๆ เพราะแค่ยาลดไขมันเม็ดหนึ่งตั้งหลายสิบบาท ยิ่งกินยาเข้าไป ก็ยิ่งทำลายตับ แถมปวดกล้ามเนื้อ แต่ถ้าเปลี่ยนการใช้เงินแล้วนำไปซื้อ เส้นใย (Fiber) มารับประทานบ้าง ก็จะช่วยล้างไขมันได้ อาทิ รำข้าวโอ๊ต ซึ่งมีขายสำเร็จรูปหรือถั่วมันๆ ที่อุดมด้วยใยละลายน้ำ (Soluble fiber) ก็สามารถช่วยได้
4. ความดันยุ่ง เมื่ออ้วนจัดก็จะวัดความดันได้สูงตามกฎฟิสิกส์ที่ว่าแรงดันน้ำ(เลือด) จะสูงขึ้นเมื่อพื้นที่หน้าตัดเล็กลง สำหรับคนรวยเมื่อเริ่มเพลินลิ้น กินแบบเทกระเป๋าแล้วก็มักตามมาด้วยการติดรสที่ต้องปรุงให้ติดลิ้น ซึ่งนานเข้าก็อาจติดโรคเข้ามาแถมด้วย โดยเฉพาะความดันที่เกิดจากการปรุงกันมากเกินไป ขอให้ลองกินอาหารแบบไม่ปรุงให้ได้บ่อยขึ้น หาความสุขจากรสธรรมชาติที่เขาทำมาสำเร็จแล้วบ้างจะช่วยลดเสี่ยงความดันได้เป็นอย่างดี
5. สมาธิสั้น เกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เพราะในของกินหลากหลายที่ใส่สารกันบูดนั้นทำให้ความจำสั้นลง เพราะมีกรดเบนโซอิก,ซัลไฟต์ และสารให้สี ปะปนอยู่ด้วย
6. หยุดหายใจขณะหลับ คนรวยมักต้องมีกิจวัตรออกงานสังคมเป็นประจำ กว่าจะเลิกก็ดึกดื่น และเมื่อเพลียก็จะหิว หิวก็ต้องกิน ทั้งกินดึก นอนดึก บ่อยๆ ลำตัวก็จะยิ่งพองเหมือนถูกสูบลม เวลาหายใจเหมือนจมไขมันตัวเองโดยเฉพาะเวลานอนเป็นช่วงอันตรายที่ต้องจับตา ส่วนในเด็กเล็กจะทำให้การเรียนแย่ลง ขณะที่ผู้ใหญ่อาจมีโรคเก่ากำเริบได้จนถึงหลับในยามขับรถ
7. ภูมิแพ้ ลำพังแค่อ้วนก็แย่พอตัวอยู่แล้ว แต่ความรวยนั้นอาจนำโรคภูมิแพ้มาให้ด้วยเพราะคนรวยที่ “เลือกกิน” นั้นใช่ว่าจะดีเสมอไป การ "กินถูก" ดูจะมีภาษีมากกว่าเพราะว่ายิ่งเลือกกินก็ยิ่งทำให้ภูมิในร่างกายอ่อนแอไม่ได้สัมผัสกับสารกระตุ้นภูมิแพ้บ้างนิดๆ หน่อยๆ ต้องคอยกินแต่ยา ซึ่งมีทั้ง สเตียรอยด์และยาฆ่าเชื้อที่ทำให้ยิ่งดื้อยาและภูมิในร่างกายต่ำลงเรื่อยๆ กลายเป็น "อ้วนจากยา"
เห็นได้ว่า "ความรวย" มีส่วนกระตุ้นให้ป่วยได้ ถ้าไม่ระวังให้ดี ยิ่งรวยมาก ยิ่งเจริญอาหารมาก ซึ่งเป็นความรวยพ่วงด้วยโอษฐภัย ดังนั้น การที่มีเงินไม่ได้เชิญสุขภาพดีมาอยู่กับตัวเสมอไป แต่ถ้ารู้จักใช้ และมีระเบียบในใจตัวเองก็ไม่น่ากังวลมากนัก แม้จะมีอาหารรายล้อมอยู่ตรงหน้า แต่ทว่าคนรวยที่ "รวยคิด" ก็จะยับยั้งชั่งใจ และอยู่กินบนโลกนี้ไปอีกนาน