เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เป็นวันครบรอบศตวรรษ วันที่ภาพโมนาลิซา หายไปจากผนังพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ประเทศฝรั่งเศส
ภาพ ของ Vincenzo Peruggia ชาวอิตาเลียน ถูกกล่าวถึงคู่กับภาพโมนาลิซาอยู่บ่อยครั้ง ในฐานะหัวขโมยภาพรอยยิ้มอันเป็นปริศนา เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ปี 1911 จากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ประเทศฝรั่งเศส ด้วยต้องการนำภาพโมนาลิซากลับประเทศอิตาลี บ้านเกิดของลีโอนาร์โด ดาวินชี ผู้เป็นจิตรกร ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นนับว่าเป็นหนึ่งในตำนานการขโมยงานศิลปะที่โด่งดังที่ สุดของโลก ซึ่ง Peruggia ซ่อนภาพไว้ที่บ้านในกรุงปารีสตลอด 2 ปี ก่อนที่จะนำกลับไปอิตาลี เพื่อขายให้กับ Alfredo Geri นายหน้าค้าศิลปะเมืองฟลอเรนซ์ และมาถูกจับในที่สุด
ครบรอบ 100 ปี เหตุการณ์ภาพวาดโมนาลิซาถูกขโมย ยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวเมือง Dumenza ชายแดนของประเทศอิตาลีอันเป็นบ้านเกิดของ Peruggia ซึ่ง Silvio Peruggia หลานแท้ๆ ที่ยังคงอาศัยอยู่ในเมืองนี้ เล่าว่าปู่ของเขาไม่ได้หลงใหลรอยยิ้มของโมนาลิซา แต่เลือกขโมยภาพนี้เพราะเป็นภาพค่อนข้างเล็ก และต้องการแสดงให้เห็นว่ามีผลงานศิลปะอีกมากมายที่ถูกพรากจากบ้านเกิดไปใน สมัยจักรพรรดินโปเลียน
แม้ในความเป็นจริง ดาวินชี่จะเป็นคนนำภาพไปขายให้พระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 เองก็ตาม แต่มีความเห็นหลากหลายจากการโจรกรรมครั้งนั้น บางคนก็ชื่นชม Peruggia ในฐานะผู้สร้างตำนานขโมยภาพโมนาลิซาที่ไม่มีใครจับได้ ขณะที่นายกเทศมนตรีของเมืองเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจ และบอกว่าการขโมยคือความผิด ที่ไม่อาจนับเป็นความรักชาติได้
ตลอด 2 ปีที่ภาพโมนาลิซาหายไป นำมาซึ่งข้อกังขาไม่รู้จบว่าภาพโมนาลิซาในปัจจุบัน เป็นของจริงหรือไม่ เช่น ชาวเมืองมิลานบางคน ยังเชื่อว่า Peruggia ยังคงเก็บภาพต้นฉบับเอาไว้กับตัว และโมนาลิซาที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ทุกวันนี้เป็นเพียงภาพปลอม ซึ่งแม้จะไม่ค่อยมีเหตุผลแต่ความคิดนี้ทำให้เขามีความสุขมากกว่า