จากนั้นมาต่อกันที่ความแข็งแกร่งของเพลงบัลลาดอย่าง Billy ผลงานจากอัลบั้มแรกก็ถูกนำมาโชว์ได้อย่างเหมาะเจาะลงตัวพอดีเช่นกันกับพลังเสียงบางๆของนักดนตรีแบ็คอัพ รวมถึงเพลง Wisemen ที่เขาร้องและดีดกีตาร์คลอไปพร้อมเล่นกับแฟนๆให้ร่วมร้องไปด้วยกับท่อน "Where are you now?" ก่อนที่จะซึ้งกันต่อกับเพลงที่คุ้นหูกันดีจากอัลบั้มที่ 2 อย่าง Carry You Home ที่งานนี้มีแฟนๆร่วมร้องไปด้วยดังลั่นฮอลล์
พักอารมณ์เศร้าซึ้งมาต่อกันที่เพลง These are the words ผลงานจากอัลบั้มล่าสุด Some Kind of Trouble เพลงจังหวะป๊อป-ร็อกสนุกสนานที่แม้จะยังเป็นเพลงอกหักแต่ก็ชวนคนให้เบิกบานสุขใจและขยับไปด้วยกันเหมือนในเนื้อเพลงที่ว่า "dancing with a broken heart"
เจมส์ บลันท์ เปลี่ยนจากกีตาร์มาบรรเลงนิ้วบนเปียโนในเพลง I'll Take Everything ที่ อินโทรลขึ้นต้นมาแบบซึ้งๆก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นจังหวะร็อกที่งานนี้เจ้าตัว ยืนดีดเปียโนพร้อมโยกกับเปียโนไปอย่างสุดมันเล่นเอาสาวๆกรี๊ดกันดังเป็นแถบๆ กับลีลาโยกสุดเร้าใจ ก่อนที่เขาจะมาหยิบกีตาร์ไฟฟ้าสะกดอารมณ์กันต่อกับเพลง Out of My Mind ที่ทำให้ฮอลล์กึกก้องไปด้วยจังหวะร็อก
จากนั้นเขากลับมาที่เปียโนอีกครั้งเพื่อกระชากอารมณ์คนดูให้มาซึ้งกันสุดๆกับการบรรเลงในเพลง Goodbye My Lover ที่ทำให้คอนเสิร์ตครั้งนี้น่าตราตรึงสุดประทับใจกับเสียงร้องที่เศร้าซึ้ง กินใจสะกดอารมณ์ผู้ฟังได้เป็นอย่างดี เล่นเอาคนอกหักถึงขั้นน้ำตาซึมไปตามๆกัน กลับมาที่บัลลาดกับเพลง High ที่แม้เขาจะดีดกีตาร์โปร่งแต่ก็เข้ากันได้ดีกับไลน์ของเปียโนและกีตาร์ไฟฟ้า ที่คลออยู่หลังฉากเบาๆด้วย
ต่อกันที่เปียโนซึ้งๆบรรเลงเดี่ยวๆขึ้นต้นในเพลงดังที่ทุกคนรู้จัก กับ Same Mistake ก่อนที่เปียโนจะส่งผ่านท่วงทำนองไปยังวงแบ็คอัพที่ผสานเป็นอย่างดีแบบไม่ติด ขัดส่งอารมณ์ให้การแสดงในเพลงนี้ยิ่งได้อารมณ์ขึ้นไปอีก ยังคงอารมณ์ซึ้งกับ If Time Is All I Have เสียงร้องซึ้งๆกินใจของเขามาผสานกับทำนองเปียโนเดี่ยวๆทำเอาหลายคนถึงขั้นอินไปตามๆกัน
เจมส์ไม่ปล่อยให้แฟนๆเศร้าซึ้งได้นานเขาพาซิงเกิลใหม่อย่าง Turn Me On มา ให้ทุกคนได้ขยับไปพร้อมๆกัน ซึ่งนับได้ว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ร็อกที่สุดที่ทำให้เขาแสดงความเป็นขาร็อก ออกมามากที่สุดของค่ำคืนแล้วก็ว่าได้ โดยเพลงนี้ถูกปรุงแต่งให้สนุกด้วยจังหวะฟังก์ ก่อนที่ตอนหลังเสียงของกีตาร์โซโล่จะทำให้เพลงดูมีความเป็นกรันจ์ร็อกมาก ขึ้น เพลงใหม่อีกเพลงอย่าง Superstar เพลงร็อกสนุกๆอีกเพลงก็ถูกนำมามอบความสนุกให้ในฮอลล์คึกคักอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
คงความเปล่งประกายความเป็นร็อกเบาๆกันต่อกับบทเพลง So Long, Jimmy และ I'll Be Your Man ที่ ในเพลงหลังนี้เขาทำให้สมกับชื่อเพลงด้วยการกระโดดลงจากเวทีเพื่อวิ่งลงมาให้ ใกล้ชิดกับแฟนๆมากที่สุดก่อนจะวิ่งวนเพื่อทักทายแฟนๆทั่วฮอลล์และกลับขึ้นบน เวทีอีกครั้ง และลากลับเข้าหลังเวทีไป
แต่เจ้าตัวปล่อยให้แฟนๆอังกอร์เรียกเขาอยู่ไม่นาน ก็กลับมาอีกครั้งด้วยซิงเกิลฮิตใหม่ล่าสุด Stay The Night บทเพลงที่เขาได้รับอิทธิพลมาจากศิลปินในตำนานอย่างบ็อบ มาร์เลย์ ซึ่งเขายกเครดิตให้มาร์เลย์เป็นผู้แต่งเพลงนี้ร่วมกับเขาด้วย โดยในคอนเสิร์ตทุกคนต่างก็ร่วมร้องโหว่ โว โว โว้ ไปด้วยกันกับบลันท์อย่างสนุกสนาน ก่อนที่เขาจะกลับมาที่เปียโนอีกครั้งเพื่อปิดท้ายค่ำคืนด้วยเพลงฮิต 1973 และให้แฟนๆร้องเพลงท่อน "Here we go again" ไป กับเขา จนเมื่อร้องจบเขาก็แสดงความขี้เล่นออกมาด้วยการ ขึ้นไปยืนบนเปียโนแบบเท่ห์ๆพร้อมทำท่าเหมือนกำลังเล่นเซิร์ฟเรียกรอยยิ้มจาก แฟนๆ และลากลับด้วยการแนะนำนักดนตรีเพื่อนร่วมวงพร้อมโค้งให้แฟนๆอย่างสวยงาม เพื่อเป็นการอำลาคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยของเขาอย่างแสนประทับใจ