ละเมิดสิทธิ-ผิด-บาป!'ย่ำยีทางเพศ' 'เด็ก' นับวันยิ่งน่าห่วง
นอกจากคดีจี้ปล้นโดยมีการทำร้ายหรือฆ่าเจ้าทรัพย์ ที่ปัจจุบันในเมืองไทยเกิดขึ้นดาษดื่นราวกับเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน กับคดี ’ข่มขืน-ละเมิดทางเพศ“ ปัจจุบันก็เกิดขึ้นมากมายเช่นกัน อย่างล่าสุดก็มีคดีวัยรุ่นชายกว่า 10 คน รุมข่มขืนสาวมาดทอมวัย 18 ซึ่งนี่ก็เป็นภาพสะท้อนหนึ่ง จากสภาพการณ์จริงที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
และอีกกลุ่มเสี่ยงที่นับวันยิ่งน่าห่วง...คือ ’เด็กเล็ก“
ทั้งนี้ “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ได้รับทราบข้อมูลการ ’ละเมิดทางเพศเด็ก“ คดีหนึ่ง จาก มูลนิธิสายเด็ก 1387 ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 41/13-15 พหลโยธิน 32 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 0-2558-8116 (สายตรง), 0-2561-0981, 0-2941-7218 ต่อ 109 แฟกซ์ 0-2941-8306 หรือ สายด่วน โทร. 1387
เรื่องราวของคดีนี้คือ...วันที่ 2 ก.ค. 2554 มูลนิธิสายเด็ก 1387 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีในชุมชนแห่งหนึ่งย่านคลองเตย ว่ามีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 45 ปี ได้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กในชุมชนกว่า 10 คน แต่ไม่สามารถเอาผิดกับนายคนนี้ได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐาน นายคนนี้มักเลือกเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ เพราะเด็กไม่สามารถที่จะพูดหรือบอกใครได้ โดย ใช้ขนมและเงินหลอกล่อเด็กให้ไปกับตนในที่ลับตาคน แล้วจะกอดจูบ ลูบคลำ ร่วมเพศจนสำเร็จความใคร่ ซึ่งนายคนนี้ได้ทำแบบนี้มานาน เกิดขึ้นกับเด็กแล้วหลายคน!!
วันที่ 13 ก.ค. 2554 จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงอายุ 5 ขวบรายหนึ่ง พลเมืองดีได้ติดต่อสายด่วน โทร. 1387 เพื่อขอให้ช่วยเหลือเด็กหญิงรายนี้และเอาผิดกับผู้กระทำละเมิดเด็ก โดยพลเมืองดีได้แจ้งว่า เห็นนายคนนี้นำเด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อหายเข้าไปในห้องน้ำเป็นเวลานาน เมื่อรู้สึกว่าผิดสังเกตจึงไปแอบดู ก็พบว่านายคนนี้กำลังนั่ง
คร่อม ก้ม ๆ เงย ๆ อยู่บนตัวเด็ก แต่กับการกระทำครั้งนี้ ในเบื้องต้นก็ยังไม่สามารถจะเอาผิดอะไรกับนายคนนี้ได้ จะบันทึกภาพเป็นหลักฐานก็ไม่ได้ เพราะในห้องน้ำมืดมาก คนผิดจึงยังลอยนวลอยู่ได้
กระทั่งวันที่ 19 ก.ค. 2554 ทางมูลนิธิสายเด็ก 1387 ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ท่าเรือ และได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก พ.ต.อ.ดร.จักษ์ จิตตธรรม ผกก.สน.ท่าเรือ โดยได้นำตัวนายคนนี้มาสอบปากคำที่ สน. ซึ่งนายคนนี้รับสารภาพในเวลาต่อมาว่าตนได้กระทำการละเมิดเด็กหญิงอายุ 5 ขวบรายนี้จริง โดยมีการพยายามสอดใส่อวัยวะเพศของตนเข้าไปในอวัยวะเพศเด็ก แต่ทำไม่สำเร็จ จึงได้สำเร็จความใคร่บริเวณต้นขาของเด็ก
จากคำรับสารภาพของนายคนนี้ และผลตรวจร่างกายเด็กที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งผลการตรวจพบว่ามีร่องรอยการฉีกขาดของเยื่อพรหมจารี ทางแม่และยายของเด็กถึงกับช็อก ซึ่งทางครอบครัวระบุว่าไม่มีเวลาดูแลเด็ก เนื่องจากฐานะยากจนต้องหาเช้ากินค่ำกันทั้งครอบครัว หลังเด็กเลิกเรียนจึงฝากเด็กไว้กับนายคนที่ก่อเหตุ โดยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ ดังกล่าวขึ้น!!
สำหรับนายคนที่ก่อเหตุ ที่ผ่านมาเป็นคนที่ชาวชุมชนไว้เนื้อเชื่อใจให้ดูแลเด็กในชุมชน และดูแลมาแล้วหลายรุ่น ซึ่งเมื่อถูกตำรวจจับกุมเพราะ ’ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก“ คนในชุมชนบางส่วนก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อ?!?!?
กรณีนี้ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งกับคดี “ข่มขืน-ละเมิดทางเพศ” ที่เกิดขึ้นมากมายในเมืองไทยในปัจจุบันนั้น มีต้นสายปลายเหตุอย่างไร? ควรต้องมีการแก้ไขป้องกันอย่างไร? นั่นก็ด้านหนึ่ง
ขณะที่สำหรับกรณี ’เด็กเล็กตกเป็นเหยื่อ“ กรณีนี้สังคมไทย หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ชุมชน ครอบครัว ควรตระหนักให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ว่า ’ต้องตื่นตัวป้องกันมิให้เรื่องร้าย ๆ เช่นนี้เกิดขึ้น“ ซึ่งยุคนี้ผู้ที่ก่อเหตุนั้นอย่าว่าแต่คนนอกครอบครัวเด็กเลย แม้แต่คนในครอบครัวที่เกี่ยวพันทางสายเลือดกับเด็ก...ก็มี!!
ทั้งนี้ สำหรับเหยื่อที่เป็นผู้ใหญ่ ผู้ที่กระทำย่ำยีนั้นทั้งบาปและผิดกฎหมายอาญา ขณะที่เหยื่อซึ่งเป็นเด็ก ผู้กระทำยิ่งผิดมหันต์ ทั้งบาป ผิดกฎหมายอาญา ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และยังเป็นการผิดตาม อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งผู้คนทั่วโลกเขายึดถือกัน และไทยก็เป็นรัฐภาคีของอนุสัญญามาตั้งแต่ปี 2535
ที่ว่าผิดตามอนุสัญญา เช่น ผิดตามข้อ 19 ที่บางช่วงบางตอนระบุว่า...“รัฐภาคีจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมทั้งปวง ทั้งด้านนิติบัญญัติ บริหาร สังคม และการศึกษา ในอันที่จะคุ้มครองเด็กจากรูปแบบทั้งปวงของความรุนแรง ทั้งทางร่างกายและจิต การทำร้ายหรือการกระทำอันมิชอบ การทอดทิ้งหรือการปฏิบัติโดยประมาท การปฏิบัติที่ผิด
หรือการแสวงประโยชน์ รวมถึงการกระทำอันมิชอบทางเพศ...”
และยังผิดตามข้อที่ 34 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ที่บางช่วงบางตอนนั้นระบุไว้ว่า...“รัฐภาคีรับที่จะคุ้มครองเด็กจากการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ และการกระทำทางเพศที่มิชอบทุกรูปแบบ…”
ดังนั้น หากมีหลักฐานแน่ชัดว่าใครทำผิด ’ละเมิดทางเพศเด็ก“ ก็ควรมีการใช้อำนาจรัฐ-ใช้กฎหมายลงโทษอย่างเฉียบขาดเต็มที่...เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง ยิ่งอ้างเมา-ฤทธิ์ยาเสพติด...ยิ่งไม่ควรจะปรานี
ย่ำยีทางเพศต่อเด็ก“ อย่าให้ลุกลามไปมากกว่านี้
ทุกฝ่ายในสังคมไทยต้องช่วยกันหยุดยั้ง-ป้องกัน
อย่าให้เด็กไทยต้องเป็นเหยื่อ“ กันอีกเลย!!!!!.