เล่น 'Facebook' ระวังมะเร็ง!

นักจิตวิทยาบอกว่า  เว็บไซต์หาเพื่อนอย่าง  Facebook  อาจเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่คนเราจะเป็นโรคร้ายได้สารพัด  เพราะทำให้เราไม่ได้เจอหน้าญาติสนิทมิตรสหาย

     ดร.เอริก  ซิกแมน  รายงานในวารสาร  Biologist  ของสมาคมชีววิทยาว่า  การส่งอีเมลแทนที่จะได้พบปะพูดจากันตัวต่อตัว  ทำให้คนเราโดดเดี่ยว

     การอยู่คนเดียวจะส่งผลเปลี่ยนแปลงการทำงานของสารพันธุกรรมหรือยีน  รบกวนระบบภูมิคุ้มกัน  ระดับฮอร์โมน  และการทำงานของเส้นเลือด  รวมทั้งบั่นทอนความรู้สึกนึกคิด

     ทั้งหมดนี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง  เส้นเลือดสมองตีบหรือแตก  โรคหัวใจ  และความจำเสื่อม

     พวกเว็บไซต์หาเพื่อน  เช่น  MySpace  และ  Facebook  เปิดทางให้ผู้คนสามารถติดต่อกับเพื่อนผ่านทางเว็บ  หรือแลกรูปถ่าย  เล่นเกม  หรือบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ  สู่กันอ่านได้

     แต่ถึงแม้เว็บพวกนี้มีไว้เพิ่มช่องทางติดต่อสื่อสาร  แต่  ดร.ซิกแมนบอกว่า  ของเหล่านี้จะยิ่งทำให้เราอยู่ตามลำพังมากขึ้น
     ผลวิจัยระบุว่า  นับแต่ผู้คนเริ่มหันมาใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์กันมากขึ้นนับตั้งแต่ปี  2530  ใครต่อใครต่างก็ใช้เวลาพบหน้าค่าตากับคนอื่นน้อยชั่วโมงลงอย่างมาก

     ดร.ซิกแมนบอกว่า  การพบปะพูดจากันโดยเห็นหน้าเห็นตัวกันนั้น  ส่งผลต่อร่างกายของเราในแบบที่ไม่ปรากฏในกรณีการใช้อีเมล  เช่น  ระดับฮอร์โมนออกซีท็อกซิน  ซึ่งส่งผลสร้างความรู้สึกผูกพัน  ฉะนั้น  การเจอตัวเป็นๆ  ของกันและกันจะให้ผลแตกต่างกับการติดต่อแบบเสมือนจริงมาก

     หรือยีนบางตัวซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันและตอบสนองต่อความเครียด  ก็จะทำงานผิดแผกกันไปตามระดับของการมีความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ

     ดร.ซิกแมนบอกว่า  เว็บไซต์สร้างเครือข่ายทางสังคมเป็นพวกที่ขยายตัวเร็วที่ สุดบนอินเทอร์เน็ต  โดยเฉพาะในหมู่เด็กและวัยรุ่น  เด็กอังกฤษมีโน้ตบุ๊คหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องนอนตั้งแต่อายุ  5  ขวบ  และมีไซต์หาเพื่อนของตัวเอง  เช่น  myCBBC  ของ  BBC  เป็นต้น

     ผลวิจัยพบว่า  เด็กที่เรียนด้วยวิดีโอหรือดีวีดี  ไม่ได้เรียนรู้อย่างดีเมื่อเทียบกับการได้เรียนกับครูจริงๆ

     ดร.ซิกแมนบอกว่า  มีการค้นพบยีนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเข้าสังคมแล้ว  209  ตัว  ซึ่งบางตัวยังทำหน้าที่ในระบบภูมิคุ้มกัน  การแพร่กระจายเซลล์  และการตอบสนองต่อความเครียดด้วย  การทำหน้าที่ของยีนพวกนี้จึงมีผลต่อโรคติดเชื้อ  และปัญหาสุขภาพต่างๆ  ที่เกี่ยวโยงกับสภาพการอยู่โดดเดี่ยวของคนเรา

     สื่ออิเล็กทรอนิกส์ยังบั่นทอนความสามารถของเด็กและวัยรุ่นที่จะเรียนรู้ทักษะการเข้าสังคมและการอ่านภาษากายด้วย

     ดร.ซิกแมนบอกว่า  ในช่วงเวลาไม่ถึง  2  ทศวรรษ  คนที่บอกว่าตัวเองไม่มีใครที่จะพูดคุยหารือเรื่องสำคัญได้นั้น  มีจำนวนเพิ่มขึ้น  3  เท่าตัว  พ่อแม่ก็มีเวลาให้ลูกน้อยลง  ผู้ปกครองชาวอังกฤษที่ร่วมโต๊ะอาหารกับลูกหลานมีสัดส่วนต่ำที่สุดเมื่อเทียบ กับในประเทศยุโรปอื่นๆ  และจำนวนคนที่ทำงานอยู่กับบ้านคนเดียวก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ.

Credit: ไทยโพสต์
#Facebook
deathnote98
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
10 ธ.ค. 52 เวลา 19:32 3,006 4 46
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...