วันที่ 9 ส.ค. เดลี่เมล์รายงานสถานการณ์จลาจลเผา-ปล้นเมืองที่เกิดขึ้นในอังกฤษ ซึ่งลุกลามจากกรุงลอนดอนไปยังหลายเมือง ทั้งเบอร์มิงแฮม ลิเวอร์พูล และบริสตอลว่า ชาวโลกกำลังตกตะลึงกับเหตุการณ์ในอังกฤษ มีภาพนาทีชีวิตที่หญิงคนหนึ่งกระโดดหนีตายจากหน้าต่างชั้น 2 ของอาคารที่ไฟกำลังไหม้ บนถนนเซอร์เรย์ในย่านครอยดอน ทางใต้ของกรุงลอนดอน โดยมีมือของกลุ่มตำรวจและพนักงานดับเพลิงที่อยู่เบื้องล่างยื่นออกไปคอยรับ เป็นภาพที่แพร่หลายไปทั่วอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็วและขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์อังกฤษทุกฉบับ

เอมี่ เวสตัน วัย 33 ปี ช่างภาพจากสำนักข่าวดับเบิลยูอีเอ็นเอ็น ผู้ที่บันทึกภาพไว้ได้ เล่าว่า ตนไปถึงที่เกิดเหตุและจอดรถอยู่ห่างพอสมควร มองเห็นกลุ่มควันและเปลวเพลิงจึงวิ่งลงไปดูเหตุการณ์ เห็นตำรวจปราบจลาจลอยู่ที่นั่นราว 6-7 นาย ช่วยกันอพยพชาวบ้านหนีไฟ มองไกลออกไปบนถนนเห็นกลุ่มคนกำลังทุบร้านเข้าไปปล้นเอาสิ่งของ เมื่อมองไปที่ปลายถนนอีกด้านเห็นชายอีกคนจะวิ่งเข้าไปในกองเพลิง ร้องตะโกนว่าครอบครัวอยู่ในนั้น โดยมีตำรวจพยายามจับตัวไว้ จากนั้นไม่กี่นาทีก็มีคนตะโกนโหวกเหวกว่า มีคนกำลังจะกระโดดตึก

ช่างภาพสาวเล่าว่า ตนถูกตำรวจปราบจลาจลกันให้อยู่ห่างจากตึกที่เกิดไฟไหม้แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงไอความร้อนคุกรุ่นและมองเห็นเจ้าหน้าที่ไปรวมตัวกันที่ทางเท้าเพื่อรอรับผู้หญิงที่จะกระโดด จึงใช้กล้องถ่ายภาพเอาไว้ จากนั้นตนไม่มีโอกาสเข้าไปใกล้เนื่องจากผู้หญิงคนนั้นถูกนำตัวไปที่อื่น แต่จากการมองเห็นคาดว่าปลอดภัยดี เพราะในบริเวณดังกล่าวไม่มีรถพยาบาลมารอรับ หลังจากนั้นมีชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าในตึกที่ไฟไหม้ยังมีคนติดอยู่ ชาวบ้านหลายคนร้องไห้ที่บ้านถูกเผา บางคนต้องเสียสัตว์เลี้ยงไปในกองเพลิง หลายคนโกรธแค้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น ระหว่างที่วิ่งกลับไปที่รถ เวสตันสวนกับชาวบ้านที่กำลังทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่นผิวสี จึงนำเสื้อมาห่อกล้องไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็นเนื่องจากนักข่าวและช่างภาพตกเป็นเป้าทำร้ายด้วย