อิทธิฤทธิ์'กุมารทอง'หลวงพ่อแย้ม-วัดสามง่าม
อิทธิฤทธิ์ 'กุมารทอง' หลวงพ่อแย้ม-วัดสามง่าม
เสริมโชคลาภ-ค้าขายร่ำรวย-เงินทองไม่ขัดสน
“เหนือ ลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน” ฉบับนี้ขอนำท่านผู้อ่านพบกับความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง และอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แห่งวัตถุมงคลของ หลวงพ่อแย้ม ฐานยุตฺโต เจ้าอาวาสวัดสามง่าม (วัดอรัญญิการาม) อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเด่นดังอีกรูปหนึ่งของ จ.นครปฐม
หลวงพ่อแย้ม ฐานยุตฺโต มีนามเดิมว่า แย้ม เดชมาก เป็นบุตรของนายแหยม และ นางวงษ์ เดชมาก เกิดเมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๔๕๘ ณ บ้านเลขที่ ๔๒หมู่ที่ ๔ ตำบลดอนตูม อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม อุปสมบท ณ อุโบสถวัดสามง่าม เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๔๘๑ โดยมีพระครูอุตรการบดี (หลวงพ่อสุข ปทุมวสโณ) วัดห้วยจระเข้เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการเต๋ คงทอง เจ้าอาวาสวัดสามง่าม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เพชร วัดสามง่าม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากท่านสอบได้นักธรรมชั้นตรีแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียนด้านการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานการเจริญสมาธิ-จิต เล่าเรียนวิชาอาคม การจารอักขระเลขยันต์ต่าง ๆ จากหลวงพ่อเต๋ คงทอง ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่ ให้ความเมตตา ครอบครูถ่ายทอดวิชาความรู้ให้อย่างครบถ้วน
ปัจจุบันหลวงพ่อแย้ม อายุ ๙๔ ปี พรรษาที่ ๗๐ ได้รับการแต่งตั้งให้มีสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ซึ่งเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าท่านมีผลงานด้านการส่งเสริมพระพุทธศาสนาอย่างดี ยิ่งนอกจากนี้ท่านยังมีชื่อเสียงด้านความเข้มขลังในพลังจิตตานุภาพ และความเชี่ยวชาญในพระเวทวิทยา โดยเฉพาะอักขระเลขยันต์ คาถาอาคมท่านจารเอง เขียนเอง ปลุกเสกด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ สร้างความเชื่อมั่นในฤทธิ์อำนาจของมงคลวัตถุของสำนักวัดสามง่าม
หลวงพ่อแย้ม ฐานยุตฺโต เป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเต๋ คงทอง อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเรื่องอาคม เจ้าตำรับตะกรุดโทน ตะกรุดหนังเสือและกุมารทองเนื้อดินโป่งวัดสามง่าม ส่วนหลวงพ่อเต๋ คงทอง เป็นศิษย์ของ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และ หลวงพ่อวงษ์ วัดทุ่งผักกูด ซึ่งพระอาจารย์เหล่านี้เป็นครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อเต๋ คงทอง ให้ความเคารพอย่างสูง หลวงพ่อแย้ม ได้มีโอกาสพบกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง อยู่หลายครั้งเพราะหลวงพ่อแช่มมักจะมาที่วัดสามง่ามเป็นประจำ บางครั้งก็แวะมาคุยกับหลวงพ่อเต๋ คงทอง ทำให้หลวงพ่อแย้ม ได้รับวิชาความรู้บางประการจากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง
นอกจากนี้ท่านยังได้ศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ทั้งฆราวาสและบรรพชิต เช่น หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จังหวัดฉะเชิงเทรา อย่างมีความ วิริยอุตสาหะเป็นอย่างยิ่งจนทำให้ท่านมีสมาธิจิตกล้าแกร่งมีความรู้และ ประสบการณ์ในด้านไสยเวทวิทยาเพิ่มพูนขึ้น ท่านมีความรู้ในด้านโหราศาสตร์แบบโบราณ การสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา วิชาแพทย์แผนไทยเป็นตำรายาสมุนไพรต่าง ๆ รวมทั้งการสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังทุกรูปแบบทุกประเภท เป็นที่ยอมรับทั่วไปว่าเป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสที่มีชื่อเสียงของเมือง นครปฐม ดังนั้นไม่ว่าจะมีงานพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคล ณ ที่แห่งใด ก็มักจะต้องปรากฏชื่อหลวงพ่อแย้มร่วมพิธีปลุกเสกด้วยเสมอ
หลังจากที่ หลวงพ่อเต๋ คงทอง มรณภาพแล้ว คณะสงฆ์จึงแต่งตั้งหลวงพ่อแย้ม ฐานยุตฺโต เป็นเจ้าอาวาสวัดสามง่ามเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๒๕
วัตถุมงคลของหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม ที่ขึ้นชื่อลือชาปรากฏอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มีประสบการณ์หลายรุ่น เช่น เหรียญรุ่น ๑ พ.ศ. ๒๕๑๖ สร้างเป็นที่ระลึกงานบุญฉลองอายุครบ ๕ รอบ เป็นเหรียญที่ดีหายากค่านิยมอยู่ในระดับสูง เพราะมีประสบการณ์เรื่องคงกระพันชาตรีหลายครั้งโดยเฉพาะประสบการณ์ที่เกิด ขึ้นที่เขตบางรัก กรุงเทพฯ เมื่อคนร้ายถูกตำรวจล้อมยิงด้วยอาวุธปืนแต่ยิงไม่ออกต้องใช้วิธีจับเป็น ปรากฏว่าแขวนเหรียญ รุ่น ๑ หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม ทำให้เหรียญรุ่นนี้เป็นที่ฮือฮาเป็นพิเศษขนาดนายพลตำรวจคนดังท่านหนึ่งก็มา ขอฝากตัวเป็นศิษย์ นอกจากนี้ก็มีพระกริ่งบารมี ๘๐ เหรียญตลับยาหม่อง พระผงรูปเหมือนเหรียญหล่อ พระขุนแผน เนื้อว่าน พระผงนางพญาเนื้อว่าน ตะกรุดโทน ตะกรุดชุด ตะกรุดสามห่วง ผ้ายันต์
แต่ที่นิยมอย่างสูงสุดจนเป็นที่กล่าวขวัญทั้งในประเทศและต่างประเทศถึง อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ความเข้มขลังก็คือกุมารทองเนื้อดินและเนื้อโลหะทุกรุ่นที่หลวงพ่อแย้มปลุก เสก โดยเฉพาะถือเป็นแบบฉบับและเป็นเอกลักษณ์ของวัดสามง่ามอย่างแท้จริง เนื่องจากสร้างและปลุกเสกตามแบบโบราณทุกขั้นตอน มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เป็นที่เลื่องลือระบือไกลทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ
บรรดาศิษยานุศิษย์ พ่อค้าแม่ค้าที่นำกุมารทองของหลวงพ่อแย้มไปบูชาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โดดเด่นทางโชคลาภ ค้าขายร่ำรวย เงินทองไม่ขัดสน
นายเสน่ห์ ไกลวงค์ตุ้ม อายุ ๕๖ ปี อดีตตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร เล่าว่าตนเองเป็นเด็กวัด ตั้งแต่หลวงพ่อเต๋ คงทองเป็นเจ้าอาวาส อยู่มาจนถึงสมัยหลวงพ่อแย้ม ฉะนั้นตนจะเห็นหลวงพ่อเต๋ และหลวงพ่อแย้ม ผสมมวลสารเพื่อนำมาสร้างกุมารทองตลอด บางครั้งก็จะเป็นคนไปหามวลสารเอง มวลสารที่หลวงพ่อใช้ เท่าที่จำได้คือมีดิน ๗ ป่าช้า ดิน ๗ โปร่ง ดิน ๗ ท่าน้ำ เถ้ากระดูกคนมีชื่อเสียงจากเมรุเผาศพ เส้นผมของสาวพรหมจรรย์ โดยหลวงพ่อแย้มจะปลุกเสก ๗ วันเน้น เฉพาะวันแข็งคือวันเสาร์ และวันอังคาร บางครั้งท่านนั่งปลุกจนมีคนได้ยินเสียงเหมือนดังขลุกขลัก แล้วจะบอกว่าองค์ไหนใช้ได้แล้ว หลวงพ่อแย้ม ได้วิชาอาคม แบบฉบับเขมรที่หลวงพ่อเต๋สอนให้ ทำให้ท่านไม่ทรงน้ำมาหลายสิบปีแล้ว เพราะคนที่ศึกษาวิชาด้านเขมร จะไม่ชอบน้ำ และไม่กลัวร้อน
นักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า ทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ มีเพื่อนเป็นชาวสิงคโปร์ และมาเลเซียหลายคนต่างกล่าวขวัญถึงชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแย้ม ตนจึงพามาให้หลวงพ่อลงกระหม่อมและลงนะหน้าทองให้
ทางด้าน นายบุญชัย กิตติกุลยุทธ์ เจ้าของโรงงานทอผ้า ได้นำวัวจำนวน ๒๒ ตัว ที่ ซื้อมาจากโรงฆ่าสัตว์ มาถวายหลวงพ่อ เพื่อให้หลวงพ่อมอบให้คนยากจนนำไปเลี้ยงขยายพันธุ์ และใช้งานด้านเกษตรกรรม โดยห้ามนำไปขายและฆ่า
นางอื๊ด ไกลวงค์ตุ้ม อายุ ๓๗ ปี บ้าน อยู่จังหวัดพะเยา อาชีพค้าขายกาแฟสด และเครื่องดื่ม บอกว่าตนเองบูชากุมารทองไว้หลายองค์ ตั้งแต่รุ่นปี ๒๕๔๗ ซึ่งเป็นรุ่นแรกของหลวงพ่อแย้ม ก็ทำมาค้าขายดีตลอดมา เงินทองไม่ขัดสน และกำลังจะขยายสาขาไปที่ อ.แม่สาย เร็ว ๆ นี้
นายสิทธิชัย ปลาแสนกุล อายุ ๒๕ ปี เหลนของหลวงพ่อแย้ม กล่าวว่า ตนเป็นคนดูแลหลวงพ่อมาตลอด ๔-๕ ปี หลวงพ่ออายุ ๙๔ ปี แล้ว แต่ยังแข็งแรงดี หลวงพ่อไม่เคยสรงน้ำเลย เพียงแค่เช็ดตัวเท่านั้น วัตถุมงคลของหลวงพ่อที่เด่น ๆ ก็คือกุมารทอง และตะกรุด ๓ ห่วง ความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์ของกุมารทองก็คือ เวลามีคนเช่าไปบูชา ก็จะโชคดี และย้อนกลับมาแก้บน จะซื้อของมาถวาย ตั้งแต่น้ำแดง จนถึงทองคำ และที่แปลกก็คือ มีจักรยานยนต์, จักรยาน นำมาถวายบ่อยมาก หลวงพ่อก็จะมอบให้เด็กนักเรียน ใช้ขี่สำหรับไปโรงเรียน ส่วนจักรยานยนต์ก็จะจอดไว้ที่กุฏิหลวงพ่อ สำหรับให้เด็กวัดเอาไว้ขี่ไปซื้อของใช้ในวัด
ขณะที่หลวงพ่อแย้มฝากธรรมเตือนใจแก่ญาติโยมว่า อยากให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติตัวดี คิดดี ทำดี และทำออกมาจากใจ ให้มีศีล สมาธิ ปัญญา ให้ละความโลภ ยอมรับในสังขารของตัวเองว่าไม่ใช่ของเรา ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น เนื่องจากความหลงเป็นสิ่งไม่รู้จริง ฉะนั้น ต้องให้ทุกคนรู้เท่าทันสังขารตัวเอง ทุกอย่างห้ามไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นฟันหัก ผมหงอก เพราะมันเป็นเรื่องอนิจจัง คิดมากไป ก็จะเป็นทุกข์ อยากให้ญาติโยมรู้ไว้ว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยง เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา มนุษย์หลีกหนีสิ่งเหล่านี้ไปไม่พ้น.
ขจร วัตรเอก ข้อมูล-ภาพ/อาราธนานัง รายงาน
-------------------
เดลินิวส์ออนไลน์
__________________
โปรด งดแสดงความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ ขาดเมตตาธรรม ส่อเสียด ดูหมิ่น สร้างความแตกแยกให้แก่สังคมกระทบกระทั่งต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และขัดต่อกฎหมาย
"ทีมงาน Palungjit ขอสงวนสิทธิ์ ที่จะ ลบ แก้ไข เคลื่อนย้าย หรือปิดกระทู้ ข้อความที่ไม่เหมาะสม โดยมิต้องบอกกล่าวแก่สมาชิกก่อน"
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย NoOTa : 15-08-2009 เมื่อ 02:41 AM
Credit:
พลังจิตดอดคอม