เริ่มต้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มาที่นี่ต้องกินปลาสดๆ ตัวใหญ่ๆ จากเขื่อนเขาแหลม หาซื้อได้ที่ "ตลาดเช้าทองผาภูมิ" สายหน่อยค่อยไปยืนชมเมืองแบบ 360 องศา ที่พระเจดีย์บนยอดเขา "วัดท่าขนุน" ก่อนมุ่งสู่ "บ้านอีต่อง" ชุมชนคนเหมืองในอดีต
โดยเฉพาะหน้าฝนอากาศจะดีมาก อาจเห็นชาวบ้าน "ย่างผ้า" ด้วยสุ่มไก่ เพราะไม่ค่อยมีแดด ไฮไลต์อีกอย่าง คือชมวิวบนเนินกูดหอย จะเห็นทะเลหมอก "เขาช้างเผือก" และทะเลสาบเขาแหลมอยู่ลิบๆ
ที่ จ.นครปฐม มี "ตลาดสุขใจ" ตลาดน่ารักๆ จำหน่ายพืชผักปลอดสารเคมี ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ทางเข้าโรงแรมโรสการ์เด้น สวนสามพราน ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ชาวบ้านจะนำผลไม้ ผักสดปลอดสารพิษมาจำหน่ายราคาย่อมเยา
นอกจากนี้ ยังมีกุ้งหอยปูปลา สินค้าโอท็อป และซุ้มอาหารนานาชนิดมาให้เลือก แถมนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปชมหมู่บ้านไทยในโรงแรมโรสการ์เด้น ริเวอร์ไซด์ หรือล่องเรือชมแม่น้ำนครชัยศรี ก็สุขใจไปอีกแบบ
ใครที่ชอบงานศิลป์ควรไปเยือนจ.เพชรบุรี ที่นี่มี "งานปูนปั้น" มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย งานที่โดดเด่นสุดอยูที่วัดมหาธาตุ เป็นรูปครุฑยุดนาค มีลายกระหนกอ่อนช้อย อีกทั้งยังมี จิตรกรรมสวยๆ ที่วัดใหญ่สุวรรณาราม วัดเกาะแก้วสุทธาราม หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย และผนังอุโบสถที่ทำด้วยไม้แกะสลักทั้งหลังที่วัดกุฏิ อ.เขาย้อย
"เมืองสายน้ำ สามเวลา" คือฉายา จ.สมุทรสงคราม นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำ 3 ตลาด ตั้งแต่เช้าจรดเย็น เริ่มต้นยามเช้าที่ "ตลาดน้ำท่าคา" ตลาดของชาวไร่ชาวสวน
สายหน่อยไป "ตลาดน้ำคลองบางน้อย" กินข้าวผัดปลาทูโบราณ อาหารขึ้นชื่อ ตกเย็นเดินเล่น "ตลาดน้ำอัมพวา" ชมสีสันร้านค้าริมฝั่งน้ำ แล้วซื้อของฝากติดไม้ติดมือ
ถัดไปที่ภาคตะวันออก จ.จันทบุรี เมืองนี้มีความหวานอยู่ในตัว ทั้งความหวานแบบคลาสสิคที่ "อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล" หรือ "โบสถ์คาทอลิก" ที่ถูกยกย่องว่าเป็นโบสถ์ที่สวย และใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย
หวานหอมอร่อยกับ "ก๋วยเตี๋ยวกั้งเจ๊อี๊ด" และนานาขนมหวานที่ย่านเมืองเก่า ที่ขาดไม่ได้คือ สีสวยหวานของ "อัญมณีเมืองจันท์" ที่งามจับใจคนทั่วโลก
ได้ชื่อว่าเป็น "เมืองหมู่เกาะมหัศจรรย์" เพราะนอกจากเกาะช้างที่รู้จักกันดีแล้ว จ.ตราด ยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยอีกมากมาย อาทิ "เกาะขาม" กับน้ำทะเลสวยใส และปริศนาก้อนหินดำที่วางอยู่ทั่วเกาะ "เกาะหมาก" ที่งดงามด้วยทิวมะพร้าว และกิจกรรมซึ่งมีให้ทำตลอดทั้งวัน และ "เกาะกระดาด" เกาะรูปร่างแบนราบ เหมือนอะทอลของมัลดีฟส์
ใครที่เบื่อตึกสูง รถติดวุ่นวาย ลองแวะไป "เมืองหัวใจสีเขียว" จ.ปราจีนบุรี ที่นี่โด่งดังเรื่องการใช้สมุนไพรบำบัดโรคภัยไข้เจ็บ มี "โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร" แหล่งจำหน่ายยาโบราณมากมาย รักษาสารพัดโรค และมี "บ้านดงบัง" ชาวบ้านทุกครัวเรือนที่นี่พร้อมใจกันปลูกพืชสมุนไพร จนกลายเป็นแหล่งผลิต และจำหน่ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ที่ว่า "ไปเสม็ด...เสร็จทุกราย" เห็นทีจะเสร็จในความน่ารักของหาดทรายขาวๆ แห่ง "เมืองเกาะแก้วพิสดาร" จ.ระยอง แต่ละหาดของเกาะเสม็ดมีเสน่ห์ต่างกัน
ถ้าชอบธรรมชาติ แนะนำให้เดินไปสุด "อ่าวกิ่ว" มองเห็นทะเลทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ส่วนที่ "อ่าวลุงดำ" ก็มีบ้านต้นไม้ ตั้งอยู่บนต้นตะบันขนาดใหญ่ ชาวบ้านชอบเอาเมล็ดด้านในมาเล่นเป็นเกมตัวต่อ
ลงใต้ จ.นครศรีธรรมราช เมืองนี้มีความเป็นมายาวนาน มีงานหัตถศิลป์ลือชื่อ ทั้งการแกะหนังตะลุงที่ "บ้านหนังตะลุงครูสุชาติ ทรัพย์สิน" การทำเครื่องเงินและเครื่องถมที่ "บ้านอาจารย์นิคม นกอักษร" และ "งานสานย่านลิเภาที่บ้านหมน" แต่ที่ทำให้เมืองนครศรีฯ โด่งดังไกล คือการสร้างจตุคามรามเทพ ที่มีต้นกำเนิดจากเมืองนี้
เมืองเก่าริมฝั่งอันดามันที่ใครเห็นต้องหลงรัก ได้แก่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา อดีตเมืองท่าแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส ให้เห็นอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณถนนศรีตะกั่วป่า และเมื่อเดินเข้าไปใน "ตลาดเก่า" จะได้ยินเสียงสนทนาของสมาชิกสภากาแฟ คนที่นี่นิยมกินกาแฟไม่ใส่นม เรียกว่า "โกปี๊" และคำว่า "โก" ก็กลายเป็นคำนำหน้าชื่อที่คนที่นี่นิยมพูดกันด้วย
ใครเคยเห็นควายดำน้ำบ้าง ถ้ายังไม่เคยเห็น ลองมาดูที่ทะเลน้อย จ.พัทลุง ที่นี่นอกจากมีดอกบัวสีชมพูบานสะพรั่ง มีนกน้ำหายากแล้ว ยังมีควายที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้บริเวณที่ลุ่มน้ำขังริมทะเลสาบ ทุกวันมันจะเดินลุยน้ำหาหญ้ากิน เป็นภาพประหลาดแต่น่ารัก และแน่นอนว่าหาดูได้ที่นี่ที่เดียว
ปิดท้ายเมืองน่ารัก ที่ จ.สงขลา ต้องบอกว่าเมืองนี้ "สวยด้วย อร่อยด้วย" เพราะย่านเมืองเก่าที่นี่มีสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส อยู่เรียงราย เช่นเดียวกับของกินอร่อยๆ ที่มีอยู่หลายเจ้า
ตั้งแต่ร้านโพยม ก๋วยจั๊บเจ๊น้อย โจ๊กเกาะไทย สตูเกียดฟั่ง หรือถ้าอยากลองของแปลกต้องแวะไปชิม ก๋วยเตี๋ยวใต้โรงงิ้ว และไอศกรีมร้านฮะเฮียง หรือ "ไอติมโอ่ง" ที่เอาไข่แดงสดๆ ราดบนไอศกรีม เสิร์ฟมาในถ้วยรูปโอ่งใบเล็ก...น่ารักเสียไม่มี
ความน่ารักแบบนี้มีให้เห็นทั่วไทย สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อขอหนังสือ "เล่าเรื่อง เมืองน่ารัก" ได้ที่สำนักงาน ททท. หรือปั๊มน้ำมันบางจากทั่วประเทศ