Bead of Sun God ลูกปัดสุริยเทพ คลองท่อม ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดแห่งลูกปัดโบราณ เนื่องจากมีการค้นพบเพียงแหล่งเดียวที่ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เท่านั้น เริ่มแรกเรียกชื่อกันอย่างตรงไปตรงมาว่า "ลูกปัดหน้าคน" แต่ต่อมาก็ดูแล้วพบว่าเหมือนอินเีดียแดงที่ประดับศีรษะด้วยขนนก จึงพากันเรียกว่า "ลูกปัดหน้าอินเดียนแดง" กันอยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาจึงเรียกว่า " ลูกปัดสุริยเทพ " ดังปัจจุบันนี้

การผลิต ลูกปัดสุริยเทพ คลองท่อม
ลูกปัดสุริยเทพ คลองท่อม ทำจากแก้ว ด้วยวิธีโมเสค (Mosaic Technique) คือเอาแก้วสีขาวและสีดำมาเรียงเป็นรูปใบหน้า ตา ปาก จุด และแนวเส้นรัศมีแล้วหลอมด้วยความร้อนจนอ่อนตัว แล้วจึงดึงยืดเป็นเส้นยาวทำให้มีรูปหน้าตัดเป็นใบหน้าคน ตามความยาวตลอดความยาวทั้งเส้น ก่อนจะตัดเป็นแว่นๆ แล้วเจาะรูสำหรับร้อยเชือก

ลักษณะของ ลูกปัดสุริยเทพ คลองท่อม
ผลิตจากแก้ว คาดว่ามีอายุ ประมาณช่วงต้นพุทธศตวรรษ (ประมาณ 2,000 กว่าปี) ค้นพบได้เพียง แหล่งเดียวที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ประเทศไทย เท่านั้น สันนิษฐานว่าอาดจะผลิตในเมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ เนื่องจากมีชื่อเสียงในการทำแก้วโมเสค (แต่ปริศนาคือ ทำไมจึงพบเพียงที่ คลองท่อมเท่านั้น และมาปรากฎที่คลองท่อมได้อย่างไร ? ) ลูกปัดมีลักษณะ แบนกลม มีลวดลายหน้าคนตาโต ปากเป็นเส้นตรง อยู่ในวงเส้นตรงชี้ออกตามแนวเส้นรัศมี บางเม็ด จะพบว่ามีส่วนที่เป็นสีแดงและเขียวเคลือบอยู่อีกชั้นหนึ่งนั้น ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาที่แน่นอน แต่มีนักวิชาการบางท่านอ้างว่า "น่าจะมาจากแก้วบริเวณผิวของท่อนแก้วละลายย้อยลงมา" หรือ "เป็นการป้ายทาด้วยแก้วสีเขียวและแดง ซึ่งจะสังเกตได้ว่ามีการสึกกะเทาะหลุดออกไปมากแล้วในบางเม็ด" เปิดตำนาน ลูกปัดสุริยเทพ คลองท่อม
ต้องย้อนไป ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 6 ถึง 7 อาณาจักรทวารวดี และอาณาจักรศรีวิชัย ลูกปัดที่ทำด้วยแก้วเป็นหลักฐานสำคัญที่พบในแห่งโบราณคดีของไทย เป็นลูกปัดที่นำเข้าจากประเทศอินเดีย อาณาจักรโรมันแสดงให้เห็นว่าในอดีตพื้นที่มีลูกปัดบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ เป็นศูนย์รวมการค้า เป็นเมืองท่าเรือที่มั่งคั่ง วัตถุที่สำคัญนำมาลูกปัดเช่น ศิลา สำริด ปูนปั้น ทำเป็นสัญลักษณ์ลูกปัด กำไล ต่างหู ขวด กระปุก ตลับ ภาชนะต่างๆ
ลูกปัดที่หายาก และทำขึ้นจำนวนจำกัดเพื่อมอบให้กับชนชั้นผู้นำ หรือบุคคลที่มีความสำคัญ เป็นรูปสุริยเทพ จันทรเทพ ซึ่งมีความเชื่อกันว่าสรรพสิ่งสรรพสัตว์ในจักรวาลนี้ ถ้าขาดเทพทั้งสององค์นี้ จักรวาลก็ต้องดับสูญ โบราณจึงได้ปั้นสร้างรูปลักษณ์ของเทพเจ้าขึ้นมา เพื่อบูชาขอพรให้ขจัดปัดเป่าภูตผีปีศาจและให้เป้นผู้ที่ปราศจากโรคภัย ให้อายุยืน ให้ค้าขายเจริญรุ่งเรือง


เทพ อพอลโล สุริยเทพ (เทพอพอลโล Apollo)
อพอลโล (Apollo ภาษากรีก: อพอลลอน) บุตรชายคนโตของมหาเทพซุส กับนางเลโต เป็นหนึ่งใน 12 เทพ แห่งโอลิมปัส เป็นเทพแห่งแสงสว่าง หรือเทพแห่งดวงอาทิตย์ รวมถึงเป็นเทพแห่งสัจจะและการดนตรีด้วย อพอลโล มีพี่สาวฝาแฝดชื่อ อาร์เทมิส หรือ ไดอาน่า (ในโรมัน) ซึ่งเป็นเทพีแห่งดวงจันทร์
อพอลโล เป็นเทพที่ชาวกรีกถือว่ามีรูปงามยิ่ง และเป็นนักดนตรีผู้ขับกล่อมเทพทั้งปวงบนเขาโอลิมปัส ด้วยพิณถือ ของท่าน นอกจากนี้เธอยังมีคันธนูซึ่งยิงได้ไกล จึงได้สมญานามว่า เทพขมังธนู และนอกจากนี้ ยังเป็น เทพผู้ถ่ายวิชา โรคศิลป์ ให้แก่มนุษย์เป็นปฐม เป็นเทพแห่งแสงสว่างผู้ขจัดความมืดและเป็นเทพแห่ง สัจธรรม ผู้ไม่เคย เอ่ยวาจาเท็จ
ข่าว ฉกลูกปัดสุริยเทพ สยามมิวเซียม

จดหมายโจร โจรกลับใจ ส่งคืน ลูกปัดสุริยเทพ คลองท่อม
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2552 เวลา 10.30 น. ทางเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์มิวเซียมสยามได้แจ้งมา ว่าได้รับจดหมายจ่าหน้าซองถึงมิวเซียมสยาม ถนนสนามไชย เขตพระ นคร กทม. 10200 ติดแสตมป์ 3 บาท เมื่อเปิดซองจดหมายออก พบลูกปัดสุริยเทพบรรจุ ในถุงพลาสติกใสขนาด 6 คูณ 5 ซ.ม. และพบจดหมายกระดาษเอ 4 เขียนข้อความว่า "ฉันต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้ต้องเดือดร้อนกันทุกคน ฉันขอคืนให้ก็แล้วกันนะ จะได้สบายใจกันทุกฝ่าย" ลงท้ายข้อความว่า "ขอโทษจากใจจริง"
แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า "ความผิดในคดีลักทรัพย์ได้สำเร็จแล้วซึ่งเป็นคดีอาญา จึงไม่สามารถยอมความไม่ได้ ต้องทำการสืบสวนต่อไปว่าใครเป็นคนลักเอาไป เพื่อดำเนินคดีข้อหาในการกระทำความผิด คือ ลักทรัพย์โดยทำลายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ อัตราโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 2,000-10,000 บาท"

ภาพสเกตช์ ภาพสเกตช์ ผู้สงสัย ฉกลูกปัดสุริยเทพ
ตำรวจ คาด ว่าคนร้ายคงเป็นคนที่เข้ามาร่วมชมงานแสดงโชว์ลูกปัด มากกว่าที่จะเป็นแก๊งโจรกรรม โดยอาศัยจังหวะที่มีผู้เข้าชมอยู่น้อย เลื่อนตู้โชว์ออกและหยิบฉวยออกไปอย่างง่ายดาย เพราะระบบรักษาความปลอดภัยช่วงแรกๆนั้นหละหลวมมาก ลักษณะรูปพรรณของผู้ต้องสงสัย เป็นชายไทย อายุประมาณ 30-35 ปี รูปร่างท้วม ใบหน้ากลมผิวไม่เรียบ ผิวเนื้อดำ-แดง สูงประมาณ 175 ซ.ม.

เม็ดนี้ที่ถูกฉก ฉกลูกปัดสุริยเทพ สยามมิวเซียม
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2552 เมื่อเวลา 20.00 น. พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน ผกก.สน.พระราชวัง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) ว่ามีคนร้ายทำการโจรกรรมหินมีค่าที่นำมาแสดงในงาน “ปริศนาแห่งลูกปัด” ไป จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน กำลังฝ่ายสืบสวนและกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ
จากการสอบสวนหัวหน้าฝ่ายพิพิธภัณฑ์และกิจกรรม เปิดเผยว่า ลูกปัดที่หายไปเป็นลูกปัดโบราณที่ทางพิพิธภัณฑ์ได้ยืมมาจาก นพ.บัญชา พงศ์พานิช เพื่อนำมาแสดงในงาน โดยลูกปัดดังกล่าวมีชื่อที่นักสะสมต่างกล่าวขานกันว่า “ลูกปัดสุริยเทพ” ค้นพบที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซ็นติิเมตร นอกจากนี้ยังมีลวดลายคล้ายรูปหน้าตาของสุริยเทพ หินมีขอบสีเขียวและสีแดงสลับกันคล้ายรัศมีแสงอาทิตย์ คาดว่ามีอายุต่ำกว่า 2,000 ปี และไม่สามารถตีมูลค่าเป็นตัวเงินได้