ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

3 ส.ค. 54 รายงานข่าวแจ้งว่า นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) ได้อ้างถึงเอกสารตีพิมพ์เผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการของ IARC หรือ International Agency for Research on Cancer ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งขององค์การอนามัยโลก

ที่ได้เผย ว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์เคลื่อน (โทรศัพท์มทือถือ) เป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งประเภท 2B หรือ เป็นไปได้ที่จะเกิดโรคมะเร็งได้

ลักษณะความเสี่ยงของโรคมะเร็ง จะเกิดจากพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ของผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้โทรศัพท์มากกว่า 1,640 ชั่วโมงจะมีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการเป็นมะเร็งสมองชนิด Glioma หรือเนื้องอกในสมอง ข้างเดียวกับที่ใช้โทรศัพท์ ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับคลื่นสูงที่สุด

“การ ถือโทรศัพท์แนบหูทำให้เกิดการดูดซับพลังงานที่สมอง ซึ่งปริมาณการดูดซับขึ้นอยู่กับการออกแบบตัวเครื่องและเสาอากาศ อีกทั้งลักษณะการใช้ และระดับสัญญาณระหว่างตัวเครื่องและสถานีฐานก็มีส่วนด้วย” ผอ.สบท.กล่าว และว่า

ก่อน หน้านี้ก็เคยนำเรื่องดังกล่าวเข้าถกเป็นกระทู้ในรัฐสภาของไทยและกระทรวง สาธารณสุขมาแล้ว โดย ขณะนั้นนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

เคยประชา สัมพันธ์แนะนำเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ประชาชนระมัดระวังไว้ 3 ประการคือ 1.ให้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เท่าที่จำเป็น 2.ไม่ควรใช้โทรศัพท์ในรถยนต์หรือขณะขับรถ และเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือด้วย